Jamsai
ทดลองอ่าน เกมล่าเดิมพันรัก บทที่ 4
นั่นคือองค์กรนักฆ่าที่ได้รับการขนานนามว่าแบล็กแชโดว์ เป็นทีมลอบสังหารมืออาชีพ
แบล็กแชโดว์รับงานทุกอย่าง ขอเพียงมีเงินจ่าย ไม่สนว่าจะผิดหรือถูก ไม่สนว่ามีคุณธรรมหรือไม่
แบล็กแชโดว์คัดเลือกเด็กที่มีความสามารถจากที่ต่างๆ ทั่วโลก ลักพาตัวเด็กพวกนั้นมา ใช้ยาและสะกดจิตล้างสมองพวกเด็กๆ ใช้วิธีโหดแต่ได้ผลเร็วในการฝึกและคัดเลือก ทำให้เด็กพวกนั้นกลายเป็นเครื่องมือฆ่าคนที่เลือดเย็น
ฮั่วเซียงก็เป็นหนึ่งในนั้น จริงๆ แล้วเธอเป็นระดับหัวแถว
เดิมทีคนของเรดอายยังสงสัยว่าทำไมพวกตนถึงสามารถทำลายองค์กรนักฆ่าที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ง่ายดายเช่นนี้ หลังจากถูเจิ้นพบข้อมูลซึ่งดาวน์โหลดมาจากคอมพิวเตอร์ในเรือขนส่งที่จมลงใต้ทะเลลำนั้นจึงได้รู้ว่าเป็นเพราะเธอ
เธอเป็นนักฆ่า เป็นนักฆ่ามือดีที่สุดขององค์กรแบล็กแชโดว์
แต่เพื่อปกปิดสาเหตุที่แท้จริงที่อยู่ๆ เธอก็ทรยศองค์กร เธอจึงฆ่าผู้นำองค์กร ทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็นสองฝ่าย แย่งชิงอำนาจกันภายใน จึงเป็นโอกาสให้คนของเรดอายสามารถกำจัดองค์กรนักฆ่าให้หมดสิ้น
เมื่อพวกเขากลับมาที่เรดอาย อาหนานที่เป็นหมอก็ช่วยเธอตรวจบาดแผล จึงพบว่าเธอมีกระดูกหักหลายแห่ง ทั้งด้านหลังและหน้าอกก็มีรอยช้ำขนาดใหญ่ ซ้ำยังมีเลือดออกภายใน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากเธอแม้แต่น้อย
เธอมีเพียงแค่ความสงบนิ่ง นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างที่ควรจะนั่ง เหมือนกับหุ่นไม้ไม่มีผิด
คนขององค์กรนักฆ่าแบล็กแชโดว์ส่วนใหญ่ถูกล้างสมอง คนพวกนั้นไม่คิดว่าการฆ่าคนเป็นสิ่งผิด พวกเขาไม่มีมโนธรรมไม่มีความรู้สึก การยึดมั่นจงรักภักดีต่อผู้นำองค์กรเป็นเงื่อนไขเดียวของการมีชีวิตอยู่
พวกเขาไม่สามารถทรยศต่อชายที่เลี้ยงดูสั่งสอนและฝึกฝนพวกเขาขึ้นมา ชายที่พัฒนาระบบนักฆ่านี้ขึ้นมา
‘ทำไมล่ะ’
มองดูร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลแต่ยังนิ่งสงบได้ของผู้หญิงคนนั้น เขาจำได้ว่าตัวเองอดที่จะเดินเข้าไปถามไม่ได้
เธอกะพริบตาสองสามที เมื่อได้สติขึ้นมาก็เอ่ยออกมาเพียงประโยคเดียว
‘ฉันแค่จำได้ว่าตัวเองชื่ออะไร’
ดวงตาดำขลับคู่นั้นยังคงไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เธอพูดช้าๆ ด้วยเสียงแหบๆ
‘ฮั่วเซียง คือสมุนไพรอย่างหนึ่ง ขับความชื้น ระบายความร้อน หยุดอาเจียน แม่เลยตั้งชื่อฉันว่า…ฮั่วเซียง’
เธออยู่ในชุดผู้ป่วยที่อาหนานเอามาให้ นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย มองเขาพร้อมอธิบาย
‘ฮั่วเซียง ไม่ใช่ชื่อของนักฆ่า’
เขามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างตกใจ ไร้คำพูดชั่วขณะหนึ่ง
เขาเคยอ่านข้อมูลของเธอ ตอนที่ถูกจับตัวมาเธอเพิ่งจะเจ็ดขวบ เขานึกไม่ออกเลยว่าเวลาล่วงเลยมาหลายปี ผู้หญิงคนนี้ยังจำคำพูดของแม่ที่พูดกับเธอไว้ตอนนั้นได้
‘ฉันไม่ใช่นักฆ่า ฉันคือฮั่วเซียง’
น้ำเสียงของเธอช้าและสงบ สองแขนที่เต็มไปด้วยบาดแผลไขว้กันอยู่ข้างหน้า ใบหน้ายังคงไร้ความรู้สึก ดวงตาดำขลับคู่นั้นไม่กะพริบ แต่คำพูดที่เรียบนิ่งของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอไม่อาจลืมมันไปได้
ต่อมาเขาออกจากเรดอายแล้วมาเปิดกิจการที่ลอนดอน
เดือนต่อมา ในคืนที่ฝนตกพรำๆ อยู่ๆ เธอก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู
เธอไม่ได้เคาะประตู ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนอย่างนั้น อยู่ตรงทำนบของแม่น้ำข้างๆ เรือ เหมือนกับเป็นวิญญาณที่ลอยอยู่
เขาเห็นเธอจากหน้าต่างเรือ แสงไฟจากบ้านเรือส่องสว่างไปที่ใบหน้าเธอ เขามองเห็นลมหายใจที่เป็นไอสีขาวเธอ
คืนนั้นอากาศหนาวมาก
เธอยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืน ทั้งใบหน้าและดวงตาคู่นั้นยังคงไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและความรู้สึกไร้ที่พึ่งของเธอ
เขามองเธอผ่านหน้าต่าง ยังลังเลและไม่แน่ใจ รอให้เธอยอมแพ้และจากไป
แต่เธอไม่…
ฝนยังตกอยู่ เขาเปิดประตูออก
เธอต้องการงานทำ เขาก็ให้งานเธอทำ
เขาไม่เคยถามเธอว่าทำไมเธอถึงออกจากเรดอาย
เขารู้ว่าเพราะอะไร ในตอนนั้นเธอไม่อาจใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ แล้วก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่อาจรู้สึกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับเรดอายหรือพวกคุณอาเกิ่งได้
เธอรู้สึกแปลกแยกกับความอบอุ่นและครึกครื้นของครอบครัวใหญ่ ไม่ใช่ว่าเพราะคนพวกนั้นไม่ยอมรับเธอ แต่เธอสูญเสียความรู้สึกของคนทั่วไป
เป็นนักฆ่าของแบล็กแชโดว์จะต้องเลือดเย็นไร้และความรู้สึก
นักฆ่าของแบล็กแชโดว์เป็นเพียงหมาก เป็นเพียงเครื่องมือที่ไม่จำเป็นต้องมีความคิดของตัวเอง แค่รับฟังคำสั่งเท่านั้น
องค์กรนักฆ่าล้างสมองเธอ แม้ว่าเธอจะหลุดจากการควบคุมแล้ว แต่เธอก็ไม่อาจจะเรียกความรู้สึกและอารมณ์กลับคืนมาได้
บางครั้งการเอาใจใส่ที่มากเกินไปกลับกลายเป็นที่มาของแรงกดดัน สิ่งแวดล้อมดีๆ กลับทำให้คนเจ็บปวดมากขึ้น
แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เธออยากจะทำ แต่ความจริงก็คือมือทั้งสองข้างของเธอเปื้อนเลือด ยิ่งเธอมีความรู้สึกชัดเจนขึ้น ยิ่งเข้าใจว่าตัวเองเคยทำอะไรมาบ้าง เธอยิ่งไม่อาจอยู่ในที่สว่างและมีความสุขได้
แสงยิ่งสว่าง เงาก็ยิ่งชัด สว่างมากก็ยิ่งรู้สึกแปดเปื้อนมาก
‘ฉันไม่ใช่นักฆ่า ฉันคือฮั่วเซียง’
เธอพูดแบบนี้
ไม่แสดงความรู้สึก ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ได้รู้สึกจริงๆ
เธอรู้ตัวดีว่าตัวเองทำอะไร เคยทำอะไร เธอไม่ได้แสดงออกมาไม่ได้แปลว่าเธอไม่รู้สึกเจ็บปวด
เธอไม่มีที่ไปถึงได้มาหาเขา
เขาให้งานเธอทำ ให้เธอเป็นผู้ช่วย ช่วยเขาทำงานต่างๆ
เธอตั้งอกตั้งใจเรียนรู้ เธอทำมันได้ดีด้วย จากที่แม้แต่เครื่องซักผ้าก็ยังใช้ไม่เป็น เขายังจำได้ว่าเธอหอบเสื้อผ้ามายืนอยู่หน้าเครื่องซักผ้าแล้วจ้องมองอยู่นานมาก
เมื่อเขาสอนเธอใช้เครื่องซักผ้าแล้วเธอก็เหมือนกับแมวที่นั่งจ้องมองเสื้อผ้าในเครื่องที่หมุนไปมาอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับไปไหน
เธอค่อยๆ เรียนรู้จากเรื่องทั่วไป เรียนรู้ที่จะพูดคุยกับคนอื่น แม้ว่าส่วนใหญ่เธอจะมีสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ก็มีบางครั้งที่เธอก็ยังแสดงอารมณ์ออกมาบ้าง
รอยยิ้มเล็กๆ…ขมวดคิ้วน้อยๆ…ถอนหายใจอย่างโล่งอกเบาๆ…
เมื่อเวลาผ่านไปในที่สุดเธอก็สามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้ และมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาเห็น ทุกครั้งที่เขาเจอ
เธอพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ พยายามมากกว่าใครทั้งหมด แต่ไอ้สารเลวหานอู่ฉีกลับมาหาเธอถึงที่!
…
เขาลืมตาขึ้น มองท้องฟ้าสีครามไร้ขอบเขตนอกหน้าต่าง
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเธออยากจะจากไปเอง
เธอรู้แล้วว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร เธอเข้าใจการแสดงอารมณ์ สำหรับเธอ เรดอายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเขา เธอไม่ใช่นักฆ่าแล้ว ด้วยฝีมือของเธอทำให้เธอสามารถรับหน้าที่ตรวจสอบคดีของเรดอายได้สบายๆ
เขาทึกทักเองว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีกว่าหากอยู่กับเรดอาย เขาคิดเอาเองว่านี่คือสิ่งที่เธอเลือกแล้ว
แต่ไม่ใช่…
เธอไม่ได้อยากจะกลับไปเรดอาย เธอถูกตามกลับไป
เมื่อเขาคิดทบทวนถึงได้รู้ว่าเพราะอะไรหานอู่ฉีถึงต้องการเธอ
ผ่านมาตั้งหลายปีไอ้สารเลวนั่นเพิ่งจะมาตามหาเธอ คนแซ่หานต้องการให้เธอทำอะไรบางอย่างซึ่งมีแต่เธอเท่านั้นที่ทำได้
มันต้องการให้เธอกลับมาเป็นนักฆ่าอีกครั้ง