เฉาเฟิ่งเห็นเขาเลิกม่านเข้ามาโดยมีนางตามมาข้างหลังกลับไม่ปริปากพูดอะไร เพียงก้าวเข้ามาช่วยเปิดประตูที่นำสู่ชั้นบน
เขาก้าวขึ้นไปข้างบนอย่างผ่อนคลาย นางลังเลครู่หนึ่ง ใบหน้าแดงเรื่อ ก่อนจะฝืนใจตามขึ้นไป ไม่กล้าเหลือบมองเฉาเฟิ่งผู้นั้นแม้แต่แวบเดียว
ขึ้นไปบนชั้นสองแล้ว เขาเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ และเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง นางเดินไปข้างประตูอย่างกระวนกระวาย เห็นเขาถอดรองเท้า นั่งลงบนเตียงหลัวฮั่นข้างหน้าต่าง
บนเตียงหลัวฮั่นมีโต๊ะไม้ประดู่สีดำมะเมื่อมตัวเล็กวางอยู่ บนโต๊ะเล็กเป็นเตาเหล็ก บนเตาวางกาเหล็กแบบเดียวกัน พวยกามีควันสีขาวขมุกขมัวลอยออกมา แผ่กลิ่นหอมอบอุ่นของชาไปทั่ว
เขาหยิบกาเหล็กขึ้นมารินน้ำชาให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง ครั้นเห็นนางยังยืนนิ่งอยู่ข้างประตู คิ้วรูปดาบก็เลิกขึ้น
‘เจ้าจะเข้ามา หรือว่าออกไป’
นางหน้าแดง สูดหายใจลึกก่อนจะเดินเข้าไป
แม้ชายหญิงจะไม่ควรอยู่ในห้องตามลำพัง แต่นางวิ่งเต้นค้าขายอยู่ข้างนอกเกือบปีแล้ว มาเขินอายตอนนี้ออกจะเสแสร้งเกินไปหน่อย อีกอย่างหากชายผู้นี้คิดจะทำอะไรนาง คงไม่รอจนถึงป่านนี้หรอก
นางเดินเข้าไปนั่งลงอีกฝั่งของเตียงหลัวฮั่น เลียนแบบท่าทางสุขุมมั่นคงของเขา ถอดรองเท้า เลิกชายชุดคลุมแล้วขึ้นเตียงนั่งขัดสมาธิ
เขารินน้ำชาให้ตัวเองเสร็จก็วางกาเหล็กลง เริ่มพลิกอ่านสมุดบัญชีที่กองอยู่บนโต๊ะโดยไม่สนใจนาง ไม่มีทีท่าจะรินน้ำชาให้นางแม้แต่น้อย ชั่วขณะหนึ่งที่นางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ให้นั่งอย่างนี้ต่อไปก็ดูประหลาดมาก นางจึงตัดสินใจรินน้ำชาให้ตัวเอง
‘หมู่นี้การค้าไม่เลวหรือ’ เขาถามโดยไม่เงยหน้า
‘ต้องขอบคุณท่าน’ นางแอบเหลือบมองเขา ตอบอย่างเกรงใจ
‘มาหาข้ามีเรื่องอะไร’ เขาพลิกสมุดบัญชีหน้าหนึ่งและถามต่อ
‘ข้าเปล่า…’ นางแย้งหน้าแดง
เขาช้อนตาขึ้น เลิกคิ้วอีกครั้ง
นางหน้าแดงกว่าเดิม ได้แต่ตอบว่า ‘ข้าแค่บังเอิญผ่านมา ข้ามาจ่ายเบี้ยรายเดือน…ข้าหมายถึงซื้อยันต์คุ้มภัย’
‘นั่นเป็นเบี้ยรายเดือนไม่ผิด เมืองแห่งนี้ต้องมีกฎเกณฑ์’ เขาพูดพลางจ้องหน้านาง
‘อืม ข้ารู้’
เขาไม่ได้มองนางอีก เพียงก้มหน้าตรวจบัญชีต่อ นางยังคงประหม่าเล็กน้อย ไม่กล้ามองเขา สายตาเลื่อนไปยังหน้าต่าง บริเวณนี้ไม่ได้หันหน้าไปทางถนน แต่เป็นลานกลางแจ้ง ลานนี้ไม่ใหญ่นัก แรกเริ่มที่สร้างลานแห่งนี้ขึ้นมาคงเพื่อรับแสงและสร้างความโปร่งโล่ง ทำให้ที่แห่งนี้สงบเงียบยิ่งนัก
ไม่นานบ่าวสองคนก็ยกอาหารกลางวันเข้ามาสองสำรับ
นางไม่เห็นเขาออกคำสั่ง แต่ชัดเจนว่าเฉาเฟิ่งผู้นั้นรู้ดีว่านางจะอยู่กินข้าวด้วย