สมแล้วที่เป็นเหล่าไท่จวิน พอตั้งสติได้ก็จัดการเรื่องราวอย่างเฉียบขาด ครั้นเห็นเซียวชิงจะยังรั้งรออยู่ที่นี่ต่อไป ไม่รอให้เขาพูดจบนางก็ขัดขึ้นเสียก่อน น้ำเสียงก้องกังวานเจือแววหนักแน่นไม่ยอมให้ปฏิเสธ
เห็นเหล่าไท่จวินโมโห เซียวชิง เซียวอวิ้นรีบรับคำและลุกขึ้นเดินออกไป
หลานสองคนออกไปแล้ว เหล่าไท่จวินหันไปมองนายท่านใหญ่แล้วถาม “ไฉนจดหมายส่วนตัวของนายท่านใหญ่จึงรั่วไหลออกไปได้”
“ลูกก็ไม่ทราบขอรับ ประเดี๋ยวลูกจะไปตรวจสอบดูให้ดี”
“เห็นทีคฤหาสน์สกุลเซียวจะมีหนอนบ่อนไส้จริงๆ ถึงเวลากำจัดทิ้งแล้วล่ะ เอกสารลับในห้องหนังสือของนายท่านใหญ่ที่ควรทำลายสองวันนี้ก็ทำลายซะเถอะ เก็บไว้ย่อมเป็นต้นเหตุแห่งหายนะ”
“ขอรับ ลูกก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน คืนนี้จะลงมือจัดการให้เรียบร้อย มารดาไม่ต้องกังวล รัชทายาทจิตใจมีเมตตา คนดีฟ้าย่อมคุ้มครอง ขอเพียงผ่านพ้นเคราะห์ภัยครั้งนี้ไปได้ อดทนอีกสักนิด สถานการณ์ย่อมต้องดีขึ้นแน่”
“ตั้งแต่ต้าฉีเกิดปรากฏการณ์ประหลาด อัครเสนาบดีถูกร้องเรียน เกิดข่าวลือเกี่ยวกับรัชทายาทขึ้นมากมาย ข้าเองก็กังวลว่าจะมีวันนี้ หากเยียนอ๋องลงมือกับสกุลเซียว เขาต้องลงมือกับนายท่านรองก่อนเป็นคนแรก เรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าผู้ตรวจการจางจะเป็นผู้นำการร้องเรียนในครั้งนี้ ถึงอย่างไรก็เป็นญาติกัน ไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด หลายปีมานี้สกุลเซียวก็สนับสนุนเขาด้านการเงินไม่น้อย เวลานี้ไม่ช่วยเหลือกันก็แล้วไปเถอะ กลับเป็นผู้นำในการร้องเรียนนายท่านรองเสียได้!”
“มารดา ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายไหนเลยจะสนใจญาติมิตรอีกเล่า ทุกคนต่างทำงานเพื่อเจ้านายของตนเองทั้งนั้น”
พูดถึงตรงนี้นายท่านใหญ่พลันบังเกิดความคิดบางอย่าง “มารดา ซิ่วเอ๋อร์แต่งงานกับเยียนอ๋อง นางพักอยู่ในคฤหาสน์ตั้งนาน จะเป็น…”
ฟังคำพูดนี้แล้ว เหล่าไท่จวินร่างสั่นเทา แต่แล้วก็ส่ายหน้าทันที “อุบายของซิ่วเอ๋อร์ออกจะชั่วร้ายไปหน่อย แต่อย่างไรนางก็เป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง มือของนางยื่นเข้าไปไม่ถึงห้องหนังสือของเจ้าหรอก นายท่านใหญ่ตรวจสอบคนข้างกายดูดีกว่า แต่พวกข้ารับใช้ในเรือนต่างๆ ที่ปกติใกล้ชิดกับซิ่วเอ๋อร์ยังคงต้องกำจัดทิ้งให้หมด”
“มารดากล่าวถูกต้อง พรุ่งนี้ลูกจะสั่งการชุยซื่อและพ่อบ้านเต๋อ”
“เรื่องของผู้ตรวจการจางอย่าเพิ่งบอกนายหญิงใหญ่ ข้าว่าอาการป่วยของนางดูไม่น่าจะรักษาให้หายได้ ปกตินางสนิทสนมกับพี่สาวที่บ้านเดิมยิ่งนัก หากรู้เรื่องนี้แล้วเกรงว่าจะรับไม่ได้”
“มารดากล่าวถูกต้อง ใช่แล้ว มารดา ลูกอยากให้จวิ้นเอ๋อร์รวบรวมราษฎรทางใต้ร่วมกันลงชื่อสนับสนุนน้องรองในนามของซั่งกวนจวิ้น ขอเพียงยังไม่ถูกตัดสินความผิดในตอนนี้ พวกเราย่อมค่อยๆ คิดหาหนทางได้แน่”
“อืม บอกพวกเขาสามพี่น้องด้วยว่าถึงทางใต้แล้วให้ไปติดต่อกับทางการก่อน อย่าปล่อยให้ครอบครัวของนายท่านรองที่อยู่ข้างในต้องลำบาก สองวันนี้ในคฤหาสน์ของเราเองก็ต้องเตรียมการด้วย ควร…”
ระหว่างพูด ซื่อฮว่าก็เคาะประตูเข้ามารายงาน “เรียนเหล่าไท่จวิน นายท่านใหญ่ รัชทายาทเสด็จมาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
เหล่าไท่จวินฟังแล้วรีบบอกให้เชิญ เวลานี้นางไม่ยึดถือธรรมเนียมจุกจิกอีก ให้เชิญรัชทายาทมาที่เรือนโซ่วสี่
รัชทายาทพาองครักษ์สองคนเดินตามบ่าวชายมายังเรือนโซ่วสี่ เหล่าไท่จวินกับนายท่านใหญ่ยืนต้อนรับอยู่นอกประตูแล้ว เห็นเขาเข้ามาก็รีบเข้าไปคุกเข่าโขกศีรษะ คำนับรัชทายาท
“ข้าน้อยซั่งกวนซื่อถวายบังคมรัชทายาท”
“ข้าน้อยเซียวเฉินถวายบังคมรัชทายาท”
ซั่งกวนหงฮุยเห็นเช่นนั้นจึงยื่นมือออกไปทำท่าประคอง “เหล่าไท่จวิน นายท่านใหญ่สกุลเซียวไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”