ในใจหลินหว่านกำลังคิดว่า เรื่องจะสั่งอะไรบ้างนั้นคงไม่กล้ามี แต่เรื่องที่หลังจากนี้จะไม่กล้าให้เจ้าอยู่ข้างกายข้าอีกต่อไปแล้วนั้นนับว่ามีอยู่
เหมือนดั่งคำพูดที่ว่า ‘เจ้านายเป็นอย่างไรบ่าวก็ย่อมเป็นเช่นนั้น’ ตามเนื้อหาในนิยายแต่เดิมแล้ว ฮว่าผิงสาวใช้ข้างกายหลี่หลิงหว่านผู้นี้ก็หาใช่ตัวละครที่ดีอะไร
ช่วงแรกร่วมมือกับหลี่หลิงหว่านทำเรื่องร้ายๆ ด้วยกัน แค่สร้างความลำบากต่างๆ นานาให้กับนางเอก ‘หลี่หลิงเยี่ยน’ ก็แล้วไปเถอะ ยังจะไปเหยียบย่ำทำร้าย ‘หลี่เหวยหยวน’ อนาคตขุนนางกังฉินผู้มากอำนาจ ทำให้ตอนสุดท้ายหลังจากที่หลี่หลิงหว่านพ่ายแพ้แล้ว ฮว่าผิงก็ละทิ้งผู้เป็นนายเพื่อปกป้องชีวิตตนเอง พยายามโยนความผิดทุกอย่างมาที่ตัวหลี่หลิงหว่านอย่างเต็มที่ หลงระเริงคิดว่าจะถอนตัวออกมาได้
แต่เห็นได้ชัดว่าฮว่าผิงประเมินความใจแคบของหลี่เหวยหยวนต่ำเกินไป สุดท้ายก็ยังถูกหลี่เหวยหยวนจับกรอกสารหนูชามหนึ่งลงไปตามเดิมอยู่ดี
หลินหว่านคิดมาถึงตรงนี้ก็ดึงแขนตนเองออกมาจากมือของฮว่าผิง
“อากาศเย็น ไปหยิบเสื้อคลุมกันลมมาคลุมให้ข้าที”
หลินหว่านสีหน้าเรียบเฉย แม้แต่น้ำเสียงก็เฉยชา ฮว่าผิงได้ยินแล้วในใจอดรู้สึกผิดแปลกขึ้นมาไม่ได้
แต่ใคร่ครวญอีกทีนางก็คิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากที่เมื่อครู่นายหญิงมาหา คุณหนูถึงได้รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา นางจึงไม่เก็บมาใส่ใจ เพียงหันไปสั่งสาวใช้อีกคนที่ยืนอยู่ในห้อง “เสี่ยวซาน ไปหยิบเสื้อคลุมกันลมตัวหนึ่งมาให้คุณหนู”
เสี่ยวซานรับคำก่อนจะรีบร้อนหมุนตัวไปหยิบเสื้อคลุมขนนกสีแดงสดใสที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วเดินถือเข้ามา
ฮว่าผิงรับต่อมา นางกางเสื้อคลุมออกแล้ววางคลุมบนบ่าของหลินหว่านพลางเอ่ย “คุณหนูระวังเป็นหวัดนะเจ้าคะ”
หลินหว่านไม่ได้สนใจนาง เพียงแค่ยกสองมือกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น จากนั้นจึงเดินไปนั่งบนตั่งไม้ริมหน้าต่าง
ที่ผ่านมาล้วนเอาแต่นอนอยู่บนเตียงอย่างทึ่มทื่อ บริเวณท้ายทอยก็ปวดอย่างรุนแรง รู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่อยู่ภายในศีรษะจะออกมากองข้างนอกอย่างไรอย่างนั้น
ในนิยายเธอได้ใส่รายละเอียดลงไปดังนี้…มีอยู่ครั้งหนึ่งหลี่หลิงหว่านได้ย้อนระลึกกลับไปในตอนที่นางอายุแปดขวบ นางเห็นหลี่เหวยหยวนเดินออกมาจากสถานที่ต้องห้ามของจวนสกุลหลี่ นางจึงพุ่งขึ้นหน้าไปขวางทาง ตามซักไซ้ว่าเขาเข้าไปทำอะไรในนั้น ทั้งยังข่มขู่ว่าจะนำเรื่องนี้ไปฟ้องฮูหยินผู้เฒ่า ยามนั้นหลี่เหวยหยวนไม่พูดอะไรสักคำก็ยื่นมือออกมาผลักนางอย่างแรงในทันที
ตอนนั้นหลี่เหวยหยวนเห็นที่ด้านหลังหลี่หลิงหว่านมีก้อนหินอยู่ก้อนหนึ่ง ในจังหวะที่ผลักนางก็มีเจตนาจะสังหารนางอยู่แล้ว ทว่าในนิยายแม้ท้ายทอยของหลี่หลิงหว่านจะกระแทกเข้ากับก้อนหินอย่างรุนแรง แต่นางก็ไม่ตาย มิหนำซ้ำด้วยสาเหตุนี้ในภายหลังนางถึงได้ยิ่งเกลียดหลี่เหวยหยวน และท้ายที่สุดเพราะความเกลียดชังนี้จึงได้ชักนำอันตรายมาถึงแก่ชีวิต คาดไม่ถึงสักนิดว่าตอนนี้เจ้าของร่างเดิมได้ตายไปเลยทั้งอย่างนี้ กลับกลายเป็นเธอที่ข้ามมิติมาแทน
เพียงแต่…หลินหว่านยกมือขึ้นลูบท้ายทอยที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้อย่างแน่นหนา กำลังคิดอย่างโง่งมว่าทั้งๆ ที่ในนิยายเธอเริ่มเขียนตอนที่หลี่หลิงหว่านอายุสิบสี่แท้ๆ แต่เหตุใดเธอกลับข้ามมิติมาตอนที่หลี่หลิงหว่านอายุได้แปดขวบ ตั้งแต่หลี่หลิงหว่านอายุแปดขวบจนถึงสิบสามปี ช่วงเวลาตลอดห้าปีนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างนั้นเธอไม่ได้เขียนลงในนิยายแม้แต่ตัวอักษรเดียว
เพราะฉะนั้นในช่วงห้าปีนี้เธอควรจะทำอย่างไรดี บ้าจริง ทั้งหมดล้วนเป็นสถานการณ์ที่เธอไม่รู้อะไรเลย!
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 2 มิ.ย. 62