กานต์เดินลอยชายเข้าไปในออฟฟิศของบริษัทสถาปนิก Archwin ได้สะดวกโยธินเหมือนเดิม วันนี้ในออฟฟิศดูอุ่นหนาฝาคั่งกว่าเมื่อคราวล่าสุดที่เธอมาหาอาชวิน และสุรทินก็ยังเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเธอเช่นเคย
“โอ้โห วันนี้สวยมาเลยนะเฮีย”
“เฮียเรอะ”
หญิงสาวยิ้มหวาน ก่อนยกขาขึ้นมาทำท่าจะถีบเข้าที่เก้าอี้ของสุรทิน รุ่นน้องตัวแสบรีบไถลเก้าอี้ถอยหนี พอเห็นอย่างนั้นเธอก็กลอกตาแล้วหันไปไหว้ทักทายรุ่นพี่พร้อมกับรับไหว้พวกรุ่นน้องในออฟฟิศไปด้วย
“ไงกานต์ ไม่เจอกันนานเลย นี่มาคุยกับวินเรื่องบ้านริมน้ำใช่ไหม” วีรากรเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์มาถาม
“ค่ะ”
“นี่เพิ่งรู้ข่าวเมื่อเที่ยง ยังทายกันอยู่เลยว่ากานต์จะมาเร็วขนาดไหน” รุ่นพี่หนุ่มหัวเราะ “วินอยู่ในห้องแน่ะ เข้าไปเลย”
หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วเดินลึกเข้าไปด้านในออฟฟิศเพื่อเคาะประตูห้องทำงานอาชวิน มีเสียงตอบรับอย่างรวดเร็ว เธอเลยเปิดประตูเข้าไป
“มาเร็วทันใจจริงๆ” เจ้าของห้องทำงานรับไหว้ทั้งรอยยิ้ม “มานั่งมา ยิ้มแต้มาเชียว ไม่ต้องถามเลยว่าดีใจหรือเปล่า”
“โล่งใจด้วยพี่วิน ตั้งแต่ไปดูบ้านมาภาพบ้านหลังนั้นก็ติดอยู่ในหัวกานต์ตลอดเลย กานต์ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าไม่ได้ทำจะเป็นไง” หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานอย่างคุ้นเคย
“แต่พี่เห็นภาพสเก็ตช์คร่าวๆ ที่กานต์ส่งให้ลูกค้าแล้วพี่มั่นใจนะว่ากานต์จะได้ทำงานนี้” ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะหันไปหยิบกระดาษเอสี่ที่วางอยู่ตรงมุมโต๊ะขึ้นมา “เดี๋ยวกานต์ต้องไปเจอเจ้าของบ้าน แต่เขาเป็นนักธุรกิจ ค่อนข้างยุ่ง คงต้องรอทางนั้นนัดมาอีกที เบื้องต้นเขาอนุมัติให้เราเข้าไปทำงานก่อนได้เลย นี่เหมือนว่าทางเขาจะเคลียร์สวนรกๆ ให้แล้ว”
“ให้เข้าไปทำงานได้เลยนี่คือเขาหาวิศวะฯ มาดูโครงสร้างแล้วหรือยังไง”
บ้านเก่าโบราณแถมถูกทิ้งร้างไร้การบำรุงรักษามานานก็เป็นไปได้มากว่าโครงสร้างดั้งเดิมของบ้านอาจทรุดโทรมเสียหาย ทั้งหมดต้องได้รับการดูแลซ่อมแซมให้แข็งแรงก่อนจะมีการปรับปรุงแก้ไขอื่นๆ ต่อไป อีกทั้งการเปลี่ยนจากบ้านที่อยู่อาศัยเป็นร้านอาหารก็หมายถึงโครงสร้างต้องรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น ไม่แน่ว่าอาจต้องเสริมเสาก็ได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องพึ่งวิศวกร
“เขาให้พี่เป็นนายหน้าจัดการให้ นี่พี่ลองเช็กแล้ว มีอั๋นที่น่าจะมาช่วยดูให้ได้…กานต์โอเคไหม”
“โอเคสิ แล้วพี่อั๋นจะเข้าไปดูหน้างานได้เมื่อไหร่ล่ะ”
อั๋นหรืออดุลย์เป็นวิศวกรโยธาและเป็นเพื่อนของอาชวิน ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้วิศวกร รุ่นพี่ของเธอก็จะมีวิศวกรที่ใช้บริการบ่อยๆ อยู่สองสามคน ซึ่งอดุลย์เป็นหนึ่งในนั้น
“เดี๋ยวต้องนัดกันอีกที แต่น่าจะเป็นอาทิตย์หน้า” อาชวินหลุบสายตาลงมองกระดาษในมืออีกครั้ง “โจทย์คือนอกจากทำร้านอาหาร ก็มีเพิ่มห้องน้ำที่ชั้นสาม เจ้าของบ้านตั้งใจจะเก็บชั้นสามไว้แล้วทำให้มันเป็นเหมือนเพนต์เฮ้าส์ คือให้มีห้องนอน ห้องนั่งเล่นอะไรทำนองนั้น เอาไว้พักผ่อน”
“เพนต์เฮ้าส์…” กานต์กะพริบตาปริบๆ “เขาจะไปนอนอยู่ข้างบนร้านอาหารเหรอ ดูวุ่นวายออก เจ้าของบ้านน่าจะรวยมากนี่ เขาต้องมีบ้านที่อื่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“อาจจะเอาไว้นอนเล่นหรือไม่ก็สังสรรค์กับเพื่อนมั้ง” ชายหนุ่มหัวเราะ พอจะเข้าใจความงุนงงของอีกฝ่าย “แต่เขาเป็นเจ้าของ จะทำอะไรก็ได้ แถมไม่มีปัญหาเรื่องงบด้วย เราก็ทำให้เขาไปตามนั้นแหละ”
“เออ กานต์กำลังจะถามเรื่องงบพอดีเลย ถ้าเขาไม่มีปัญหาจริงๆ ก็ดี กานต์จะได้จัดเต็ม”
ปกติการรีโนเวตบ้านโคโลเนียลลักษณะนี้ต้องใช้ทรัพยากรไม่ใช่น้อย บางครั้งถึงเจ้าของจะรวยแต่ก็ใช่ว่าพร้อมจะทุ่มเงินจำนวนมากกับบ้านหลังหนึ่ง ถ้าครั้งนี้เจ้าของพร้อมทุ่มจริงเธอก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะตัวเลขที่เธอประเมินให้อาชวินเบื้องต้นนั้นก็สูงไม่น้อยเหมือนกัน
“คุณธีเขาไม่ค่อยเรื่องมากนะ อีกอย่างบ้านนี้เป็นโปรเจ็กต์ส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับบริษัท เรื่องงบน่าจะง่ายกว่างานบริษัท”
“คุณธี?”
“เออ พี่ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าเจ้าของบ้านชื่อคุณธี” อาชวินทำท่านึกขึ้นได้ จากนั้นก็หัวเราะตัวเอง “เออ ทำไมพี่ยังไม่ได้บอกกานต์ไม่รู้แฮะ…เอาเป็นว่าเจ้าของบ้านหลังนี้ชื่อคุณธีรดนย์ เรียกสั้นๆ ว่าคุณธี แล้วก็เดี๋ยวพี่จะให้หมูไปเป็นแบ็กอัพให้กานต์นะ เผื่อช่วงไหนกานต์ยุ่ง”
“โอเคค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ
ว่าไป…ปกติชื่อธีก็ไม่ได้โหลมาก ทำไมพักนี้เหมือนเธอเจอคนชื่อธีบ่อยจัง
ติดตามฉบับเต็มที่…ธีรกานต์