X
    Categories: LOVEทดลองอ่านมาลีรติกานต์ ชุด ดอกไม้ลายพยัคฆ์

ทดลองอ่าน มาลีรติกานต์ ตอนที่ 3

หน้าที่แล้ว1 of 7

บทที่ 3

เรื่องบนเตียง

“น้องไหม วันนี้กลับยังไงครับ”

โตโต้ฉวยโอกาสตอนที่ปฏิภาณไปคุยกับอรรัมภาเข้ามาคุยกับเหมือนไหมซึ่งกำลังนั่งทานอาหารไปเม้าท์ไปอย่างออกรสกับสายสุดา ส่วนองครักษ์อย่างแต้วลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างนานแล้ว

“ฉันขับรถไปส่งเอง ไม่ต้องมาอาสา” แต้วโผล่หน้ามาอย่างที่โตโต้ไม่ทันตั้งตัว “คุณพีคเผลอเป็นไม่ได้ แกนี่รีบเข้ามากระแซะยายไหมเลยนะ ไปเคลียร์กับไอ้พลเลย ใครจะจีบน้องมันกันแน่ หรือจะจีบแข่งกัน เอ๊ะ! หรือจะแค่หมาหยอกไก่ไปวันๆ ทั้งคู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะฟ้องคุณพีค”

“ไม่เกี่ยวกับผมนะเจ้!” กนกพลส่งเสียงมาจากอีกวงพลางเขม่นโตโต้ไปด้วย “ไอ้โต้นี่ก็ยังไง บอกแล้วว่าฉันจองน้องไหมมานานแล้วโว้ย แกมานั่งนี่เลย อย่าไปยุ่งกับคนสวยของฉัน”

“ขัดคอเก่งกันจังเลยโว้ย แล้วแบบนี้ผมจะจีบน้องไหมติดได้ไง” โตโต้โวยวาย

ก่อนหน้านี้แต้วลงไปเข้าห้องน้ำ เขาก็เลยหาจังหวะมาคุยกับเหมือนไหม แต่ก็ยังมีสายสุดาคอยกันไว้ เขายังไม่ทันจะจีบสาวน้อยเลย แต้วก็โผล่หน้ากลับมาแถมยังตั้งท่าจะแหกอกเขาอีกต่างหาก

“ถามน้องมันหรือยังว่าอยากให้แกจีบหรือเปล่า” สายสุดาว่า

“ที่สำคัญเช็กความเห็นชอบจากคุณพีคก่อนด้วย” แต้วพูดขู่

“พูดซะผมอยากร้องไห้แล้วเนี่ย” โตโต้ถอนหายใจอย่างหมดหวัง “คุณพีคหวงน้องไหมอย่างกับน้องในไส้ ผมรู้ว่าตัวเองไม่ผ่านการสแกนแน่นอนก็เลยมาจีบน้องไหมตรงๆ นี่ไง”

“จีบตรงๆ ก็ยากจ้ะ เพราะด่านคุณแม่น้องไหมก็ไม่ธรรมดา”

ประโยคนั้นทำให้โตโต้ได้แต่ยิ้มเจื่อน ใครๆ ในบริษัทต่างก็รับรู้ว่ามารดาของหญิงสาว ‘หัวโบราณ’ และเข้มงวดกับลูกสาวคนเล็กมาก นี่ขนาดว่าหลังเรียนจบเริ่มจะผ่อนปรนบ้างแล้ว แต่ก็ยังเข้มงวดเกินกว่าปกติในสายตาทุกคน อย่าว่าแต่ผู้ชายเข้ามาจีบเลย ขนาดแต้วเป็นผู้หญิงแท้ๆ ตอนที่ไปบ้านเหมือนไหมครั้งแรกยังถูกท่านซักประวัติจนเกือบจะลืมทางกลับบ้าน กว่าท่านจะไว้ใจเธอก็ใช้เวลานานพอดู

“คนสวยก็อย่างนี้แหละ คนหวงเยอะเป็นธรรมดา ไม่ดีจริงอย่ามาจีบเล้ย”

“พี่แต้วก็พูดเกินไป เดี๋ยวคนเขาก็หมั่นไส้ไหมกันหมดหรอกค่ะ ไหมก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอก” เหมือนไหมปรามเพื่อนรุ่นพี่ เพราะเธอรู้ว่ามันเป็นธรรมดาที่มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด

ยิ่งปฏิภาณเอ็นดูเธอก็อาจยิ่งทำให้คนอื่นหมั่นไส้เธอได้ง่ายๆ

“ไหนๆๆๆ ใครจะกล้าหมั่นไส้น้องรักของคุณพีค” ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนยุให้แต้วพูด เธอทำทีชะโงกหน้ามองหาจนสายสุดาส่ายหน้าให้กับความเล่นใหญ่นี้ “น่ารักอย่างไหมใครจะหมั่นไส้ได้ลงคอ”

แต้วนั่งแทรกระหว่างเหมือนไหมกับโตโต้จนอีกฝ่ายถอดใจกลับไปร่วมวงกับกนกพลเหมือนเดิม จากนั้นเธอก็ชงเครื่องดื่มให้เหมือนไหมใหม่เมื่อเห็นว่าแก้วอีกฝ่ายพร่องลงไปมาก

“อ่ะ ดื่มๆๆๆ แก้วนี้พี่ชงพิเศษเพื่อไหมคนเดียวเลยนะ”

“ขอบคุณค่ะ พี่แต้วของไหมน่ารักที่สุด”

“อ่ะ อยู่เป็น”

สองสาวพูดหยอกล้อกันก่อนที่สายสุดาจะชวนทั้งสองคนชนแก้ว ก่อนหน้านี้เหมือนไหมคุยจนคอแห้งจึงยกดื่มไปหลายอึกเพราะเครื่องดื่มที่แต้วชงให้ได้กลิ่นแอลกอฮอล์น้อยมากจนเหมือนดื่มน้ำมะนาว

“ใช้ได้มั้ย” แต้วถาม

“อร่อยดีนะคะ ไม่ขมเลย”

เหมือนไหมยิ้มขณะยกแก้วว้อดก้าที่มีมิกเซอร์เป็นน้ำสไปรท์ผสมน้ำมะนาวใส่น้ำแข็งขึ้นดื่มอีก ใครจะหาว่าเธอดื่มแบบเด็กน้อยเธอก็ไม่สนใจหรอก

“แหม! จะขมได้ไง แก้วนี้พี่ผสมว้อดก้านิดเดียวเอง รับรองว่าไม่เมาแน่นอน อ่ะ ดื่มๆๆๆ” แต้วชวนสายสุดากับเหมือนไหมชนแก้วอีก “ว่าแต่คุณพีคไปไหน พี่เห็นคุณภากลับไปแล้วนี่นา”

“นั่นดิ! ผมรอดวลเหล้ากับคุณพีคนานแล้วเนี่ย” กนกพลตะโกนข้ามวงมาเม้าท์

“คุณรัตน์มาตามพี่พีคไปคุยกับคุณภานี่คะ” เหมือนไหมบอก

“เอ…ก็น่าจะคุยจบแล้วมั้ย คุณภาถึงได้กลับไป แล้วทำไมคุณพีคยังไม่กลับมาอีกล่ะ ปกติไม่หายไปนานขนาดนี้นะ” แต้วพูดอย่างสงสัยและเป็นห่วงเจ้านายอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าเขาเมาจนเผลอหลับไปแล้วหรือเปล่า “งั้นไหมไปดูคุณพีคหน่อยสิว่าเขาเมาหลับไปแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่หลับก็บอกคุณพีคหน่อยว่าพวกเรายังรอสนุกกับคุณพีคอยู่ นี่ยังไม่ได้อวยพรวันเกิดคุณพีคกันเลยนะ”

“แล้วทำไมต้องเป็นไหมด้วยล่ะคะ”

“เพราะไหมเป็นคนเดียวที่ยังไม่เมาและไหมเป็นน้องรักของคุณพีคไง”

แต้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะหากปฏิภาณกำลังอารมณ์ไม่ดีหรืออยากอยู่คนเดียว เป็นคนอื่นไปตามคงถูกดุอย่างไม่ต้องสงสัย แต่…ถ้าเป็นเหมือนไหมน้องรักของเขาก็คงจะไม่โดนอะไร

อย่างมากเขาก็แค่บอกให้อีกฝ่ายกลับมาสนุกกับเพื่อนๆ ต่อก็เท่านั้น

“ส่งไหมไปเป็นหน่วยกล้าตายชัดๆ เลย” หน่วยกล้าตายบ่นอุบอิบ

“ถูกค่ะ! รีบไปรีบมานะคะหน่วยกล้าตาย”

เหมือนไหมทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมลงไปตามปฏิภาณแต่โดยดี ทว่าขณะที่ก้าวไปยังห้องรับแขกเธอก็รู้สึกมึนศีรษะอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวจึงหยุดชะงักเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ

ไหนพี่แต้วบอกว่าผสมว้อดก้านิดเดียว

เหมือนไหมคิดในใจแต่ก็นึกได้ว่าบางทีเธออาจจะนั่งนานเกินไปทำให้มีอาการหน้ามืดก็เป็นได้ จากนั้นร่างบางก็รีบเดินตรงไปที่ห้องรับแขก แล้วเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าปฏิภาณกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว รอบตัวเขามีขวดเบียร์มากมายวางระเกะระกะจนไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่าเขาเมามาก

เห็นแล้วหญิงสาวก็ยิ่งคิดว่าปฏิภาณกับอรรัมภาคงจะมีปัญหากัน พออีกฝ่ายมาหาเขาแล้วอาจจะเคลียร์กันไม่ได้ เขาถึงได้ไม่กลับขึ้นไปสนุกกับพนักงานข้างบน แต่ไปขนเบียร์มาดื่มคนเดียวในห้องนี้

“พี่พีคคะ คือ…” แม้จะลังเลใจว่าควรจะเข้าไปขัดจังหวะการดื่มของเขาหรือไม่ แต่ในที่สุดเธอก็พูดออกไปจนได้ “ทุกคนเห็นว่าพี่พีคหายมานานแล้วก็เลยให้ไหมมาตามน่ะค่ะ”

ปฏิภาณซึ่งกำลังนั่งก้มหน้าอยู่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหา สายตาเขาเย็นชาและว่างเปล่าจนเธอเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร

“ภา…”

ชายหนุ่มเรียกชื่อของอดีตคนรักขณะที่อ้อมแขนแข็งแกร่งตวัดเรือนร่างของเหมือนไหมเข้าสู่อ้อมกอดจนเธอตกใจแทบทำอะไรไม่ถูก ร่างบางจึงรีบยกมือขึ้นดันแผ่นอกกว้างเอาไว้เพื่อผลักไสเขาออกไป แต่ถึงแม้ชายหนุ่มจะเมามาก ทว่าเรี่ยวแรงในตัวเขากลับดูเหมือนจะไม่ลดลงเลย

“ไม่ใช่นะคะ นี่ไหม…”

หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบประโยค คนตัวสูงก็โน้มตัวลงมาใกล้แล้วกดริมฝีปากทาบทับลงบนริมฝีปากเธออย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาไม่อยากได้ยินถ้อยคำใดๆ จากปากเธออีกแล้ว

“อื้อ!”

เหมือนไหมหอบหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ขณะที่กำหมัดทุบลงบนแผ่นอกกว้างเหมือนจะเรียกสติของปฏิภาณให้กลับมา ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกหน้ามืด สมองพร่าเลือน ร่างกายเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงลงดื้อๆ

และไม่กี่วินาทีต่อมาสติของเธอก็ดับวูบไปจนไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย

 

ติ๊ด…ติ๊ด…

เสียงโทรศัพท์มือถือดังต่อเนื่องไม่หยุดทำให้เหมือนไหมต้องตื่นนอนอย่างไม่เต็มใจ เธอขยี้ตาและปิดปากหาวด้วยความงัวเงียขณะที่อีกมือควานหาโทรศัพท์มือถือมากดรับสาย

เสียงนั้นก่อความรำคาญอย่างยิ่งเมื่อมันดังในตอนเช้าโดยไม่มีทีท่าจะหยุด บวกกับอาการปวดศีรษะซึ่งน่าจะเกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่คั่งค้างก็ยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดมากขึ้น

ไม่รู้เมื่อคืนนี้แม่เห็นตอนที่เราเมากลับมาหรือเปล่า

หญิงสาวคิดอย่างไม่สบายใจเลย หากมารดาเห็นเธอเมาแอ๋กลับบ้าน เธอคงจะถูกท่านเทศนายันสงกรานต์ปีหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย แน่ล่ะ! ในเมื่อท่านได้ขึ้นชื่อเรื่องความหัวโบราณอย่างกับอะไรดี ขนาดเมื่อคืนเธอจะขออยู่ปาร์ตี้ที่บริษัทก็ยังต้องยกเหตุผลด้วยการชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบาย

ใครๆ ต่างก็บอกว่า ‘มธุริน’ มารดาเธอเข้มงวดจนเกินไป เธออายุยี่สิบห้าปีแล้วไม่ใช่นักเรียน ม.ต้น สักหน่อย ทำไมท่านถึงได้เป็นห่วงและหวงเธอนัก แต่เธอก็เข้าใจว่ามารดาถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่หัวโบราณและเข้มงวดเช่นกัน อีกอย่างบิดาเธอก็เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ท่านจึงต้องเลี้ยงเธอกับพี่สาวมาเพียงลำพัง การที่ท่านจะเป็นห่วงลูกสาวทั้งสองคนมากมันก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา

หมับ…

มือเรียวบางที่พยายามควานหาโทรศัพท์มือถือคว้าหมับไปที่ ‘สิ่งใดสิ่งหนึ่ง’ แต่…ผิวสัมผัสนั้นไม่ใช่สิ่งของ ทว่าเป็นอะไรอุ่นๆ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตมากกว่า!

“กรี๊ดดด”

วินาทีนั้นเหมือนไหมรีบปล่อยมือจากสิ่งนั้นแล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงราวกับกระแทกกับสปริงเช่นเดียวกับเจ้าของ ‘ส่วนใดส่วนหนึ่ง’ ที่เธอคว้าหมับเข้าเมื่อครู่ก็เด้งตัวขึ้นมาจากเตียงเช่นเดียวกัน ถึงแม้เธอจะรู้สึกได้ว่าสัมผัสมันผ่านเนื้อผ้า แต่ก็ยังอดขนลุกขนพองไม่ได้อยู่ดี

“พี่พีค!”

ร่างบางอุทานเป็นชื่อของคนที่อยู่บนเตียงเดียวกับเธอด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด เธอก็อยากชมเขาว่าขนาดเพิ่งตื่นนอน ผมยุ่งเหยิงและชี้โด่เด่จนไม่เป็นทรงก็ยังดูดีอยู่หรอกนะ แต่สถานการณ์ตอนนี้เธอชมไม่ลงจริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อยิ่งกว่าอยู่ในความฝันจนเธอต้องลองตบหน้าตัวเอง

ไม่ได้ฝัน แล้วพี่พีคมาอยู่บนเตียงเดียวกับเราได้ไง!

เมื่อตบหน้าตนแล้วรู้สึกเจ็บ คนเพิ่งตื่นนอนก็มองร่างสูงตรงหน้าด้วยท่าทีลนลานและดวงตาเบิกกว้าง สถานการณ์แบบนี้เธอเคยอ่านเจอในนวนิยายและเห็นในละครหลายเรื่อง แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดกับตัวเอง

ปฏิภาณอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ และเขานั่งมองเธอด้วยสีหน้าแตกตื่นไม่ต่างกัน!

เหมือนไหมมองชายหนุ่มให้ชัดๆ อีกครั้งแล้วเพิ่งได้สติว่าร่างสูงเปลือยท่อนบนเผยแผ่นอกกว้างและกล้ามเนื้อสุดเซ็กซี่ที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี ส่วนท่อนล่างของเขามีผ้าห่มคลุมอยู่

ปละ…เปลือยงั้นเหรอ!

หญิงสาวคิดแล้วเหงื่อตกทันที เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ตัวชา และหัวใจเต้นแรงเมื่อนึกถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ในใจก็ภาวนาว่าขออย่าให้มันเกิดเรื่องบ้าๆ เลย

ไม่อย่างนั้นมันคงนำพาเรื่องราววุ่นวายมาสู่ชีวิตเธอ และไม่มีทางที่มันจะจบอย่างสวยงามเป็นแน่ เพราะเธอรู้ดีว่าระหว่างเธอกับเขามี ‘เรื่องราวบางอย่าง’ ที่เป็นเสมือน ‘กำแพง’ คอยขวางไว้

“ไหม!”

ชายหนุ่มเรียกชื่อคนตัวเล็กอย่างแปลกใจไม่แพ้กันราวกับว่าเขาเองก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และนั่นเหมือนจะดึงสติของเหมือนไหมให้กลับคืนมาได้บ้าง

“พี่พีค…พี่พีคใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะค่ะ”

เหมือนไหมมีสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่ปฏิภาณรู้ว่าเธอกำลังพยายามกลั้นน้ำตาไว้ขณะกวาดสายตามองหาเสื้อผ้าของเขาจนลืมดูตัวเอง และเมื่อเห็นมันหล่นอยู่บนพื้นเธอก็ทำท่าว่าจะรีบลงไปคว้ามันมาให้เขา ทว่า…ชายหนุ่มก็รีบคว้ามือเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะลุกออกจากผ้าห่ม

“อะไร…อะไรคะ”

ร่างบางถามอย่างร้อนรนขณะพยายามดึงมืออกจากมือของชายหนุ่มราวกับว่ามือเขาเป็นของร้อนที่เธอไม่อยากแตะต้องก็ไม่ปาน

“พี่พีคปล่อยไหมนะคะ”

“อย่าเพิ่งลุกไปไหน ไหมโป๊อยู่”

ปฏิภาณออกปากเตือนตรงๆ ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่ไม่อยากเห็นเขาในสภาพล่อแหลม แต่เขาเองก็ไม่อยากเห็นเรือนร่างเธอในสภาพล่อแหลมเช่นกัน

ปะ…โป๊เหรอ!

เหมือนไหมมัวแต่สนใจคนที่อยู่บนเตียงด้วยกันจนลืมดูตัวเอง เมื่อชายหนุ่มเตือนเช่นนั้นเธอจึงรีบก้มมองแล้วเห็นว่าร่างกายท่อนบนที่โผล่พ้นผ้าห่มมีเพียงเสื้อชั้นในเท่านั้น

หญิงสาวรีบดึงผ้าห่มขึ้นทันควัน ความอายทำให้ใบหน้าเธอแดงก่ำและผิวกายขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างควบคุมไม่ได้ แค่ตื่นมาบนเตียงเดียวกันก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่เธอยังแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายอีกหรือ

ตั้งแต่เกิดมาเหมือนไหมยังไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ เรื่องสัมผัสหรือแตะเนื้อต้องตัวกับเพศตรงข้ามก็เกิดขึ้นกับเธอน้อยมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เธออับอายจนอยากจะร้องไห้จริงๆ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนพี่พีคทำอะไรไหม”

หญิงสาวพยายามทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็จำอะไรไม่ได้นอกจากเธอไปตามปฏิภาณที่ห้องรับแขกแล้วถูกเขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอรรัมภาจนคว้าเธอเข้าไปจูบ จากนั้นสติเธอก็ดับวูบไป

“ไหมจำอะไรไม่ได้เลย”

“พี่จะไปรู้เหรอ พี่ตื่นทีหลังไหมด้วยซ้ำ”

ปฏิภาณพยายามทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ แต่เขาจำได้แค่ว่าอรรัมภามาบอกเลิก จากนั้นเขาก็นั่งดื่มอยู่คนเดียวในห้องรับแขก กระทั่งเห็นอรรัมภาเดินกลับมาอีกรอบ เขาก็คว้าเธอเข้ามาจูบแล้วก็จำอะไรไม่ได้เช่นกัน ที่แท้…อรรัมภาไม่ได้กลับมา แต่เขาเมามากจนคิดว่าเหมือนไหมเป็นอรรัมภาหรือนี่!

“แล้วพี่พีคมาอยู่ในห้องไหมได้ไง”

“เช็กด้วย! นี่มันห้องนอนพี่…เราสองคนยังอยู่ที่บริษัท”

ปฏิภาณมองไปรอบห้องเพื่อให้เหมือนไหมดูให้ดีๆ ว่าทั้งสองคนอยู่ในสภาพห้องแบบไหน…ห้องนี้เป็นห้องนอนส่วนตัวของเขาซึ่งอยู่ในเรือนไทยหลังเล็ก เขามักจะค้างที่นี่เวลาดูการตัดต่องานจนดึก

“ไหมเองเหอะ ทำอะไรพี่หรือเปล่า”

ปฏิภาณย้อนถามแม้จะพอรู้ว่าผู้หญิงอย่างเหมือนไหมคงไม่ใจกล้าทำอะไรผู้ชายก่อน แต่เมื่อกี้เธอก็ปลุกเขาด้วยการสัมผัส ‘ส่วนนั้น’ ของเขาแล้ว

นึกแล้วชายหนุ่มก็ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกยังไง เขาทั้งอายทั้งตกใจเพราะเกิดมาเพิ่งเคยถูกปลุกให้ตื่นนอนด้วยการสัมผัส ‘น้องชาย’ เป็นครั้งแรก!

“พี่พีคจะบ้าเหรอ ไหมจะทำอะไรพี่พีคได้ไงเล่า”

หญิงสาวปฏิเสธด้วยใบหน้าแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ เธอไม่กล้าคิดเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น และถ้ามารดารู้เข้าจะตำหนิเธอขนาดไหน

“พี่ก็แค่ถามดู! ใครจะไปรู้ว่าเราคิดอะไร จู่ๆ เราก็มาจับของพี่แบบนั้น”

“ไหมไม่ได้ตั้งใจจะจับ…ของพี่พีคสักหน่อย!”

เหมือนไหมอธิบายด้วยความอับอายและกรุ่นโกรธที่เขาเอาแต่พูดถึงเรื่องนั้นอยู่ได้ แค่เธอคว้าหมับไปเจอ ‘ของเขา’ อย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอก็เสียขวัญจะตายอยู่แล้ว

“ไหมหามือถือของไหมต่างหาก จริงสิ! ก่อนหน้านี้มือถือไหมดังไม่หยุด แม่ต้องโทรหาไหมแน่ๆ”

“แล้วไหมเอามือถือไว้ไหน”

“ไหมจำไม่ได้ค่ะ ไหมบอกแล้วไงว่าจำอะไรไม่ได้เลย”

เหมือนไหมบอกอย่างร้อนใจและหัวเสียสุดขีด ร่างบางพยายามค้นหาโทรศัพท์มือถือสุดชีวิต ปฏิภาณจึงช่วยเธอหาจนศีรษะของทั้งสองคนเกือบจะกระแทกกัน แล้วในตอนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งเมื่อจู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างรุนแรงราวกับ ‘จังหวะนรก’

“ยายไหม!”

เสียงคุ้นหูที่ตวาดมาจากประตูทำให้หัวใจเหมือนไหมแทบจะหยุดเต้น วินาทีนั้นน้ำตาที่เคยสะกดกลั้นเอาไว้ไหลพรากลงมาทันที หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะก็ไม่ปาน

“แม่!!!”

เหมือนไหมตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาที่เหมือนจะช็อกไปแล้วเพราะท่านไม่คิดเลยว่าลูกสาวผู้เรียบร้อยอ่อนหวานที่ท่านเฝ้าอบรมสั่งสอนจะอยู่บนเตียงกับผู้ชายในสภาพร่างกายเกือบเปล่าเปลือยเช่นนี้ ไม่ต้องบอกท่านก็รู้ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบนเตียงนี้บ้าง

“ยายไหม! ทำไมทำตัวแบบนี้!”

มธุรินตะโกนอย่างสุดกลั้นหลังจากพยายามปรับสภาพอารมณ์ให้เย็นลงแล้ว แต่ยิ่งพยายามทำใจให้สงบมันก็ยิ่งกดดันจนในที่สุดท่านก็ต้องระเบิดมันออกมา แล้วตรงเข้าไปหาลูกสาวที่นั่งตัวสั่นอยู่บนเตียง แต่จะไม่ให้ท่านโกรธได้ยังไงไหวในเมื่อลูกสาวคนเล็กทำตัวไร้ยางอายเช่นนี้

ความจริงมธุรินอยากมาตามเหมือนไหมตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพราะอีกฝ่ายยังไม่กลับบ้าน แต่ ‘เหมือนแพร’ ลูกสาวคนโตห้ามไว้ อีกทั้งยังบอกอีกว่าเหมือนไหมโตแล้ว ควรให้น้องได้เรียนรู้ชีวิต และเธอก็เชื่อว่าเหมือนไหมจะดูแลตัวเองได้ หากตอนเช้าเหมือนไหมยังไม่กลับบ้านค่อยไปตามหาจะดีกว่า

มธุรินอดทนรออย่างร้อนรน กระทั่งตอนเช้าท่านก็ยังไม่เห็นลูกสาวกลับบ้าน ทว่าสิ่งที่เห็นกลับเป็นรูปถ่ายของลูกสาวกับปฏิภาณนอนกอดกันอยู่บนเตียงในสภาพล่อแหลมซึ่งถูกส่งมาจากเบอร์โทรศัพท์ปริศนา มธุรินไม่ลังเลใจที่จะบุกไปตามถึงคฤหาสน์จิรภาคินทร์เพราะคิดว่าทั้งสองอยู่ที่นั่น

แต่คนบ้านนั้นบอกว่าปฏิภาณยังไม่กลับ ดูจากสภาพห้องนอนในภาพแล้วน่าจะเป็นห้องนอนที่บริษัท จากนั้นผู้ใหญ่ของบ้านจิรภาคินทร์ มธุริน และเหมือนแพรก็ยกโขยงกันมาที่นี่อย่างไม่รอช้า เพราะถ้าไม่มาก็กลัวว่ามธุรินซึ่งกำลังใจร้อนราวกับไฟจะมาพังบริษัทของปฏิภาณจนราบเป็นหน้ากลองข้อหาที่เขาล่วงเกินเหมือนไหม และทุกคนแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมาพบกับเหตุการณ์นี้เข้าจริงๆ

แม้จะทำใจมาล่วงหน้า แต่มธุรินก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้อยู่ดี

“แม่ให้แกมาทำงานนะ ไม่ใช่ให้มานอนกับผู้ชายอย่างนี้!”

มธุรินยังไม่ทันได้กระชากตัวลูกสาว ปฏิภาณก็ขยับมาขวางไว้เพราะสงสารเหมือนไหมและกลัวว่าท่านจะโกรธจนทำร้ายเธอทั้งๆ ที่เขาก็ยังตกตะลึงและงุนงงกับสถานการณ์ในตอนนี้มาก

“พอเถอะค่ะแม่ อย่าเพิ่งโวยวายเลยนะคะ”

เหมือนแพรรีบเข้ามาห้ามมารดาเพราะเสียงโวยวายของท่านทำให้พนักงานแห่มายืนดูอยู่หน้าประตูห้องแล้วซุบซิบไปต่างๆ นานา เธอสงสารน้องที่กำลังตกเป็นขี้ปากชาวบ้านจนไม่รู้ว่าต่อไปจะทำงานที่นี่ได้อีกหรือไม่ และเพียงแค่นี้อีกฝ่ายก็อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

“พนักงานมามุงกันเต็มแล้วค่ะแม่ แค่นี้ก็ขายหน้าจะแย่แล้วค่ะ” เหมือนแพรกระซิบมธุรินทำให้ท่านมองไปที่ประตูแล้วเห็นว่าพนักงานกำลังมองเข้ามาในห้องด้วยความอยากรู้อยากเห็นจริงๆ

เท่านั้นแหละ! มธุรินก็พยายามข่มอารมณ์ไว้อย่างยิ่ง แต่ดวงตาวาวโรจน์ยังมองปฏิภาณเหมือนอยากจะงับหัวเขา ส่วนเหมือนไหมที่กำลังหลบอยู่ด้านหลังชายหนุ่มก็ถึงกับน้ำตาไหลพราก เธออับอายจนไม่อยากโผล่หน้าออกไปพบเจอผู้คน เพราะรู้ว่าจะต้องถูกนินทาจนไม่มีชิ้นดีเป็นแน่

ส่วนปฏิภาณเองก็เริ่มจะตระหนักแล้วว่าหลังจากนี้…เรื่องคงไม่จบง่ายๆ ลำพังตัวเขาเองคงไม่เท่าไหร่เพราะเขาเป็นผู้ชาย อีกทั้งยังเคยรับมือกับเสียงซุบซิบนินทามาจนเคยชินแล้ว แต่เหมือนไหมเป็นผู้หญิง เธอดูจะเสียหายมากกว่าเขา แล้วไหนจะต้องถูกมารดาต่อว่าอย่างหนักอีก

“ผมว่าเราค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่านะครับ” ประวันวิทย์ออกโรงเจรจาบ้าง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้สอบถามความเป็นมาสักที อีกฝ่ายได้ฟังจึงพยายามรวบรวมสติแล้วปรับอารมณ์ให้เย็นลง

“ค่ะ ฉันคิดว่าพวกเราคงต้องคุยเรื่องนี้กันอีกยาวแน่”

มธุรินบอกอย่างพยายามสะกดความโกรธไว้ก่อนจะมองหน้าเหมือนไหมและปฏิภาณด้วยสายตาเอาเรื่อง ในฐานะคนเป็นแม่…ท่านจะไม่ยอมให้ลูกสาวเสียหายหรือถูกใครครหานินทาแน่

ปฏิภาณทำอะไรกับลูกสาวของท่านไว้ก็ต้องรับผิดชอบ!

 

(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 26 มีนาคม)

หน้าที่แล้ว1 of 7

Comments

comments

Jamsai Editor: