คนรอบข้างไม่รู้ถึงความคิดต่างๆ ของเชียนโม่ แต่กลับออกจะแปลกใจเกี่ยวกับฐานะของนาง นางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในขบวน แต่กลับไม่ใช่สนมนางในของฉู่หวัง บอกว่านางเป็นแรงงานหญิงคนหนึ่ง แต่สิ่งที่นางได้รับกลับดีเสียยิ่งกว่าผู้ติดตามข้างกายฉู่หวัง ทั้งยังได้นั่งบนรถ
เด็กหนุ่มที่ขับรถชื่อจย่า บางครั้งเชียนโม่นั่งเบื่อแล้วก็เป็นฝ่ายขอแลกหน้าที่กับเขา ผลัดเปลี่ยนกันขับรถ จย่ารู้สึกดีต่อนาง ไม่นานทั้งสองก็สนิทสนมคุ้นเคยกัน จากการพูดคุย เชียนโม่ได้รู้ว่าพ่อแม่ของจย่าเดิมเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่เพราะติดหนี้ผู้อื่นจึงจำต้องขายจย่าให้เป็นทาสในบ้านวงศ์สกุลสูงศักดิ์แห่งหนึ่ง ฉู่หวังจะกรีธาทัพออกศึก วงศ์สกุลสูงศักดิ์น้อยใหญ่ในแว่นแคว้นล้วนต้องส่งคนมาช่วยทำศึก จย่าจึงถูกส่งตัวเข้ามา ทำหน้าที่ขับรถในขบวน
เชียนโม่มองใบหน้าของเขายังมีเค้าความไร้เดียงสาอยู่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ ผู้คนในยุคสมัยนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เติบโตเป็นผู้ใหญ่รู้ประสากันเร็วมาก หากอยู่ในยุคสมัยของเธอ จย่าอาจยังเป็นเด็กที่วันๆ ในสมองคิดเพียงอยากกลับบ้านให้เร็วหน่อยจะได้ไปเล่นเกม
“เจ้ากลัวหรือไม่” เธอถาม
จย่าชำเลืองมองผู้อื่นแล้วพยักหน้าอย่างขัดเขิน
“เจ้ากลัวหรือไม่” เขาย้อนถาม
เชียนโม่เม้มๆ ปาก ไม่ได้ตอบ บอกไม่กลัวก็โกหก แต่เชียนโม่รู้อะไรมากกว่าคนอื่นอยู่บ้าง ฉู่หวังยังหนุ่มแน่น ดูจากสภาพการณ์ในตอนนี้ แคว้นฉู่ก็ยังไม่เจริญรุ่งเรืองสักเท่าไร ยังมีระยะห่างก่อนที่เขาจะได้รับการยกย่องขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นผู้ยิ่งใหญ่อยู่อีกช่วงหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เชียนโม่จึงมั่นใจว่าฉู่หวังจะยังไม่ตายเร็ว อย่างน้อยครั้งนี้ก็ยังไม่ตาย นั่นก็หมายความว่าไม่ว่าการทำศึกในครั้งนี้จะได้รับชัยชนะหรือไม่ ขอเพียงเธอติดตามเขา โอกาสที่จะรักษาชีวิตน้อยๆ เอาไว้ได้ย่อมมีมาก
แต่เชียนโม่คิดไปคิดมาก็รู้สึกไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนั้น
เธอมาเพื่อจะรักษาโรคระบาด คงไม่ต้องออกไปแนวหน้า อยู่แนวหลังกับอยู่ข้างกายฉู่หวัง เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เชียนโม่รู้สึกว่าอยู่แนวหลังปลอดภัยกว่า
“เจ้าไม่กลัวหรือ” จย่าถามต่อ ไม่ตอบไม่เลิกรา
เชียนโม่ตื่นจากภวังค์ มองเขาแล้วถาม “เจ้าวิ่งเร็วหรือไม่”
จย่าพยักหน้า
“ว่ายน้ำเป็นหรือไม่”
“เป็น”
เชียนโม่กะพริบๆ ตา มองไปรอบๆ แล้วกระซิบ “ถ้าเจอข้าศึก เจ้าไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น หนีให้สุดชีวิต”
หนทางที่จะไปทำศึกไม่ราบรื่นนัก
ถนนหนทางในยุคสมัยนี้สร้างอย่างง่ายๆ หยาบๆ พอฝนตกลงมาไม่กี่ทีก็เต็มไปด้วยโคลนเลน เดินทางลำบาก รถเทียมวัวต้องลดน้ำหนักบรรทุกลง เชียนโม่ไม่อาจนั่งอยู่บนรถ ต้องลงมาเดินเท้ากับจย่า โชคดีในความโชคร้ายก็คือก่อนออกเดินทางซังได้ช่วยจัดเตรียมสิ่งของต่างๆ มากมายให้เชียนโม่ มีที่หลับที่นอน ยังมีหมวกไม้ไผ่และเสื้อหญ้ากันฝน แต่ก่อนตอนอยู่ถงซานแม้จะลำบาก แต่ฝนก็ไม่ค่อยตก เวลานี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่ฝนตกแต่เชียนโม่ไม่ได้กางร่ม สวมใส่สิ่งของเหล่านี้เดินไปบนดินเลน
ตอนค่ำหยุดพักค้างแรม ไม่ง่ายเลยกว่าจย่าจะหาหญ้าแห้งมาได้กองหนึ่ง เอามาก่อไฟ