แต่เว่ยหลันโจวในฐานะทายาทของขุนนางกบฏกลับไม่รู้สำนึกเลยสักนิดเดียว เขายังคงกินดื่ม เที่ยว เล่นพนัน ทำทุกสิ่งอย่าง โฉมงามในจวนหากไม่เกินพันก็เกินร้อย
การออกเดินทางไปยังแคว้นหนีตันครานี้ พอได้รู้ว่าเขาก็เป็นหนึ่งในคณะทูตด้วย ก็มีสาวใช้อ่อนเยาว์หลายคนบนเรือที่ใจเต้นระรัว พวกนางเคยได้ยินมาว่าคุณชายเจ้าสำราญอย่างเขาหน้าตาดีมาก ถือเป็นบุรุษรูปงามที่หาได้ยากยิ่งบนโลกนี้ ทั้งได้ยินมาว่าเขาจะใจกว้างกับโฉมงามเป็นอย่างยิ่ง มักมอบเงินทองและเครื่องประดับให้ชุดใหญ่อยู่เสมอ
ฉู่ซินเถียนไม่คิดอยากสร้างความสัมพันธ์อันใดกับบุรุษประเภทนี้อยู่แล้ว นางเพียงอยากรีบเก็บเงินเพื่อให้ตนเองได้รับอิสระอีกครั้ง
นางทำอาหารว่างแบบจีนชนิดหนึ่งเสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนให้บ่าวชายที่รับหน้าที่ส่งอาหารยกออกไป แต่ก็มักจะมีสาวใช้ใสซื่อที่คิดอยากเข้าไปอยู่ในสายตาของผู้สูงศักดิ์โผล่มาให้เห็นอยู่เสมอ นางจึงได้เห็นสาวใช้ผู้หนึ่งเดินเข้าไปยัดเศษเงินใส่ในมือของบ่าวชาย
บ่าวชายผงกศีรษะยิ้มรับ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องครัวไปด้วยกัน
ตามหลักแล้ว บ่าวรับใช้ที่อยู่ในชั้นนี้ไม่สามารถไปเดินอยู่ในชั้นที่เจ้านายทั้งสองพักอยู่ได้ แต่หากมีคนคอยช่วยเหลือก็ยังสามารถเข้าไปสัมผัสใกล้ๆ ได้เช่นกัน แต่เป้าหมายนี้ใช้ได้เฉพาะกับฝูอ๋องผู้ไร้กฎระเบียบเท่านั้น กับเสนาบดีเฉวียนจะทำเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
และที่บ่าวชายผงกศีรษะก็เป็นการบอกว่าฝูอ๋องไม่ได้กินอาหารพร้อมกับเสนาบดีเฉวียน สาวใช้ผู้นั้นจึงมีโอกาสให้ไขว่คว้าได้
อย่างไรก็ตามผ่านไปเพียงไม่นาน สาวใช้ผู้นั้นก็เดินคอตกกลับมาอย่างหดหู่ เห็นได้ชัดว่าฝูอ๋องไม่ถูกใจนาง จึงไม่ได้รั้งนางไว้ปรนนิบัติ ภายในห้องครัวพลันมีเสียงหัวเราะเย้ยหยันเบาๆ ดังมา
ฉู่ซินเถียนเพียงแค่ซุกตัวอยู่ในพื้นที่ทำงานของตนเองเงียบๆ นางเตรียมอาหารว่างยามบ่ายกับยามเย็น ทั้งยังต้องศึกษาค้นคว้าอาหารว่างชนิดใหม่ๆ ตลอดทั้งวันนางล้วนอยู่แต่ในห้องครัว
ทว่าเมื่อเทียบกันแล้ว งานของนางกลับค่อนข้างผ่อนคลายกว่าผู้อื่น การเตรียมและปรุงอาหารบนเรือเป็นงานที่หนักหนามากจริงๆ อาหารของบรรดาเจ้านายต้องทำอย่างประณีตยิ่ง กับข้าวและน้ำแกงหลายอย่างล้วนกำหนดมาก่อนแล้วอย่างชัดเจน หลังพวกเขาทำเสร็จมื้อหนึ่งก็แทบจะต้องเริ่มเตรียมอาหารมื้อถัดไปทันที
บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บางคนรู้สึกขัดหูขัดตาฉู่ซินเถียนเป็นได้ ด้วยนางมีหน้าที่รับผิดชอบอาหารว่างของพวกเจ้านายเท่านั้น ขณะที่บ่าวรับใช้กลับไม่จำเป็นต้องกินอาหารว่าง เมื่อรวมเข้ากับที่นางมักจะมีท่าทีผ่อนคลาย บนโต๊ะเบื้องหน้าไม่ต้องเจอความมัน จึงทำให้คนอื่นๆ เกิดความรู้สึกคิดไปเองว่านางมีเวลาว่างมากก็เป็นได้
แต่ไม่ว่าจะพบเจอแววตาอิจฉาริษยา หรือแววตาหื่นกระหายของหัวหน้าพ่อครัวกับรองหัวหน้าพ่อครัว ฉู่ซินเถียนก็ล้วนไม่ใส่ใจทั้งสิ้น เนื่องจากยามนี้นางต้องผจญอยู่กับอาการเมาเรือซึ่งรบกวนชีวิตนางอย่างร้ายกาจ หลายครั้งที่มีกลิ่นน้ำแกงต่างๆ หรือกลิ่นอาหารอบนึ่งลอยแผ่กระจายไปทั่วห้อง มักจะทำให้นางคลื่นไส้อยู่เสมอ นางพยายามอดกลั้นแล้วอดกลั้นอีกจนสุดความสามารถ ก่อนจะอดทนมาถึงตอนเย็นได้ในที่สุด
หลังเตรียมอาหารว่างเสร็จ นางก็ยกถังน้ำอุ่นมาด้วยถังหนึ่งพลางลากร่างอันเหนื่อยล้ากลับไปที่ห้อง ชำระกายเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นอนหลับไป
ระหว่างนั้นประตูห้องของนางก็ถูกเคาะอยู่หลายครั้ง แม้แต่ที่หน้าต่างก็ยังปรากฏเงาดำ มีคนเคาะเบาๆ แล้วผลัก แต่นางกลับทำเป็นไม่ได้ยิน ในที่สุดเสียงเหล่านั้นก็สงบลงเสียที ให้นางได้นอนหลับสนิท
เป็นเพราะทั้งวันยังไม่ได้กินอะไร กลางดึก นางจึงถูกเสียงครวญครางของกระเพาะปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
โครกครากๆ
นางถอนหายใจยาวพลางลืมตาขึ้น แล้วหยิบตะเกียงน้ำมันแอบเดินไปยังห้องครัวอีกครั้ง หลังยุ่งวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง ขนมแป้งอบผิงกั่ว* เค็มสดใหม่เรียบง่ายถาดหนึ่งก็เป็นอันเสร็จสิ้น ในตอนที่นางนั่งลงกินนั้น…