ทดลองอ่าน เบื่อนักโจ๊กล่าปา ข้าไม่ย้อนเวลาอีกได้ไหม บทที่ 3-บทที่ 4 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เบื่อนักโจ๊กล่าปา ข้าไม่ย้อนเวลาอีกได้ไหม บทที่ 3-บทที่ 4

วันที่แปดเดือนสิบสองนี้ แม้แต่ของหวานในหอไป่เป่าก็ยังเป็นขนมที่ทำจากธัญญาหารจำพวกถั่วหลากชนิด อวิ๋นจ้าวชิมไปสองชิ้น รสชาติสมกับเป็นร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานับร้อยปี อาหารและขนมที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ไม่เคยทำให้ผู้คนต้องผิดหวัง

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าชอบกินขนมพวกนี้ กินให้มากหน่อยล่ะ” ซ่งโหย่วเฉิงยกตะเกียบคีบขนมอบให้นางอีกชิ้น แล้วกล่าวว่า “ข้าก็ไปลิ้มลองอาหารร้านโน้นร้านนี้อยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่ามีอาหารแปลกใหม่บ้างหรือไม่”

“มิน่าเล่าท่านถึงไปหาข้ากับลู่อู๋เซิงอยู่บ่อยๆ” อวิ๋นจ้าวกัดขนมอบเต็มคำ รสชาติหวานละมุนกระจายทั่วปาก รอเขารินน้ำชาให้แล้ว นางก็รู้สึกสะดุดใจกับอะไรบางอย่าง

ประโยคนี้ของซ่งโหย่วเฉิงฟังแล้วผิดปกติยิ่งนัก

นางช้อนตาขึ้นมองเขา เห็นว่าบุรุษตรงหน้ามีแววตากระตือรือร้น แฝงด้วยความเร่าร้อนอย่างบอกไม่ถูก มองเสียจนโคมไฟในสมองนางส่งเสียง ‘ฟู่’ ฉับพลันก็สว่างวาบ ขนมอบที่ค้างอยู่ในลำคอกลืนยากขึ้นมาทันที เหตุใดนางถึงได้โง่งมเช่นนี้ ซ่งโหย่วเฉิงผู้นี้ชอบนางอยู่แน่นอน!

เขาเป็นสหายร่วมสำนักของลู่อู๋เซิง นับว่ารู้จักกับนางมานานกว่าแปดปีแล้ว เวลาออกไปท่องเที่ยวกัน ฤดูร้อนเขาก็จะมีร่มมาเผื่อ ฤดูหนาวเขามีเตาอุ่นเล็กๆ มาให้ ที่ใดมีอาหารเลิศรสก็จะรีบมาบอกนางอยู่เสมอ ออกเดินทางไปเรียนหนังสือต่างเมืองก็มักจะนำของเล่นท้องถิ่นที่น่าสนใจมาฝาก

นางนับถือเขาเสมือนเป็นพี่ชายมาโดยตลอด และคิดว่าในสายตาเขา นางก็คือน้องสาวหรือไม่ก็เป็นสหายสนิทผู้หนึ่ง แต่มาวันนี้นางไม่ใช่สาวน้อยอีกแล้ว แววตาประเภทนี้เพียงแวบเดียวนางก็มองได้ทะลุปรุโปร่ง

พอคิดว่ารับน้ำใจจากเขาโดยไม่รู้ตัวมานานหลายปี ความรู้สึกในใจอวิ๋นจ้าวจึงผสมปนเปกันไปหมด ขนมอบค้างอยู่ที่ลำคอ ทำอย่างไรก็กลืนไม่ลงแล้วจริงๆ

ซ่งโหย่วเฉิงเห็นสีหน้านางไม่ค่อยดี จึงกระซิบถามว่า “เป็นอะไรไป แม่นางอวิ๋น”

“ไม่มีอะไร” อวิ๋นจ้าวรู้แก่ใจดีว่าไม่อาจมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเขา นางอยากแต่งงานกับลู่อู๋เซิง เช่นนั้นก็ไม่ควรสนิทกับสหายของเขาจนเกินพอดี มิฉะนั้นจะไม่เหลวไหลไปกันใหญ่หรือ นางจิบน้ำชาคำหนึ่งพอให้คล่องคอก่อนจะกล่าวว่า “ข้ายังต้องไปไหว้พระที่วัดกับท่านย่าอีก ต้องขอตัวก่อนแล้ว”

ซ่งโหย่วเฉิงรีบเอ่ยว่า “แต่เจ้ายังไม่ได้ชิมอาหารเลิศรสเลย”

“ไม่กินแล้ว” อวิ๋นจ้าวกำลังจะจากไป หางตาก็เหลือบไปเห็นเขามีสีหน้าเศร้าหมอง คล้ายอยากจะเอ่ยแต่ก็ไม่ยอมเอ่ยออกมา จึงคิดว่าจากไปทั้งแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับจงใจหลบเลี่ยงเขา เหมือนตัดบัวแล้วยังเหลือใย ไม่สู้ดาบเดียวขาดสะบั้น อย่าให้เขามีความคิดฟุ้งซ่านต่อไปอีกจะดีกว่า

ซ่งโหย่วเฉิงเห็นนางยอมนั่งต่อก็รู้สึกดีใจ จิตใจที่ว้าวุ่นถูกนางฉุดรั้งขึ้นลงได้อย่างง่ายดาย รูปโฉมไม่จัดว่าหล่อเหลาโดดเด่นยามนี้กลับมีดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับ อวิ๋นจ้าวมองหน้าเขาและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “คุณชายซ่ง ความจริงข้าไม่อยากไปวัดกับท่านย่าหรอก แต่ข้าอยากไปหาลู่อู๋เซิงมากกว่า”

ซ่งโหย่วเฉิงชะงักงัน “ข้านึกว่าแม่นางอวิ๋นจะแตกต่างจากสตรีบ้านอื่นเสียอีก เจ้าเคยบอกเอาไว้ว่าเจ้าไม่ชอบบุรุษที่มีสามภรรยาสี่อนุ ต้องการคนที่เป็นอย่างท่านพ่อของเจ้า แต่ไม่คิดเลย ทั้งที่พี่ลู่แอบมีความสัมพันธ์กับสตรีอื่นแล้ว เจ้าก็ยังไม่ถือสา ยังคิดจะกลับไปหาเขา?”

“เรื่องนี้จะต้องมีความเข้าใจผิดเป็นแน่” อวิ๋นจ้าวตอบ “ข้าถึงอยากไปถามเขาตรงๆ ให้รู้เรื่อง”

ซ่งโหย่วเฉิงแสดงสีหน้ารังเกียจทันที “แต่เขาตอบจดหมายเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ บอกว่าไม่ชอบให้เจ้าเข้ามาพัวพันวุ่นวาย ต้องการจะตัดสัมพันธ์ หากวันนี้เจ้ายังไปหาเขาอีก คิดจะย่ำยีศักดิ์ศรีของตัวเองไปถึงไหนกัน”

อวิ๋นจ้าวรู้สึกตกใจอยู่บ้าง นางพอรู้ว่าซ่งโหย่วเฉิงมีนิสัยอย่างไร เขาเป็นคนขี้อาย ไม่เคยพูดจาหยาบคาย ทว่าวันนี้เขาแตกต่างจากซ่งโหย่วเฉิงที่นางรู้จักโดยสิ้นเชิง นางเข้าใจอีกเรื่องแล้ว นี่คงเป็นความอิจฉาและหึงหวงกระมัง

“มีบางเรื่องที่ข้าไม่สะดวกจะพูดกับท่าน แต่ว่าข้าเชื่อใจเขา ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่” อวิ๋นจ้าวเห็นว่าเวลาไม่คอยท่า นางต้องไปไหว้พระที่วัดวั่นซานกับท่านย่าแล้ว จึงลุกขึ้นขอตัวกลับ ก่อนจะเดินจากมาก็เห็นสีหน้าซ่งโหย่วเฉิงทั้งบึ้งตึงและจนใจ นางเองก็รู้สึกผิด ต้องโทษที่ไม่เคยสังเกตว่าเขาชอบนางมาก่อน จึงไม่ได้ตัดความคิดฟุ้งซ่านของเขาตั้งแต่เนิ่นๆ

ใครใช้ให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในสายตาของนางมีแต่ลู่อู๋เซิงคนเดียว จนมองไม่เห็นความดีของคนอื่นกันเล่า

เมื่อเดินออกมาจากหอไป่เป่า เห็นว่าใกล้ได้เวลาไปวัดกับท่านย่าแล้ว นางคงไปหาเขาไม่ทัน ยิ่งนางไม่รู้ว่าเขาออกจากบ้านไปที่ใดด้วย อย่างไรก็กลับบ้านไปก่อน ไปวัดวั่นซานกับท่านย่าดีกว่า รอให้ไหว้พระเสร็จแล้ว ค่อยมาหาเขาอีกครั้ง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com