ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน อัตตา บทที่ 3-บทที่ 4 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน อัตตา บทที่ 3-บทที่ 4

“ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวหลานทำชุดเปื้อน” ธีรวุฒิเป็นห่วง

บุษบงกชยอมเชื่อแต่ก็ย่นจมูกให้ จากนั้นแพรอรกับบิดามารดาของคุณหมอก็เดินตามเข้ามาในห้อง ทุกคนแต่งกายอย่างเป็นทางการและดูจะพึงพอใจกับสถานที่มากจนลืมชมว่าที่เจ้าสาวไปเสียสนิท เมื่อทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้วบุษบงกชจึงต้องกระตุ้นเตือนความทรงจำของทุกคน

“ยังไม่มีใครชมบุษเลย”

“อ้อ น้องบุษสวยมากเลยค่ะ ชุดสวย แต่งหน้าก็สวย วันนี้เปล่งปลั่งไปหมด สวยหวานมาก”

“รักพี่อรที่สุด” คุณหมอเดินเข้าไปกอดพี่สะใภ้

“สวยจนพ่อคิดว่าอาจจะไม่ยกให้สารวัตรนะ”

ชนกานต์พูดเสียงเข้มแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ของตน พิมพ์กมลหัวเราะกับความยียวนของสามี เพราะตลอดทางที่นั่งรถมาก็เอาแต่บ่นว่าถึงเวลาแล้วเหรอที่ลูกสาวจะเป็นฝั่งเป็นฝา บุษบงกชแกล้งทำหน้างอแล้วเดินเข้าไปโอบบิดาจากทางด้านหลัง

“ยกให้เถอะนะคะ รถไฟขบวนสุดท้ายแล้วค่ะคุณพ่อ”

ทุกคนขำกับคำออดอ้อนนั้น ชนกานต์หันไปหอมแก้มลูกสาวเบาๆ คนเป็นบิดากับมารดาได้ตำแหน่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าของห้อง ส่วนธีรวุฒิกับแพรอรนั่งอยู่หัวโต๊ะทั้งสองด้านของโต๊ะกระจกรูปไข่ โดยมีเก้าอี้ของหม่อนไหมอยู่ข้างแม่ของเธอ พี่เลี้ยงเด็กที่ตามมาด้วยมีมุมเล็กๆ ของตัวเองตรงมุมห้องติดกับกระถางดอกกล้วยไม้ บุษบงกชพยายามกำกับให้ทุกคนนั่งในตำแหน่งที่กำหนดไว้ ยังเหลือเก้าอี้อีกสามตัวซึ่งว่างอยู่ มันตั้งฝั่งตรงข้ามชนกานต์กับพิมพ์กมล คุณหมอคิดว่าจะให้ละอองดาวนั่งตรงกลาง ส่วนเธอกับหัสยุทธจะอยู่คนละข้างเพื่อที่จะไม่ให้ละอองดาวรู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป อย่างน้อยก็ยังมีบรรยากาศของครอบครัวใหญ่โอบล้อมพวกเขาอยู่

เมื่อทุกคนนั่งประจำที่และพูดคุยกันได้ไม่กี่นาที พนักงานที่รอบริการหน้าห้องจัดเลี้ยงก็เข้ามาแจ้งว่าหัสยุทธกับละอองดาวเดินทางมาถึงแล้ว พิมพ์กมลขยับตัวแล้วยิ้มให้สามี เธอเองก็ตื่นเต้นเหมือนกับทุกคน แต่คงเพิ่มความปลาบปลื้มเข้าไปด้วย ผู้เป็นมารดาดูน้ำตารื้นอยู่ตลอดเวลา ธีรวุฒิกับบุษบงกชลุกขึ้นยืนต้อนรับแขกคล้ายกับทุกคนกำลังรอผู้มาเยือนอยู่ในบ้านของตัวเอง ตอนนี้บุษบงกชได้ขยับตัวไปยืนรอตรงหน้าประตูแล้ว เมื่อสายตาของว่าที่คู่บ่าวสาวมาบรรจบกันพวกเขาก็ยิ้มพราย

ละอองดาวถูกประคองมาโดยหลานชายคนเดียวของเธอ ชายร่างใหญ่ดูภูมิฐาน มั่นคง สุภาพ หล่อเหลาสะอาดสะอ้านจนคนที่จะเป็นภรรยาของเขาในอนาคตนั้นรู้สึกอิจฉาตัวเองขึ้นมาทันที บุษบงกชยกมือไหว้ผู้สูงวัยก่อนแล้วจึงเดินเข้าไปประคองละอองดาวอีกข้าง คนทั้งสามเดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะกระจก ธีรวุฒิกับแพรอรยกมือไหว้แขกผู้อาวุโสก่อนจะรับไหว้หัสยุทธ จากนั้นฝ่ายแขกก็ได้ทักทายบิดามารดาของฝ่ายว่าที่เจ้าสาวบ้าง เมื่อทุกคนลุกขึ้นยกมือไหว้กันครบแล้วชนกานต์ก็เป็นฝ่ายเชิญให้ทุกคนนั่ง ละอองดาวหันไปมองหลานสาวตัวน้อยของบุษบงกชที่มีของเล่นอยู่ในมือด้วยสายตาอ่อนโยน แพรอรบอกให้บุตรสาวยกมือไหว้ผู้ใหญ่ หม่อนไหมก็ทำหน้าที่ของตนได้อย่างน่ารักน่าชัง บรรยากาศในห้องอบอุ่นมากจนหัสยุทธลืมความเศร้าของเขาเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้วไปชั่วขณะ…

“ดีใจที่วันนี้ได้พบหน้ากันเสียทีนะครับคุณละอองดาว” ชนกานต์เปิดฉากการพูดคุยก่อน

“เช่นกันค่ะ วันนี้เป็นวันดีเหมาะสำหรับการพูดคุยกันเรื่องการเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่นะคะ”

“ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นดิฉันขออนุญาตทำหน้าที่ทั้งแม่สื่อและผู้ปกครองของสารวัตรหัสยุทธไปพร้อมกันเลยก็แล้วกัน”

บุษบงกชหันไปลอบยิ้มกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

“ดิฉันเป็นผู้ปกครองของ…”

“แม่ครับ”

หัสยุทธพูดสวนขึ้นมาและมันทำให้ทุกคนในโต๊ะจดจ้องไปที่เขาก่อนจะสลับไปมองละอองดาว หญิงชราหันไปยิ้มให้หลานชาย แล้วทุกคนก็พลอยยิ้มไปด้วย

“มามา”

เสียงเล็กๆ ดังขึ้นมาอย่างที่ทุกคนไม่คาดคิด หม่อนไหมกำลังยิ้มแล้วเรียกคำว่าแม่เหมือนที่หัสยุทธเพิ่งเรียก นั่นทำให้ทุกคนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน ดีเสียอีกที่บรรยากาศจะได้ไม่ซาบซึ้งเกินไปจนมีน้ำตา

“ใช่จ้ะลูก…มามา” ละอองดาวหันไปตอบเจ้าตัวเล็กแล้วกลับมาตั้งสติกับหน้าที่ของตนต่อ “ดิฉันเป็นเหมือนแม่ของสารวัตร ดิฉันได้เลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และให้การศึกษาเขาตามกำลังความสามารถ และตอนนี้เขาก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีหน้าที่การงานที่ดี แม้จะอันตรายไปบ้างแต่ก็เป็นสิ่งที่เขารัก ดิฉันก็เลยขัดไม่ได้”

ทุกคนในโต๊ะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ พิมพ์กมลยังคงทำท่าเหมือนกลั้นน้ำตาตลอดเวลา

“วันหนึ่งเขามาบอกป้าว่าเขามีคนที่เขารัก” ละอองดาวจับมือของหัสยุทธกับบุษบงกชคนละข้างมาวางไว้ที่ตักของตน “ป้าก็ดีใจมาก พอได้เจอกับหนูบุษก็รู้สึกรัก เอ็นดูขึ้นมาทันที และคิดว่าเขาคงเจอคู่ของเขาแล้วจริงๆ”

แพรอรเป็นอีกคนที่พยายามกลั้นน้ำตา เธอกัดริมฝีปากของตัวเองไว้แล้วเสไปมองหม่อนไหม เพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองไม่ให้อ่อนไหวเกินไปนัก

“ถ้าคุณพ่อคุณแม่ของหนูบุษไม่ว่าอะไร ดิฉันก็อยากสู่ขอคุณหมอบุษบงกชให้หลานชายที่รักเหมือนลูกของตัวเอง เพราะเห็นว่าทั้งสองเขารักกัน ทั้งอายุ หน้าที่การงาน ความคิด และทัศนคติก็เหมาะสม เข้ากันได้ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ขัดข้องก็ขอให้บอกมาเพื่อที่เราจะได้หาทางแก้ไข ดิฉันอยากให้ทุกคนมีความสุขเมื่อเขาทั้งสองจะเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่ด้วยกัน”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

community.jamsai.com