เชียนโม่มาถึงห้องพักของฉู่หวัง เพียงเห็นเขานอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่มหนาคลุมตัว เสี่ยวเฉินฝูเอาผ้าชุบน้ำหมาดๆ วางอยู่บนหน้าผากของเขา เชียนโม่เดินเข้าไปตรวจดูอย่างละเอียด ดวงตาทั้งสองของเขาหลับสนิท ลมหายใจถี่กระชั้น คล้ายไม่สบายตัวอย่างมาก คลำดูที่หน้าผากก็ร้อนจัด
จู่ๆ ฉู่หวังก็ลืมตาขึ้น ประกายตาดุดันทำเอาเชียนโม่สะดุ้งตกใจ
“กว่าเหรินไม่ได้ป่วย…” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว น้ำเสียงกลับคล้ายกำลังเพ้อ
เชียนโม่อับจนปัญญา “ต้าหวังป่วยหรือไม่ ข้าจะเป็นคนบอกเอง” พูดจบเธอก็หันไปทางเสี่ยวเฉินฝู “ต้าหวังเริ่มมีอาการมานานแค่ไหนแล้ว”
“ก็ตั้งแต่หลังจากกินอาหารเย็น” เสี่ยวเฉินฝูตอบ “ตอนแรกต้าหวังบอกว่ารู้สึกเย็น สั่งให้ข้าไปเอาเสื้อมา แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มึนหัวลงไปนอนพัก ตอนข้าไปดูก็ตัวร้อนสูงไม่ลด”
เชียนโม่นิ่งเงียบ คลำมือของฉู่หวังที่ใต้ผ้าห่ม จับชีพจรของเขาแล้วแหวกเปลือกตาดู ดูฝ้าที่ลิ้น อย่างน้อยดูจากสภาพที่เห็น นี่เป็นอาการของไข้มาลาเรียไม่ผิดแน่
มีคนรายงานเรื่องนี้ให้ซือหม่าโต้วเจียวและขุนนางใกล้ชิดหลายคนทราบแล้ว พวกเขาเร่งรุดมา เห็นฉู่หวังอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่างก็มีสีหน้าร้อนใจ
“ซือหม่าพูดไว้ไม่ผิด” ผู้คนรอบข้างเริ่มพากันแสดงความคิดเห็น “นี่จะทำอย่างไรกันดี”
“พรุ่งนี้ก็จะโจมตีแคว้นยงแล้ว ต้าหวังกลับมาประชวร…”
“เรื่องนี้เป็นความบกพร่องของพวกเจ้า!” โต้วเจียวกล่าวตำหนิพวกเสี่ยวเฉินฝู “ตอนต้าหวังเสด็จไปตรวจเขตโรคระบาด ข้าก็บอกแล้วว่าโรคไข้จับสั่นยากแก่การระวัง ต้าหวังฐานะสูงศักดิ์ ให้ไปเสี่ยงอันตรายง่ายๆ ได้อย่างไร เวลานี้การศึกกำลังคับขัน หากเกิดอะไรขึ้นกับต้าหวัง กองทัพจะทำอย่างไร แคว้นฉู่จะทำอย่างไร พวกเจ้าจะต้องได้รับโทษอย่างหนัก!”
เสียงของเขาดังก้องกังวานน่าหวาดหวั่น เสี่ยวเฉินฝูและคนอื่นๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเขา” ในเวลานี้เองมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “โรคนี้จะฟักตัวอยู่ระยะหนึ่งแล้วจึงปะทุออกมา ต้าหวังประชวรในวันนี้ น่าจะติดโรคมาตั้งแต่ถงซานแล้ว”
โต้วเจียวงงงัน แล้วก็เห็นผู้พูดเป็นสตรีผู้หนึ่ง นางนั่งอยู่ข้างเตียงฉู่หวัง เอามือของเขาวางกลับเข้าไปในผ้าห่มแล้วลุกขึ้นยืน
เชียนโม่มองมาที่โต้วเจียวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เวลานี้ต้าหวังกำลังประชวร ทุกท่านโปรดลดเสียงลงหน่อย”
โต้วเจียวคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าโต้แย้งเขา อดโมโหไม่ได้ เอ่ยเสียงเย็น “ทาสต่ำต้อยมาจากไหนกัน”
ท่าทางของเขาเปี่ยมพลังอำนาจดุดัน เชียนโม่หวั่นหวาดขึ้นมาหลายส่วน แต่ก็ไม่ยอมอ่อนข้อ ในใจของเธอก็มีเพลิงโทสะ เดิมคิดว่าพรุ่งนี้ตนก็จะบอกเรื่องที่จะจากไปกับฉู่หวังได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาก็จะล้มป่วย พอจะทำการรักษา คนกลุ่มนี้ก็มาก่อกวน
“กว่าเหรินไม่เป็นไร” ในเวลานี้เองเสียงของฉู่หวังก็ดังขึ้น
ทุกคนต่างมองด้วยความแปลกใจ แล้วก็เห็นฉู่หวังประคองตัวขึ้นมานั่งบนเตียง
เชียนโม่เองก็ประหลาดใจ ชายตาไปเห็นซื่อเหรินฉวีขยิบตาให้ เธอลังเลอยู่ชั่วขณะแล้วก็รีบเข้าไปประคองเขา
โต้วเจียวและคนอื่นๆ รีบทำความเคารพ