นอกหน้าต่าง สายลมอ่อนโชยพัดมา ขอบฟ้าสีน้ำเงินอมม่วงไกลออกไปปรากฏสีขาวพุงปลา*
เขาเอนกายอยู่บนเตียงของนาง ลูบแผ่นหลังเปล่าเปลือยของหญิงสาวที่ซบอยู่บนตัวเขา อาลัยในสัมผัสนุ่มลื่นดุจแพรไหมของผิวกายนาง
เรือนผมสีดำของนางเหมือนเส้นไหม แผ่สยายอยู่บนเตียง บนหลังนาง และบนตัวเขา ผมของนางยาวมากทั้งยังเกี่ยวพันกับผมของเขา
แม้จะหลับตาอยู่ แต่เขารู้ว่านางไม่ได้นอน มือเล็กของนางวางอยู่บนแผงอกเขาแล้วลูบไล้แผ่วเบา
เขาชอบให้นางลูบเขาเช่นนี้ ชอบอยู่กับนาง ชอบเอนกายอยู่บนเตียงกับนางอย่างเกียจคร้านในยามที่ท้องฟ้ากำลังจะสว่างแต่ยังไม่สว่าง
ความอบอุ่น…แต่ก่อนเขาไม่รู้จักคำนี้ หลังพบนางแล้วเขาถึงรู้ความหมายที่แท้จริงของมัน
เริ่มแรกไม่คิดจะอยู่ต่อ แต่เขากลับอยู่ที่นี่นานขึ้นทุกครั้งโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ควรอยู่ที่นี่ ไม่ควรตั้งแต่แรกแล้ว หากเขามีจิตสำนึก เขาก็ควรอยู่ห่างนางให้ไกล แม้จะเจอกันบนถนนก็ไม่ควรเหลือบมองนาง
“ฟ้าจะสว่างแล้ว”
เสียงนุ่มนวลของหญิงสาวดังขึ้นท่ามกลางค่ำคืนอันเงียบสงัด
“อืม ใกล้สว่างแล้ว”
เขารับคำ มือใหญ่ยังคงลูบไล้แผ่นหลังนางไม่ละออกไป
หลายปีมานี้เขามักมาหานางกลางดึก คืนแล้วคืนเล่า ปีแล้วปีเล่า มาหานางอย่างมิอาจควบคุมตัวเอง
เขาไม่ควรมา แต่เขากลับมาหานางไม่หยุด เหมือนถูกเวทมนตร์ เหมือนถูกปีศาจเข้าสิง
ความคิดนี้ทำให้เขาหยุดมือทันใด บังคับให้ตัวเองดึงมือกลับมาจากแผ่นหลังนาง
เหมือนรู้สึกได้ว่าเขากำลังจะจากไป นางหยัดตัวขึ้น สองมือพลันรวบผมยาว ดึงผมของตัวเองที่พันเกี่ยวกับผมของเขาอยู่กลับไปก่อนจะก้าวลงจากเตียง
เขาลุกขึ้นนั่งเช่นกัน มองนางเดินไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาและเดินไปข้างหลังฉากบังลม
เขาได้ยินเสียงน้ำ รู้ว่านางกำลังทำความสะอาดตัวเอง ตอนนางเดินออกมาอีกครั้ง บนร่างบางก็สวมเสื้อตัวในสีขาวเรียบกับกระโปรงเรียบร้อยแล้ว ผูกสายรัดอย่างพิถีพิถัน
แม้ยังคงปล่อยผมยาวสยาย แต่นางในยามนี้กลับดูแตกต่างจากนางยามอยู่บนเตียงถึงเพียงนั้น แตกต่างจากหญิงสาวที่เมื่อครู่นี้นอนอยู่ใต้ร่างเขา ใช้สองมือโอบกอดเขาแน่น ใช้เรียวขาขาวเนียนเกี่ยวตัวเขาไว้ ใช้ร่างกายเคลียคลอกับเขาอย่างแนบสนิท รองรับความปรารถนาจากเขา
นางยกน้ำอ่างหนึ่งมาให้เขา ยื่นผ้าให้ และเก็บเสื้อผ้าที่เมื่อครู่นี้ถูกเขาโยนลงบนพื้นมาให้เขา
“รองเท้าของท่านล่ะ” เมื่อหาจนทั่วห้องแล้วก็ยังไม่เจอรองเท้ากับถุงเท้าของเขา นางอึ้งไปเล็กน้อย
เขาจ้องมองนาง ตอบเสียงเรียบโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา
“ข้าลืม”
ได้ยินดังนั้นนางก็นิ่งงันไป ดวงหน้าเล็กเป็นสีแดงเรื่อ
เขาสังเกตเห็นว่านางหาเสื้อนอกของเขาไม่เจอ เป็นเพราะเขาไม่ได้สวมมา มันยุ่งยากเกินไป ถึงอย่างไรก็ต้องถอดอยู่ดี นางไม่ได้ซักถามเขาถึงเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ที่หาไม่เจอ เพียงเก็บผ้าห่มที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา
เขาสวมเสื้อผ้าและผูกสายรัดเรียบร้อย ก่อนจะสังเกตเห็นอย่างหนึ่ง
ตั้งแต่ต้นจนจบ ระหว่างที่หญิงผู้นี้ทำเรื่องทั้งหมด นางหลุบตาอยู่ตลอด ไม่ได้จ้องมองเขาตรงๆ เลยสักนิด
นางไม่มองเขา ยามนี้กลับไม่ยอมมองเขาแล้ว
เมื่อกลางวันตอนเขาไล่คน นางจ้องเขาตาไม่กะพริบ ตอนนั้นภายใต้สายตาของทุกคน นางอดเอ่ยปากพูดกับเขาไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีใครมองแล้ว นางกลับไม่ปริปากพูดสักคำ
เขารู้สึกคันไม้คันมือเหลือเกิน
คันยิ่งนัก
ชั่วครู่หนึ่งที่เขาแทบอยากจะยกมือขึ้น บังคับให้นางเงยหน้า บังคับให้นางมองเขา เขาอยากมองตานางให้ชัด มองหัวใจนางให้ชัด อยากบังคับให้นางเอ่ยคำถามที่นางอยากถามมาตลอดแต่กลับไม่เคยเอ่ยถามออกมาจริงๆ สักครั้ง
ทั้งหมดนี้ ทำไปเพื่ออะไรกันแน่
เขารอให้นางถามอยู่ตลอด รอมาตั้งแต่สามปีก่อน แต่นางไม่เคยเอ่ยถามจริงๆ เลยสักครั้ง และเขาเองก็ไม่รู้ว่าหากเขาบังคับนางแล้ว แต่นางยังคงไม่เอ่ยถาม เขาจะยอมรับได้หรือไม่
หากนางเอ่ยปากถามจริงๆ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถตอบคำถามนาง จะกล้าตอบคำถามนางจริงๆ หรือไม่ หากวันใดคืนใดนางล่วงรู้ความจริง นางจะยังโง่ถึงขั้นยื่นมือออกมาโอบกอดเขาเหมือนในคืนนี้อีกหรือไม่
โจวชิ่งก้มหน้ามองหญิงสาวที่หลุบตาไม่มองเขา สูดดมกลิ่นหอมจากผมนาง หัวใจเขาพลันหดรัด
ทั้งที่ใกล้เช่นนี้ แต่กลับรู้สึกไกลถึงเพียงนั้น…
เวลานี้เขาแทบอยากดึงนางเข้ามากอดอีกครั้ง พานางกลับไปบนเตียงและครอบครองนางอีกครา จะได้รู้สึกว่านางยังเป็นของเขา รู้สึกว่าเขายังคงมีนาง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องข่มกลั้นความวู่วาม ไม่ได้ยื่นมือไปหานางอีก เพียงหมุนตัวเปิดประตูแล้วเดินออกไป
พอถึงลานบ้าน เขากลับรู้สึกถึงสายตาของนาง
เขาไม่ได้หันกลับไป เท้าสะกิดพื้นและเหินตัวขึ้นไปบนหลังคา ยามที่เท้าเปล่าของเขาเหยียบลงบนสันหลังคาก่อนจากไป สุดท้ายเขาก็อดชะงักไม่ได้และหันไปมอง
หน้าต่างห้องของนางเปิดออกอีกครั้ง เงาร่างสีขาวขยับมาตรงหน้าต่างแล้วแหงนหน้ามองเขา
นางตะลึงไปครู่หนึ่งด้วยไม่คิดว่าเขาจะหันกลับมา ดวงหน้าเล็กแดงเรื่อ ถอยออกไปจากข้างหน้าต่างอย่างรีบร้อนก้าวหนึ่ง
การหลบเลี่ยงนั้นกลับทำให้มุมปากเขาโค้งขึ้น ครั้งนี้เขาจึงยอมหมุนตัวจากไปอย่างเต็มใจแล้ว