ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 4 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 4

6 of 6หน้าถัดไป

แม้จะเคยมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หวั่นชิวเพิ่งรู้ว่าด้านหลังของเรือนถานเซียงยังมีสถานที่ซ่อนอยู่ เลี้ยวตรงมุมประตูก็จะเป็นทางเดินยาวไปถึงสวนดอกไม้เล็ก ดอกฉูจวี๋* เดือนเก้ากำลังเบ่งบาน มู่หวั่นชิวยืนอยู่ตรงหน้าดอกเบญจมาศป่าที่ราวกับเป็นตะเกียงอันเล็กน่ารักท่ามกลางพื้นสีขาวสะอาดดุจหิมะด้วยความสุขใจ “นานแล้วที่ไม่ได้ออกมาเดินเล่น ดอกเบญจมาศสวยอย่างนี้แล้ว…”

เห็นนางมีความสุข หลีจวินก็ไม่ได้รีบร้อน เพียงยืนเอามือไพล่หลังมองนางยิ้มบางๆ อยู่ด้านข้าง

ด้วยกำลังมีความสุข มู่หวั่นชิวจึงไม่ทันเห็นว่าบนหอเล็กที่แกะสลักงดงามแห่งหนึ่งตรงมุมตะวันตกเฉียงใต้ของสวนดอกไม้นั้น มีสายตาสองคู่จ้องมองนางไม่วางตา

นั่นคือเจิงฝานซิวกับมู่หรงบุตรชายอัครเสนาบดีที่ถูกหลีจวินช่วยกลับมาจากตำบลจื่อถง น้องชายแท้ๆ ของนาง

“เจ้าดูให้ดี นางคือพี่สาวที่พลัดพรากกันไปของเจ้าหรือไม่” จับจ้องอยู่นาน เจิงฝานซิวจึงเอ่ยปากถาม

เขย่งเท้าดูอยู่นาน มู่หรงจึงส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก พี่สาวข้าไม่อ่อนโยนเรียบร้อย ไม่ดูงามสง่าดูสูงศักดิ์เช่นนี้หรอก…” เขาเงยหน้ามองเจิงฝานซิว “ท่านคงไม่รู้ว่าพี่สาวข้าดุมากเลย!” แล้วใช้มือทำท่า “วันๆ เอาแต่ถือแส้ตีคน ข้ากลัวนางจะตาย!”

ตอนอยู่ในจวนอัครเสนาบดีนั้น มู่หรงยังเป็นเด็ก เขาจำอะไรไม่ค่อยได้อยู่แล้ว และก็กลัวมู่หวั่นชิวมาก ยามที่เห็นนางก็จะรีบหลบ กอปรกับผ่านชีวิตมาสองชาติ ท่าทางของมู่หวั่นชิวย่อมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว จะมีเงาของหญิงสาวที่เย่อหยิ่งเอาแต่ใจในจวนอัครเสนาบดีผู้นั้นอยู่ได้อย่างไร มีเพียงรูปโฉมที่พอจะแยกแยะได้ แต่เมื่อใบหน้าถูกนางทาจนดำเช่นนี้ มู่หรงจะจำนางได้อย่างไรเล่า

มองอยู่นานจึงส่ายหน้าราวกับกลองป๋องแป๋ง

เจิงฝานซิวยังไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ ถามเสียงเข้มว่า “พี่สาวเจ้าดีดพิณ เดินหมากล้อมเป็นหรือไม่”

“ไม่เป็น นางนอกจากรำดาบ ควงกระบอง และถือแส้ตีคนแล้ว เรื่องอื่นล้วนทำไม่เป็น!” มู่หรงส่ายหน้าอย่างแรงอีกครั้ง “ตอนท่านพ่อมีชีวิตพูดบ่อยครั้งว่าถ้านางเรียนดีดพิณ เดินหมาก เขียนอักษร หรือวาดภาพได้ แม่หมูคงปีนขึ้นต้นไม้ได้แล้ว!”

เจิงฝานซิวพ่นลมหายใจพรวด แล้วกระแอมเบาๆ ขึ้นมา

* จวิ้นอ๋อง เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์ชายลำดับที่สอง รองจากชินอ๋อง

** คัดกระดูกในไข่ไก่ เป็นสำนวน หมายถึงคอยหาเรื่องจับผิด ข้อผิดพลาด หรือข้อเสีย

* ‘กระต่ายตายจับสุนัขต้ม’ เป็นสำนวน หมายถึงเมื่อหมดประโยชน์แล้วก็กำจัดทิ้ง เหมือนเมื่อล่ากระต่ายได้แล้วก็เอาสุนัขล่าเนื้อมาฆ่ากิน มักใช้คู่กับสำนวน ‘วิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน’ ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน

* ฉูจวี๋ หมายถึงดอกเดซี่

 

(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 23 กุมภาพันธ์ค่ะ)

6 of 6หน้าถัดไป

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com