ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 4 บทที่ 116-117 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 4 บทที่ 116-117 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

117

วันนี้เป็นวันหยุดของคุณป้า พี่ติงกลัวว่าแชมป์กลุ่มนี้จะเมาค้างจนปวดหัวแถมไม่มีข้าวกิน จึงพึมพำด่าไปพลางสั่งอาหารจากร้านอาหารซึ่งปกติพวกเขาชอบกินที่สุดมาที่แคมป์

พอเขาเข้าแคมป์มาก็ได้กลิ่นบุหรี่ เขาจึงเสาะหาที่มาด้วยการตามกลิ่นไปถึงระเบียงจนมองเห็นร่างของลู่ป๋อหยวนรางๆ

แม้แต่จะวางของกินก่อนพี่ติงก็ไม่สนใจแล้ว เขาเปิดคิวอาร์โค้ดแล้วพุ่งเข้าไปด้วยความเคยชิน “เพิ่งคว้าแชมป์มาก็ลอยตัวแล้วใช่มั้ย ตอนนี้แม้แต่สูบบุหรี่นายก็ไม่ปิดประตูระเบียง ไม่เคารพฉันสักนิดเลยใช่…”

ขณะเดินเข้าใกล้และมองเห็นผู้หญิงที่ข้างกายลู่ป๋อหยวน คำพูดที่เหลือของพี่ติงก็ถูกกลืนกลับเข้าไปในท้องทั้งหมด

คุณแม่ลู่ที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้หญิงสูงศักดิ์ในใจเขามาตลอดนั้นเวลานี้ยืนพิงอยู่ข้างผนัง ในปากคาบบุหรี่มวนหนึ่งอยู่ ดวงตาคู่งามมองไปยังที่ไกลๆ ไม่กี่วินาทีให้หลังจึงหันหน้ามาช้าๆ “ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่เหรอคะ ขอโทษค่ะ เขาไม่ได้บอกฉัน”

พี่ติงเงียบไปหลายวินาทีเมื่อรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ตึงเครียด ต่อมาก็โยนมือถือเข้ากระเป๋า ก่อนจับที่จับประตูด้วยความเกรงใจ “ได้อยู่แล้วครับ คุณสูบได้เลย ถ้าไม่พอที่ผมยังมีอีก ผมจะปิดประตูเอาไว้ พวกคุณพูดคุยตามสบาย”

ประตูสองบานถูกปิดสนิท ระเบียงกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ความจริงก่อนพี่ติงมาแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้คุยอะไรกันมาก

เมื่อกี้อยู่ที่ห้องนั่งเล่นคุณแม่ลู่ถามเขาด้วยความใจเย็นว่าคำพูดประโยคนั้นหมายความว่าอะไร

ลู่ป๋อหยวนบอกว่าแฟนของเขาเป็นผู้ชาย

คุณแม่ลู่สบตากับเขาเนิ่นนาน จากนั้นถามเขาว่าสูบบุหรี่ไหม ลู่ป๋อหยวนเลยเดินขึ้นชั้นบนไปหยิบลงมาหนึ่งซอง จากนั้นคนทั้งสองถึงมาที่ระเบียง

ขณะที่กำลังใจลอย คนทั้งสองต่างรู้สึกว่าเหมือนย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนที่ลู่ป๋อหยวนบอกว่าตนเองไม่เรียนแล้ว จะแข่งอีสปอร์ต ส่วนตอนนั้นคุณแม่ลู่ไม่รู้แม้กระทั่งแนวคิดอย่างเป็นรูปธรรมของคำว่า ‘อีสปอร์ต’ ว่าคืออะไร หลังใช้มือถือค้นดูเล็กน้อย ผลการค้นหาอันแรกก็คือความเห็นของยอดคนในอินเตอร์เน็ตจากเทียปาโพสต์หนึ่ง[มีแต่เด็กติดเกมที่ไม่อยากเรียนและขี้เกียจถึงเลือกเกมเป็นอาชีพ แถมยังบอกว่าตัวเองแข่งอีสปอร์ตเพื่อแสดงให้เห็นความเป็นมืออาชีพ]

เวลานั้นคุณแม่ลู่อ่านจนต้องสูบบุหรี่ติดต่อกันสองซองทันที

ด้านลู่ป๋อหยวนกำลังใช้มือถือส่งข้อความถามเจี่ยนหรงว่าทายาหรือยัง

เจี่ยนหรงตอบกลับด้วยอีโมติคอนยิ้มน้อยๆ สองอันแบบไม่ได้ตั้งใจกวนแต่อย่างใด

ลู่ป๋อหยวนยิ้มพลางปิดมือถือ พอเห็นคนข้างกายยังคิดจุดบุหรี่มวนที่สามจึงพูดว่า “เลิกสูบได้แล้วครับ เดี๋ยวติดอีก”

คุณแม่ลู่เคยติดบุหรี่ตอนวัยรุ่น ขณะมีความรักในรั้วมหาวิทยาลัยคุณพ่อลู่เกลี้ยกล่อมหลายปีก็เลิกไม่ได้กระทั่งเธอตั้งท้องลู่ป๋อหยวน

เธอเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทและใช้ชีวิตไปวันๆ ที่ลานสเก็ตน้ำแข็ง เคยเป็นนักเลงหญิงและเคยเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่อ่อนโยนมีศีลธรรม อาจเพราะผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชนเหลือเกิน ในเวลานี้พอรู้รสนิยมทางเพศของลูกชายตัวเอง การตอบสนองของเธอจึงไม่รุนแรงสักเท่าไหร่

“อืม มวนสุดท้ายแล้ว” คุณแม่ลู่พ่นควันออกมาเป็นวงกลม “เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนพามาที่บ้านก็คบกันแล้ว?”

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดมาทางนี้เลยเธอจึงไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้ลองคิดดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ลูกชายเธอใช้ชีวิตข้างนอกหลายปีขนาดนี้ แต่นอกจากเจี่ยนหรงแล้วเขาไม่เคยพาใครกลับบ้านมาก่อน

อีกทั้งปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาไม่กี่อย่างเมื่อกี้…ก็พอมองอะไรออกแล้ว

“ไม่นานครับ” เห็นเธอมองออกลู่ป๋อหยวนก็ไม่ได้ปฏิเสธเกินจำเป็นอีก เขาหยุดชะงักเล็กน้อยจากนั้นเน้นย้ำว่า “ผมจีบเขา”

คุณแม่ลู่พยักหน้า “พอเดาได้”

เดิมเธอคิดถามลู่ป๋อหยวนว่าเป็นมาตั้งแต่แรกแล้วหรือถูกทำให้เบี่ยงเบน แต่ตอนนี้เธอนึกย้อนดู แต่ก่อนลู่ป๋อหยวนก็ไม่เคยสนใจเรื่องความรัก หญิงสาวที่ตนแนะนำให้รู้จักเขาก็ไม่เคยไปพบ แข่งอีสปอร์ตมาหลายปีขนาดนี้ก็ไม่เคยพูดถึงหญิงคนไหนต่อหน้าเธอ…

คุณแม่ลู่จึงเก็บคำถามที่ไม่จำเป็นเหล่านี้กลับไป

คิ้วเรียวขมวดเบาๆ เมื่อเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ “เสี่ยวหรงบรรลุนิติภาวะหรือยัง”

“เพิ่งฉลองวันเกิดอายุสิบแปด”

ตอนนี้สายตาที่คุณแม่ลู่มองเขาดูซับซ้อนกว่าขณะรู้ว่าเขาชอบผู้ชายซะอีก “…อายุสิบแปดเด็กเกินไปหรือเปล่า”

ลู่ป๋อหยวนส่งเสียงอืม “ยังดีที่เขาเข้าทีมช้า ไม่งั้นผมคงพรากผู้เยาว์แล้ว”

“…”

คุณแม่ลู่หันหน้ากลับมา ไม่อยากถลำลึกสู่หัวข้อสนทนานี้อีก เธอสูบบุหรี่คำสุดท้ายเสร็จยังก้มหน้าดื่มน้ำชาอีกหนึ่งอึก “ลูกจะดีกับพ่อของลูกสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ เขาเพิ่งใช้เวลาหลายปีย่อยเรื่องอีสปอร์ตของลูกเสร็จ”

“ยังไงก็ต้องบอกอยู่แล้ว บอกเร็วบอกช้าก็เหมือนกัน” ลู่ป๋อหยวนหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความ พบว่าเป็นพี่ติงเร่งพวกเขากินข้าวอยู่ในกลุ่ม “อยู่กินข้าวกลางวันด้วยกันมั้ยครับ”

“ไม่กินแล้ว พ่อลูกรอแม่อยู่ที่บ้าน” คุณแม่ลู่ดับบุหรี่ พักหนึ่งจึงพูดว่า “น้ำแกงที่เอามาน่ะ…ตักให้เขาเยอะหน่อย”

 

วันนี้ไม่ฝึกซ้อมทุกคนต่างขี้เกียจลงชั้นล่างจึงกินอาหารในห้องนั่งเล่นเล็กบนชั้นสาม

ห้องนั่งเล่นห้องนี้เล็กกว่าที่ชั้นหนึ่งมาก คนไม่กี่คนไปนั่งในนั้นก็เกือบเต็มแล้ว บนผนังด้านหน้าแขวนผ้าม่านเอาไว้ ดูแล้วอบอุ่นมากทีเดียว

เพียงแต่…

“พี่ชาย กินข้าวกัน ว่าแต่ที่พี่ส่ง ‘คลิปการสังหารอันยอดเยี่ยมในการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิของ HT’ มาให้พวกเราหมายความว่าอะไร” เสี่ยวไป๋ถือชามพลางพูดด้วยความสงสัย

“พักผ่อนส่วนพักผ่อน การบ้านห้ามขาดตก” พี่ติงพูด “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

เสี่ยวไป๋ “…”

เจี่ยนหรงถือข้าวราดเป๋าฮื้อของตัวเองพลางมองดูผ้าม่านอย่างใจลอย กินไปหนึ่งคำยังแสร้งหันหน้าอย่างไม่ตั้งใจ มองผ่านราวระเบียงไปยังชั้นหนึ่ง

หยวนเชียนอ้าปากหาวกว้างๆ ส่งข้อความเสียงให้แฟนสาวบอกว่าตัวเองตื่นแล้ว จากนั้นเงยหน้าถามว่า “เสี่ยวหรง นายยืนอยู่ทำไม กลัวว่าจะแคบไปเหรอ มานั่งนี่ฉันจะเขยิบที่ให้นายอีกนิดหนึ่ง…”

“ไม่เป็นไร” เจี่ยนหรงรั้งสายตากลับ “ผมไม่นั่ง”

“ไม่เอาสิ ฉันดูไอ้นี่ก็อึดอัดอยู่แล้ว นายยืนอยู่ข้างฉันแบบนี้ฉันกดดันมาก รู้สึกเหมือนนายจะเหวี่ยงหมัดต่อยฉัน” เสี่ยวไป๋ส่งเสียงพูด “มา นั่ง”

หมัดของเจี่ยนหรงทนไม่ไหวขึ้นมาเล็กน้อยจริงๆ

คิดว่าฉันไม่อยากนั่งหรือไง!

ถ้าพรุ่งนี้ยังเป็นแบบนี้อยู่อีก งั้นตอนฝึกซ้อมนั่งยองๆ บนเก้าอี้เอาก็แล้วกัน

ขณะลู่ป๋อหยวนหิ้วน้ำแกงขึ้นมาชั้นบนทุกคนก็กินกันไปพอสมควรแล้ว

พี่ติงเพิ่งอบรมคนเสร็จก็เงยหน้าถามว่า “คุณป้ากลับไปแล้ว?”

ลู่ป๋อหยวนมองดูเจี่ยนหรงที่ยืนกินข้าวอยู่ข้างโซฟา ไม่นานก็รั้งสายตากลับมา “อืม”

พี่ติงพยักหน้า “พอดีเลย ฉันซื้อเค้กกลับมาด้วย ตัดตอนนี้เลยแล้วกัน กลางคืนไม่รู้พวกนายแต่ละคนจะลุกจากเตียงได้หรือเปล่า”

สำหรับนักแข่งอีสปอร์ตแล้ว การพักผ่อน = การนอนหลับ เนื่องจากทุกคนต่างนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันจนเหนื่อยแล้ว งานรื่นเริงเมื่อคืนก็ถือว่าใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดไปแล้วด้วย

อีกทั้งพรุ่งนี้พวกเขายังต้องฝึกซ้อม เพราะสัปดาห์หน้าก็จะไปประเทศเกาหลีใต้แล้ว

ลู่ป๋อหยวนมองดูเค้กวันเกิดแล้วถามอย่างไม่ไยดี “เหรียญรางวัลรอบชิงชนะเลิศระดับโลกซีซั่นสิบเอ็ดอีกแล้ว?”

“ใช่ที่ไหนล่ะ อันนั้นทำให้เจี่ยนหรงไปแล้วไม่ใช่เหรอ” พี่ติงยิ้มน้อยๆ “นี่คือเหรียญรางวัลนักแข่งยอดเยี่ยมของปีนี้”

ลู่ป๋อหยวน “…”

หลังตัดเค้กและกินน้ำแกงเรียบร้อยคนที่เหลือก็กลับห้องไปนอนกันหมด จากนั้นพี่ติงก็ขอบัตรประชาชนเจี่ยนหรงไปทำวีซ่า ในแคมป์คึกคักไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็กลับสู่ความเงียบสงบที่ชวนให้สบายใจอีกครั้ง

น้ำแกงต้มจนเข้าถึงรสชาติ เจี่ยนหรงดื่มรวดเดียวสามชามเล็ก ขณะนอนอยู่บนเตียงของลู่ป๋อหยวนยังเรอออกมาอีกด้วย

มือถือของเขาแบตฯ หมดกำลังชาร์จอยู่ ตอนนี้กำลังใช้มือถือของลู่ป๋อหยวนท่องเวยป๋อ

“อิ่มแล้ว?” ลู่ป๋อหยวนพิงอยู่ข้างเขาพลางถาม

เจี่ยนหรงส่งเสียงอืม พูดอย่างเกียจคร้าน “คุณตักเยอะเกินไป”

ตอนแรกเขาไม่ได้อยากกินเยอะขนาดนั้น ใครจะไปรู้ว่าพอชามว่างลู่ป๋อหยวนก็ตักน้ำแกงให้เขาอีก ถ้ากินไม่หมดก็รู้สึกเสียของ

ทันใดนั้นเขาพลันได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ หอบหนึ่ง เจี่ยนหรงขยับปลายจมูกฟุดฟิด “คุณสูบบุหรี่มา?”

ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “แม่ฉันสูบ”

เจี่ยนหรงตกตะลึง หันหน้าถามว่า “คุณป้าสูบบุหรี่ด้วยเหรอ”

“เมื่อก่อนติดบุหรี่ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว” เวลานี้ยังจัดการกับที่บ้านไม่เรียบร้อย ลู่ป๋อหยวนเลยยังไม่อยากบอกเรื่องที่เขาเปิดตัวเร็วขนาดนี้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมีความกดดัน

ลู่ป๋อหยวนเล่นผมของเจี่ยนหรง มองดูเขาใช้มือถือตนท่องเวยป๋อมั่วซั่วพลางถามว่า “ทำไมเมื่อกี้ยืนกินข้าว”

มือที่ไถเวยป๋อของเจี่ยนหรงหยุดชะงัก รู้สึกว่าหากบอกว่าตนเองถูกทำจนนั่งลงไปไม่ได้แม่งน่าอายเกินไป ไม่กี่วินาทีให้หลังจึงกัดฟันพูดว่า “ผมอยาก”

ลู่ป๋อหยวนกลั้นหัวเราะ “ทายาหรือยัง ตอนที่ดูวันนี้เหมือนแดงนิดหน่อย…”

พอเจี่ยนหรงนึกถึงเรื่องเมื่อคืนหูก็ชาขึ้นมา มือเขายังรีเฟรชเวยป๋ออยู่ ในความเป็นจริงไม่มีแม้แต่ตัวอักษรเดียวเข้าไปในดวงตา “ไม่ทา ผมดีขึ้นเองได้”

“นายแน่ใจ? พรุ่งนี้แข่งฝึกซ้อมสี่ห้าเกม นายนั่งทั้งวันไม่เป็นไร?”

“…”

“การแข่งฝึกซ้อมวันพรุ่งนี้เหมือนนัดทีมโหยวอวี๋ไว้ด้วย” ลู่ป๋อหยวนหยุดชะงักสองวินาที จากนั้นพูดขึ้นอย่างมีทักษะว่า “ถ้าแพ้ โต้วฟูคงเสแสร้งในสตรีมอีกแล้ว”

เจี่ยนหรงถูกโน้มน้าวสำเร็จ เขาปฏิเสธข้อเสนอช่วยทายาของลู่ป๋อหยวนแล้วหันกายเข้าห้องน้ำไป

แต่ผ่านไปไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงคนในห้องน้ำสะดุ้งเฮือกจนเผลอร้องออกมา ลู่ป๋อหยวนผลักประตูเข้าไป หยิบยาทากับสำลีมาท่ามกลางถ้อยคำสวยงามที่เจี่ยนหรงหลุดปากพูดด้วยความตื่นตกใจ

หลังทายาเสร็จแล้วใบหน้าของเจี่ยนหรงเป็นสีแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติอีกครั้ง

ลู่ป๋อหยวนตัดสินใจอาบน้ำเพราะกลิ่นบุหรี่บนร่าง ส่วนเจี่ยนหรงก็กลับไปบนเตียงแต่นอนไม่หลับ และไม่มีความสนใจไถเวยป๋อต่ออีก ดังนั้นหลังได้รับความเห็นชอบจากลู่ป๋อหยวนเขาจึงเปิดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งของอีกฝ่าย

เจี่ยนหรงกังวลว่าการนอนคว่ำจะส่งผลกระทบต่อทักษะการเล่น เขาไม่ได้เปิดเซิร์ฟเวอร์เกาหลี แต่เข้าไอดีรองเซิร์ฟเวอร์ในประเทศของตนเอง คิดดักตบคนสักหน่อย

เขาเพิ่งเข้าไอดีไม่ถึงสองวินาทีไอดีที่ชื่อว่า ‘ฤดูกาลใหม่ฉันต้องสู้’ ก็ส่งคำเชิญจัดทีมมาให้เขาแล้ว

ไม่ว่าไอดีหลักหรือไอดีรองเจี่ยนหรงล้วนไม่เพิ่มเพื่อนกับคนแปลกหน้า คนที่เข้ามาอยู่ในรายชื่อเพื่อนของเขาได้ล้วนเป็นเพื่อนที่รู้จัก แม้เจี่ยนหรงนึกไม่ออกว่าไอดีนี้คือใครแต่ก็กดตกลง

เพิ่งเข้าล็อบบี้เกมเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในหูฟัง “ฉานลองเชิญดูหน่อยดีกว่า Soft อาจยอมเล่นกับฉานก็ได้ เขาชอบโซโล่ ฉาน? ฉานเองก็ชอบโซโล่ แต่เล่นกับ Soft หรือพี่ XIU ฉานก็ชอบ…อ๊ะ Soft เข้ามาแบ้ว”

เจี่ยนหรงดูวันที่ “ทีมพวกนายได้รองแชมป์แล้วไม่พักผ่อน?”

Savior “…”

ครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องที่ถูกถล่มในอินเตอร์เน็ต Savior จึงไม่ได้วางแผนกลับประเทศในวันหยุด และพี่ชายที่ยอมพาเขาออกไปเที่ยวเพียงคนเดียวในแคมป์ขณะนี้ยังนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อน ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสเปิดสตรีมฝึกซ้อมเก็บเวลาแพลตฟอร์ม

Savior ถามว่า “ทำไมนายไม่เล่นไอดีหลัก”

“นอนเล่นไม่ถนัด ตบไก่สักสองตาก็นอนแล้ว” เจี่ยนหรงถามเสียงเกียจคร้าน “นายจะเริ่มเลยมั้ย”

เนื่องจากปกติเขาฝึกซ้อมเยอะมาก พอเมื่อวานไม่ได้เล่นเกมหนึ่งวันเจี่ยนหรงเลยรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ดังนั้นวันนี้เขาเลยเล่นแบบเลือกตำแหน่งที่ว่างอย่างหาได้ยาก คิดจะเล่นซัพพอร์ตสักสองตาเป็นการกล่อมให้ตัวเองนอนหลับ ผลสุดท้ายตำแหน่งที่ว่างเหลือแค่จังเกิ้ล

พอเข้าเกมไปดูก็พบว่าคนที่ชนเลนกับเขาคือจังเกิ้ลของจั้นหู่

ตำแหน่งที่เจี่ยนหรงเล่นได้ห่วยที่สุดก็คือจังเกิ้ล เล่นแรงก์ไดมอนด์ยังพอจะฝืนรับมือได้ แต่สู้กับนักแข่งอาชีพนั้นยากอยู่บ้าง

เมื่อลู่ป๋อหยวนอาบน้ำเสร็จออกมา เขาเห็นเจี่ยนหรงถูกมิดเลนและจังเกิ้ลฝ่ายตรงข้ามรุมตีจนตายบริเวณบลูบัฟฝ่ายศัตรูพอดี

ลู่ป๋อหยวนมองดูเขาซื้อไอเทมด้วยสีหน้าบูดบึ้งจึงถามด้วยความตลกว่า “เคารพในอาชีพขนาดนี้เชียว?”

“นอนไม่หลับก็เลยเล่นสักสองตา” เจี่ยนหรงขมวดคิ้ว “ไอ้นี่ร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมแกงค์ผมสามครั้งแล้ว ต้องจงใจแน่…”

ลู่ป๋อหยวนหัวเราะเบาๆ พูดเรื่อยเปื่อยว่า “จูบฉันหน่อย แล้วฉันจะเล่นแทนนาย”

ในเกมปรากฏประกายสีทองสองสาย…เจี่ยนหรงที่เพิ่งวิ่งไปแกงค์ที่เลนกลางกดแฟลชพร้อมกับ Savior

มิดเลนฝ่ายตรงข้ามตกใจจนล้มกลิ้งปัสสาวะไหล คิดว่าโดยรอบตัวเองมีศัตรูหนึ่งแสนคนจึงจ่ายแฟลชตาม จากนั้นส่ง ‘?’ มาในช่องแชตรวม

Savior ยังอยู่ในสภาวะงุนงงและตื่นตกใจ ‘ฉานฟังผิดไปเหรอ’ ‘ต้องใช่แน่ๆ’ ‘ดูท่าภาษาจีนของฉานเหมือนยังดีไม่พอ’ ต่อจากนั้นในหูฟังก็มีเสียงที่ผู้เล่นอีสปอร์ตทั้งหมดต่างคุ้นเคยอย่างยิ่งดังขึ้นอีกครั้ง…

“ใช่แล้ว กางเกงในเมื่อวานฉันช่วยซักให้นายแล้ว…”

เสียงพูดพลันหยุดลง

เจี่ยนหรงที่มาแกงค์ยืนนิ่งอยู่ที่เลนกลางเนิ่นนานและออกจากระบบพูดคุยทีมเมื่อสองวินาทีก่อน

Savior เหมือนเด็กน้อยที่เผลอเปิดเผยความลับของผู้ปกครอง กัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างลนลานทำตัวไม่ถูก ได้แต่มองดูจำนวนคนในสตรีมของตัวเองพุ่งพรวดตาไม่กะพริบ

ชาวเน็ตที่โหดเหี้ยมกลุ่มหนึ่งใช้ไอดีอย่างเช่น ‘พ่อแท้ๆ ของ Soft’ ‘ไอ้โง่ Soft คว้าแชมป์แล้วไม่สตรีม’ ‘แฟนออนไลน์เพียงคนเดียวทั้งอินเตอร์เน็ตของ Road’ ‘ภรรยาที่ไม่เคยเปิดเผยของ Road’ ‘มิดเลนและจังเกิ้ลของ TTC แต่งงานกันคืนนี้’ บุกเข้ามา ซับกระสุนมีเยอะมากจนไก่อ่อนภาษาจีนอย่าง Savior ไม่อาจต้านทาน

สองวินาทีให้หลังเสียงประกาศที่ Savior ตั้งค่าอัตโนมัติเพื่อขอบคุณของขวัญจากผู้ชมก็ดังขึ้นมา…

เสียง AI ผู้หญิงพูดอย่างไร้ความรู้สึก “ขอบคุณดาวตกจาก ‘เกย์ผู้มีสติปัญญา ปฏิเสธการเล่นแทน กางเกงในอยู่ไหนให้พ่อดูหน่อย’ ”

 

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 4

วางจำหน่ายแบบรูปเล่มที่เว็บไซต์ Jamsai Store, ร้าน Jamclub

และร้านหนังสือทั่วไป

 

รวมถึงในรูปแบบอีบุ๊กที่

Meb / OOKBEE / Fictionlog / Naiin App / SE-ED / Hytexts / comico และ ARN

 

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com