เป็นไปตามที่ฉู่หวังกล่าว หลังจากนั้นสองวันทัพฉู่ก็มาถึงเมืองหลัว
เชียนโม่ถามซื่อเหรินฉวีมาแล้ว ที่นี่เดิมก็เป็นแคว้น ชื่อแคว้นหลัว ถูกฉู่อู่หวังเข้ายึดครอง ต่อมาจึงตั้งเป็นเมือง กองทัพฉู่ที่ตั้งมั่นรักษาการณ์อยู่ที่เมืองหลัวมีจำนวนหมื่นกว่าคน ชาวยงรุกรานด้านตะวันออก เมืองหลัวเป็นด่านสำคัญที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ให้ได้ คิดไม่ถึงว่ากลับต้องมาเจอกับไข้จับสั่น ทำให้เจ้าเมืองร้อนใจมาก
เชียนโม่มีประสบการณ์ในการรักษาจากภูเขาถงลวี่มาแล้ว จึงไม่ลนลาน เธอตรวจดูคนป่วยอย่างละเอียด และซักถามข้อปลีกย่อยเกี่ยวกับอาการป่วยของพวกเขา แน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรต่างจากโรคระบาดที่ภูเขาถงลวี่ในครั้งนั้น ฉู่หวังให้ความสำคัญกับเรื่องรักษาโรคมาก ส่งคนกว่าหนึ่งร้อยมาช่วยเชียนโม่เก็บตัวยาสมุนไพร เคี่ยวยาและตามเธอไปดูแลคนป่วย
เพื่อจะรักษาโรคไข้จับสั่น ทหารและชาวบ้านในเมืองหลัวได้ทำพิธีร่ายรำขับไล่ภูตผีปีศาจ แต่ก็ไม่ได้ผลอะไรแม้แต่น้อย เดิมก็หวาดผวากระสับกระส่ายร้อนใจอยู่ตลอดเวลา ตอนแรกที่ได้ยินว่าหญิงสาวที่ฉู่หวังพามาด้วยรักษาโรคระบาดได้ก็ยังไม่ค่อยเชื่อ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานคนป่วยที่ได้กินยาก็เริ่มดีขึ้น ทุกคนต่างเห็นด้วยตาตนเองก็เปลี่ยนจากทุกข์ใจมาเป็นดีอกดีใจ
“คิดไม่ถึงว่าหมอท่านนี้จะเก่งกาจเช่นนี้” เจ้าเมืองดีใจมาก หันไปกราบคารวะฉู่หวัง “เป็นพระเมตตาของต้าหวังโดยแท้!”
ฉู่หวังยิ้ม “เพราะไท่อีและซือมิ่ง* ช่วยปกปักรักษา”
เขามองไปยังที่ห่างออกไปไม่ไกล เชียนโม่กำลังยกยาถ้วยหนึ่งเดินเข้าไปในเพิง แล้วนั่งลงที่ข้างเตียงผู้ป่วยคนหนึ่ง เงาร่างนั้นกำลังปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่เฉกเช่นที่นางเคยให้คำมั่นไว้
พูดตามตรง ตอนได้ยินว่าการรักษาประสบความสำเร็จ ฉู่หวังถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขายกทัพมาทำศึกทางตอนเหนือในครั้งนี้ เดิมก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากอยู่แล้ว แคว้นฉู่เพิ่งผ่านภัยแล้งมา กำลังโภคทรัพย์เหือดแห้ง หลายด้านประสบความลำบากยากแค้น ขวัญกำลังใจของทัพฉู่ก็ได้รับผลกระทบ ถ้าต้องมาถูกบั่นทอนด้วยโรคระบาดอีกก็เกรงว่าคงยากจะรับไหว
โชคดีที่เขาไม่ได้มองผิด แรงงานหญิงโม่ผู้นี้พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง
ข่าวการรักษาโรคระบาดในเขตเมืองหลัวแพร่กระจายออกไป กงซุนหรงแห่งแคว้นฉินได้ยินแล้วก็ประหลาดใจมาก
“สตรีที่สามารถรักษาโรคไข้จับสั่นได้” เขาตื่นตะลึง “เป็นใครกัน”
“ได้ยินว่าเป็นแรงงานหญิงคนหนึ่ง” ผู้ติดตามตอบ
กงซุนหรงพยักหน้า มีท่าทีสนใจมาก ดินแดนทางตอนใต้ กล่าวสำหรับคนทางตอนเหนือแล้วใช่จะย่างก้าวเข้าไปได้ง่ายๆ ที่นี่ภูมิประเทศดินฟ้าอากาศล้วนแตกต่างจากทางเหนืออย่างสิ้นเชิง อากาศร้อนชื้นเป็นพิษที่ซุกซ่อนอยู่ตามป่าเขาลำน้ำยิ่งทำให้คนได้ยินแล้วหน้าเปลี่ยนสี แม้แต่ชาวโจวที่แข็งแกร่งเกรียงไกรในตอนนั้นก็ยังเคยเผชิญกับโรคไข้จับสั่นในระหว่างยกทัพมาโจมตีแคว้นฉู่ ทำให้ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อย
ถ้าสามารถรักษาได้…
ผู้ติดตามมองสีหน้าของกงซุนหรง เอ่ยเสียงต่ำ “กงซุน ผู้น้อยได้ยินว่าหญิงผู้นั้นอยู่ในทัพฉู่ หรือว่า…”
* ไท่อีคือเทพผู้ก่อกำเนิดฟ้าดิน ซือมิ่งคือเทพผู้ควบคุมดูแลชะตาชีวิตของมนุษย์