นางขอยันต์คุ้มภัยให้เขาอันหนึ่ง มอบกุญแจเงินโบราณให้เขาพกติดตัว ตอนนั้นนางคิดเพียงว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ พูดกัน
ทุกคนต่างบอกว่าเขาไม่ดี บอกว่าเขาเป็นลูกชายของโจวเป้า เหมือนพ่อของเขา ล้วนไม่ใช่คนดี แต่นางรู้ว่าคำคนนั้นน่ากลัว
ผู้คนเห็นเท้าใหญ่ของนางก็มักพูดลับหลังว่านางไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดี นางรู้ดีกว่าใครว่าวาจาแพร่สะพัดออกไปได้อย่างไรบ้าง ข่าวลือมีการปรุงแต่งมากแค่ไหน
เขาเคยช่วยนางจากอันตราย เคยให้คำแนะนำกับนาง
ตอนนางถือธูปคุกเข่าหน้าพระโพธิสัตว์ ขอร้องให้พระโพธิสัตว์คุ้มครอง ภาพที่เขานั่งพิงหน้าต่างอยู่บนชั้นสองมองนางอย่างเย็นชาผุดขึ้นตรงหน้า
ใบหน้าของเขาไม่มีอารมณ์ใดๆ เหมือนเช่นที่เป็นมาก่อนหน้านี้ แต่นางรู้สึกได้ถึงความขุ่นเคืองที่แทบจับสังเกตไม่ได้นั้น
ชั่วเวลานั้นนางรู้ว่าเขารู้แล้วว่าป้าชุ่ยพูดอะไรกับนาง เขาถึงได้โกรธ ถึงได้ทำหน้าเย็นชา เขาเฝ้ารอให้นางเบนสายตาออกไป นางรู้ว่านางควรทำอย่างนั้น แต่นางไม่อยากทำ
หากไม่มีเขา ป้าชุ่ยไม่มีทางรอดชีวิตมาได้ การค้าของนางก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ ฤดูหนาวปีนั้นนางยิ่งไม่มีทางมีปัญญาซื้อก้อนถ่านนำไปแจกจ่ายผู้คน ยังไม่แน่ว่าครอบครัวชาวนาเหล่านั้นจะมีเด็กหนาวตายอยู่บนเตียงมากน้อยเท่าไร
ดังนั้นนางจึงขอยันต์คุ้มภัยเพิ่มขึ้นอีกอัน ปลดกุญแจเงินโบราณที่พกติดตัวออกมาและมอบให้เขา
ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นการผูกโยงนางกับเขาเข้าด้วยกัน
ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะพัฒนาจนกลายเป็นอย่างในวันนี้
เขาจ้องตานาง ลูบดวงหน้าเล็กของนาง นางเผยอริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมามากกว่าเดิม อ้าปากยื่นลิ้นออกมาไล้เลียริมฝีปากนาง แทรกลิ้นเข้ามาในปากนางอย่างล้ำลึก หลอกล่อหมายจะให้นางตอบสนอง
นางมอบสิ่งที่เขาต้องการ เหตุผลมีเพียงอย่างเดียวคือนางต้องการชายผู้นี้
เพราะว่านางต้องการ เขาถึงได้มาอยู่ตรงนี้
นางมอบให้ เขารับไว้…ก็แค่นั้นเอง
นางรู้ดีว่าสำหรับเขาแล้ว สตรีเพิ่มขึ้นหนึ่งคนไม่นับว่ามาก ลดลงหนึ่งคนไม่นับว่าน้อย
เขาเป็นเจ้าของหอรับวสันต์ หากมีคนรู้ว่านางมอบร่างกายให้เขา จะต้องคิดว่านางไร้ยางอายเป็นแน่ แย่ยิ่งกว่ายอดบุปผาและนางโลมชื่อดังบนเรือสำราญของเขา
อย่างน้อยผู้อื่นยังต้องจ่ายเงินถึงจะได้เห็นรอยยิ้มของคนงาม แต่นางกลับมอบตัวเองให้เขาเปล่าๆ
แต่หากต้องมอบกายให้ใครสักคนจริงๆ นางยินดีมอบให้เขา
ยินดีมอบให้เขา…
ดังนั้นนางจึงยื่นมือออกไปลูบไล้แผงอกชื้นเหงื่อของเขา แหงนหน้าจุมพิตใต้คางและกลีบปากบางของเขา จากนั้นก็แนบร่างกับเรือนกายเขา บดเบียดเคลียคลอ
ดวงตาเขาดำลึกยิ่งกว่าเดิม
เขากุมมือเล็กของนางเบาๆ นิ้วมือทั้งสิบสอดประสานกับนิ้วมือนาง จากนั้นก็กลับเข้ามาในร่างกายนางอีกครั้ง ค่อยๆ บดเบียดเสียดสีช้าๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า…ครั้งแล้วครั้งเล่า ท่ามกลางการใกล้ชิดเคลียคลออย่างช้าๆ เขาเห็นดวงตาชุ่มฉ่ำของนางขมุกขมัวมากยิ่งขึ้น เห็นผิวกายขาวปานหิมะของนางแดงเรื่ออีกครั้ง เห็นริมฝีปากเนียนที่เผยอออกนิดๆ พ่นลมหายใจหอมปานบุปผาออกมา เห็นเหงื่อบางๆ ผุดซึมทั่วร่างบาง พาให้ร่างกายนางเปล่งประกายแวววาวท่ามกลางแสงจันทร์อ่อนจาง
เขารู้สึกได้ถึงความต้องการและความปรารถนาของนาง รู้สึกได้ว่านางโอบกอดเขาไว้ตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน
จนกระทั่งนางอดทนไม่ไหวและแหงนหน้าอ้าปากเปล่งเสียงเบาๆ อีกครั้ง เขาก้มหน้าจุมพิตนาง กลืนกินเสียงครางและเสียงร้องแว่วหวานน่าประทับใจของนางไปจนสิ้น