เห็นหลี่เมิ่งซีตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไป เซียวอวิ้นขบคิดและเอ่ยว่า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน รัชทายาทบวงสรวงฟ้าทำให้ท้องฟ้าวิปริต ถูกราษฎรทั่วหล้าตำหนิ ตำแหน่งรัชทายาทไม่มั่นคง สกุลเซียวเองก็ไม่ปลอดภัย เกรงว่าจะมิใช่ที่พำนักพักพิงที่ดี เดิมทีข้ากับพี่รองก็ตั้งใจว่าจะเดินทางลงใต้อยู่แล้ว เดินทางไปครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร พี่สะใภ้รองหลบไปอยู่นอกคฤหาสน์ชั่วคราวก่อน วันหน้าหากสกุลเซียวอยู่รอดปลอดภัย ข้าต้องให้พี่รองไปขอขมาพี่สะใภ้รองด้วยตนเองและเชิญพี่สะใภ้รองกลับคฤหาสน์แน่นอน พี่สะใภ้รองจากไปครั้งนี้ แค่จำไว้ว่าพี่รองทำไปเพราะหวังดีกับพี่สะใภ้รองก็พอ”
เซียวอวิ้นพูดจบก็กวักมือ เขารับห่อสัมภาระใบหนึ่งจากมือของบ่าวชายด้านหลัง ยื่นให้หลี่เมิ่งซีด้วยสองมือพลางพูด “ได้ยินว่าพี่สะใภ้รองออกจากคฤหาสน์โดยไม่ได้นำอะไรติดตัวไปด้วยเลย นี่เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางเล็กน้อย พี่สะใภ้รองอย่าได้รังเกียจ หากใช้อย่างประหยัดหน่อยน่าจะอยู่ได้ถึงตอนที่ข้ากับพี่รองกลับมาจากทางใต้ ในห่อสัมภาระยังมีจดหมายฉบับหนึ่ง หากพี่สะใภ้รองไม่อยากกลับบ้านเดิม สามารถไปหาบุคคลในจดหมายตามที่อยู่ในจดหมายได้ เขาเป็นสหายที่สนิทสนมกับข้ายิ่งนัก เห็นจดหมายแล้วต้องคุ้มครองท่านให้ปลอดภัยได้แน่”
เห็นเซียวอวิ้นช่วยเหลือด้วยความจริงใจเช่นนี้ คิดถึงความช่วยเหลือที่เขาหยิบยื่นให้ตนหลายต่อหลายครั้ง กระแสความอบอุ่นพลันไหลผ่านหัวใจของหลี่เมิ่งซี นางไม่ได้รับห่อสัมภาระ เพียงแต่โบกมือให้คนอื่นๆ ถอยออกไป เห็นทุกคนถอยไปไกลแล้ว นางจึงหันไปพูดกับเซียวอวิ้นที่มีสีหน้าสงสัย “ข้าขอบคุณในความจริงใจของคุณชายสาม เรื่องมาถึงยามนี้ข้าจะพูดความจริงกับคุณชายสามแล้วกัน ข้าก็คือเจ้าของร้านยาอี๋ชุน เนื่องจากตอนนั้นได้ยินคุณชายสามบอกว่าสกุลเซียวมีคำสอนของบรรพบุรุษ ด้วยรู้ว่าข้ากับคุณชายรองไม่มีวาสนาต่อกัน ข้าจึงนำสินเจ้าสาวไปจำนำและเปิดร้านยาอี๋ชุนขึ้นมา เดิมทีแค่ต้องการหาที่พักพิงและหลักแหล่งให้ตนเองหลังจากถูกหย่าเท่านั้น ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นวันนี้ เมื่อเช้ารัชทายาทมาที่คฤหาสน์และเปิดเผยความจริง คุณชายรองจึงเขียนหนังสือหย่าให้ข้าด้วยเหตุนี้ ที่ข้าจากไปครั้งนี้เพราะต้องทำตามราชโองการเดินทางลงใต้ไปกับรัชทายาทเพื่อรักษาโรคระบาด วันหน้าหากคุณชายสามมีอะไรสามารถไปแจ้งที่ร้านยาอี๋ชุนได้เสมอ วันนี้ข้าขออำลา ฝากบอกคุณชายรองด้วยว่าให้เขาดูแลตนเองให้ดี”
“พี่สะใภ้รอง พี่สะใภ้รอง…คือเซียนปรุงยา…ที่ผู้คนเล่าลือกัน…พี่รองหย่าท่าน…เพราะเหตุนี้” ฟังคำบอกเล่าของหลี่เมิ่งซีแล้ว เซียวอวิ้นก็พึมพำกับตนเองอย่างโง่งม เสียงเขาสั่นเล็กน้อย ดวงตาที่เบิกโตปานระฆังทองแดงจ้องหลี่เมิ่งซีอย่างเหลือเชื่อ
เห็นท่าทีของเซียวอวิ้นแล้ว หลี่เมิ่งซีไม่พูดมากอีก เพียงกวักมือเรียกคนบังคับรถที่อยู่ห่างออกไป ส่งสัญญาณให้เขารีบออกเดินทาง
แม้คุณชายสามจะมีคุณธรรมและมีนิสัยที่เปิดเผยตรงไปตรงมา แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ฐานะเซียนปรุงยาของสะใภ้รองคนรู้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี เห็นสะใภ้รองบอกเรื่องนี้กับคุณชายสามโดยไม่ปิดบัง จือชิวอยากห้ามก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว นางเหลือบมองสะใภ้รองด้วยสายตาตำหนิแวบหนึ่งก่อนจะพูดกับคุณชายสามที่ยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้น “คุณชายสาม เมื่อวานฮ่องเต้มีราชโองการให้เซียนปรุงยาเข้าวังถวายการรักษาไทเฮา พี่ชายของบ่าวกราบทูลฮ่องเต้ไปแล้วว่าเซียนปรุงยาล้มป่วยอยู่ทางใต้ หากฐานะของเซียนปรุงยาเปิดเผยออกไป ย่อมมีความผิดมหันต์ฐานหลอกลวงเบื้องสูง บ่าวขอร้องคุณชายสามอย่าเพิ่งเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปเลยนะเจ้าคะ”
เห็นเซียวอวิ้นผงกศีรษะอย่างแข็งทื่อ จือชิวจึงปล่อยม่านรถ ก่อนที่รถม้าจะแล่นจากไปช้าๆ…
สวรรค์! เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร พี่สะใภ้รองก็คือเซียนปรุงยาที่ข้าตามหามาตั้งนาน
ท่ามกลางลมฤดูใบไม้ร่วงหนาวเย็น เซียวอวิ้นยืนนิ่งงันอยู่ที่เดิม แขนเสื้อปลิวพลิ้ว มองส่งรถม้าโดดเดี่ยวคันนั้นค่อยๆ แล่นห่างออกไป ก่อนจะหายลับไปท่ามกลางดวงอาทิตย์สนธยาที่เป็นสีแดงดุจโลหิต
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 7 มิ.ย. 62