Jamsai
ทดลองอ่าน ล่ารักเกมอันตราย ตอนที่ 5
บทที่ 5
ประตูบ้านของเธอมีสลักประตูเพิ่มมาชิ้นหนึ่ง
เสี่ยวหม่านมองสลักประตูชิ้นนั้นก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจ
หลายวันก่อนตอนที่เธอเห็นสลักประตูก็งงงัน
เธอไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเขาออกจากบ้านหรือไปหาของชิ้นนี้มาตอนไหน บ้านเธอไม่มีอุปกรณ์ชนิดนี้ แสดงว่าเขาต้องออกไปซื้อมา
หรือว่าจะสั่งซื้อออนไลน์
แต่จะว่าไปวันหนึ่งเธอก็ไม่อยู่บ้านตั้งสิบชั่วโมง
ช่วงไม่กี่วันแรกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่นอนอยู่บนเตียง ต่อมาพออาการเริ่มดีขึ้นก็มีช่วงตื่นนานขึ้น กินอาหารก็มากขึ้น ก่อนที่จะรู้จักกับเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ชายจะกินได้เยอะขนาดนี้ ทุกวันหลังเลิกงานสิ่งที่เธอทำเป็นอย่างแรกคือไปซื้อของกินเข้ามา
กระเพาะของเขานี่อย่างกับหลุมดำ
ที่แย่ที่สุดก็คือ…เขากินเข้าไปมากขนาดนั้น หุ่นยังดีอยู่เลย!
ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็นผู้ชายหุ่นดีมาก่อน ตั้งแต่เธอเรียนมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัยที่อเมริกา เธอเจอคนที่เล่นกล้ามเป็นงานอดิเรกอยู่ไม่น้อย แต่มีไม่กี่คนที่จะมีซิกแพคกับวีไลน์ขึ้นแบบเขา
แม้ว่าตอนหลังเขาจะรู้จักใส่กางเกงเวลานอนแล้ว แต่เขายังคงไม่ชอบสวมเสื้อท่อนบนอาจเป็นเพราะผ้าพันแผล การใส่เสื้อผ้าคงจะทำให้เขาอึดอัดจริงๆ เวลาส่วนใหญ่เขาจึงมักจะเปลือยท่อนบน ทำเอาเธอเผลอทีไรเป็นต้องมองทุกที
เมื่อวานเธอเกือบจะเดินชนผนังเพราะเหตุนี้ น่าขายหน้ามาก ยังดีที่เขาไม่ทันสังเกต
ที่จริงแล้วเธอไม่รู้เลยว่าจะจัดการกับผู้ชายคนนี้อย่างไรดี
ทุกวันเมื่อเธอเลิกงานกลับถึงบ้านจะต้องมีอะไรให้เธอแปลกใจอยู่ตลอดเวลา
หลอดไฟดวงเล็กที่หลังบ้านเธอถูกเปลี่ยนใหม่ มีการติดตั้งสายดินของเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งประตูหน้าประตูหลังก็ติดตั้งสลักที่ต้องล็อกจากด้านใน
เกิ่งเนี่ยนถังเป็นคนมีอารมณ์ขัน แม้ภายนอกจะชอบสัพยอกหยอกล้อเธออยู่บ่อยๆ แต่มันก็เท่านั้น เมื่ออยู่ด้วยกันได้ระยะหนึ่งเธอก็มองออกว่าเขาได้รับการอบรมมาดีจริงๆ เธอไม่ได้คิดไปเอง
เขาล้างจานและซักเสื้อผ้าเป็น เขายืมเครื่องซักผ้าเธอซักผ้าใช้แล้วทั้งหมดในกระเป๋าเดินทาง
เขาเปลี่ยนผ้าพันแผลเองทุกวัน และจัดการกับผ้าพันแผลที่ใช้แล้วได้อย่างเรียบร้อย ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วย เพียงแต่ในตอนกลางวันที่เธอไปทำงานเขาก็เปลี่ยนเองเสร็จสรรพ
เขาวางของที่หยิบเอามาใช้ทุกอย่างกลับคืนที่เดิม แขวนผ้าเช็ดตัวให้เรียบร้อยแทนที่จะวางพาดไว้ แม้ว่าจะบาดเจ็บอยู่ แต่เขาก็ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ และยังเก็บเสื้อผ้าและถุงเท้าที่ซักกับปั่นแห้งแล้วไปทั้งหมด ไม่ได้ปล่อยให้คาอยู่ในเครื่องปั่น
เขายังช่วยทิ้งขยะและทำแม้กระทั่งล้างห้องน้ำ ใช้โถส้วมเสร็จก็จะวางฝารองนั่งกลับคืนที่เดิม
แล้วก็สลักประตูเหล่านั้น
ตอนเธอถามเขา เขาก็บอกว่าแบบนี้จะได้ปลอดภัยขึ้น
‘กุญแจประตูบ้านคุณเก่าไปแล้ว ผมกระตุกนิดเดียวก็เปิด’ เขาพูดอย่างมีเหตุผล ‘สลักประตูแม้จะไม่ซับซ้อน แต่ก็มีประโยชน์แล้วก็ราคาถูก คุณแค่ต้องไม่ลืมล็อกมันทุกครั้งหลังเข้าบ้านมา’
‘ใครจะไปเหมือนคุณ เที่ยวบุกรุกที่อยู่ชาวบ้านเขายามวิกาล’
‘กันไว้ดีกว่าแก้ คุณก็รู้’
เธออยากจะหัวเราะ แต่ก็รู้ว่าเขาพูดถูก เธอทราบดีว่าเขาทำเพื่อเธอ
สวรรค์ เธออยากจะรู้จริงๆ ว่าใครกันนะที่อบรมเลี้ยงดูเขามาได้ดีขนาดนี้
น่าจะเป็นผู้หญิงสักคน
ไม่รู้ว่าเป็นแม่หรือว่าแฟนเขา หรือจะเป็นภรรยาเขากันนะ
แม้เธอจะรู้สึกว่าเขาน่าจะยังไม่แต่งงาน แถมอยู่มาหลายวันอย่างนี้ยังไม่ใส่แหวนแต่งงานให้เห็น แต่ใครจะไปรู้ล่ะ
อย่างน้อยเธอกับเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กำกวมต่อกัน แต่เรื่องอย่างนี้เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เธอควรจะถามเขาให้ชัดเจน
เสี่ยวหม่านลงกลอนประตู หอบเอาของกินถุงใหญ่น้อยเข้ามา เขากำลังเปลือยร่างท่อนบนเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยสภาพที่ทั่วทั้งตัวเปรอะเปื้อนคราบเขม่า ระหว่างที่เขาเดิน ฝุ่นเขม่าก็ร่วงลงมา พอเห็นเธอก็ไม่ลืมที่จะยิ้มและโบกมือทักทาย
“ไฮ กลับมาแล้วหรือ”
เธอปากอ้าตาค้างมองดูชายที่ราวกับไปกลิ้งอยู่ในกองขี้เถ้ามา
“เย็นนี้มีอะไรกิน” เขาเดินมาทางเธอ หน้าครึ่งหนึ่งดำครึ่งหนึ่งเทา แม้แต่บนผมก็ยังเปื้อน กางเกงยีนกับผ้าพันแผลยิ่งแล้วใหญ่
“ชีส แฮม ขนมปัง สเต็กเนื้อวัวกับแอปเปิล” เธอไม่ได้ห้ามเขาช่วยถือของ แค่ถาม “เกิดอะไรขึ้น คุณไปทำอะไรที่ไหนมาถึงได้มีสภาพแบบนี้”
“ในปล่องไฟ” เขาชี้ไปที่เตาผิงของห้องรับแขก ตอบยิ้มๆ “คุณมีเตาผิงของแท้ ผมเลยสงสัยว่ามันยังใช้งานได้อยู่มั้ย”
เธอนิ่งไปอีกครั้ง อันที่จริงตั้งแต่ย้ายเข้ามาเธอก็ยังไม่ได้พิสูจน์
“สวรรค์ คุณรู้ตัวใช่มั้ยว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ”
“แน่นอนอยู่แล้ว” เขาถือของไปที่ห้องครัว กล่าวยิ้มๆ “แผลเริ่มจะสมานแล้ว คันมากเลย เตือนให้ผมรู้ตัวเป็นพักๆ”
ขณะพูดเขาก็เกาผ้าพันแผลสองที
เธอเดินตามหลังเขาไป ทั้งโกรธระคนขำ ได้แต่ถาม
“ตกลงว่าใช้ได้ใช่มั้ย”
“ข้างบนมีรังนก ผมเอามันออกไปแล้ว”
“สมัยนี้ไม่มีใครเขาใช้เตาผิงกันแล้ว” เธออดพูดไม่ได้ “คุณรู้นี่ว่าบ้านฉันมีฮีตเตอร์”
“คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าจะได้ใช้มันตอนไหน” เขากอดอกว่า “ลอนดอนมีหิมะตก แล้วถ้าวันนั้นเกิดไฟดับขึ้นมาล่ะ”
“ถึงจะไฟดับแต่ฉันก็ไม่มีฟืนให้เผาอยู่ดี”
“คุณมีนะ เครื่องใช้ในบ้านทำจากไม้ทั้งนั้นเลย” เขายิ้มให้เธอขณะวางของลงบนโต๊ะอาหาร
“เครื่องใช้พวกนี้ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย เป็นของเจ้าของบ้าน อีกอย่างเขตนี้เป็นเขตปลอดควัน จะก่อเพลิงไม่ได้” เธอพูดขำๆ “เอาเถอะ คุณรีบไปอาบน้ำทำความสะอาดดีกว่า ใครมาเห็นเข้าจะนึกว่าคุณกำลังเล่นบทโอลิเวอร์ ทวิสต์”
“โอลิเวอร์ ทวิสต์? ไม่ใช่วูฟเวอรีนหรอกหรือ โฮก…”
ว่าแล้วก็กำสองมือขึ้นทำท่าอย่างวูฟเวอรีน เบ่งกล้ามแยกเขี้ยวอ้าปากร้องคำราม ทำเธอกรีดร้องตกใจก่อนจะหัวเราะออกมา
“รีบไปอาบน้ำ” เธอยิ้มและสั่ง “แล้วมากินข้าว”
“Yes sir!”
เขาทำท่าวันทยหัตถ์ ฉวยแอปเปิลหนึ่งลูกเข้าห้องไปอาบน้ำ