สำรับอาหารกลางวันนั้นเรียบง่ายมาก นางเห็นแล้วแปลกใจเล็กน้อย ครั้งก่อนตอนอยู่หออวลสุคนธ์เขาสั่งข้าวปลาอาหารมากมาย นางยังคิดว่าปกติเขามักกินอย่างหรูหรา แต่ตรงหน้ากลับเป็นอาหารง่ายๆ เนื้อจานหนึ่ง ผักจานหนึ่ง ข้าวสองถ้วย น้ำแกงหนึ่งชาม แล้วก็ไม่มีอะไรอีก
โจวชิ่งวางสมุดบัญชีในมือ หยิบตะเกียบไม้สีดำขึ้นมา ถือชามและเริ่มกินข้าว
ในเมื่อถูกเรียกมากินข้าว นางจึงได้แต่ปฏิบัติตาม กินข้าวมื้อนี้ตามสัญญาแต่โดยดี พออาหารเข้าปากนางก็อึ้งงันไปเล็กน้อย ข้าวสวยนี้หุงจนเปล่งประกายแวววาว เข้าปากแล้วไม่เหนียวและไม่เลี่ยน นุ่มกำลังดี อร่อยจริงๆ คิดดูแล้วคงคัดข้าวสารมาเป็นพิเศษเพื่อหุงให้เขาโดยเฉพาะ
เห็นนางหยุดตะเกียบ มองข้าวสวยในชามอย่างครุ่นคิด เขาจึงเอ่ยปากพูด
‘ทำไมหรือ’
‘เปล่า’ นางกระตุกมุมปาก ตอบโดยไม่คิดมาก ‘สมัยเป็นเด็กตอนอยู่บ้าน คิดว่าตัวเองกินดีอยู่ดีทีเดียว ต่อมาเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ ถึงรู้ว่าที่กินอยู่แค่ธรรมดาเท่านั้น จนกระทั่งออกจากบ้านมาค้าขายข้างนอก กินอาหารหยาบนอกบ้านแล้ว จึงตระหนักถึงคำกล่าวที่ว่าเทียบกับคนที่เหนือกว่าไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าอีกหลายคน ตัวเองนับว่ายังมีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่เลว’
เขามองนางพลางเอ่ยถามเสียงเรียบ
‘เจ้าชอบเป็นชายหรือ’
นางอึ้งไป เงยหน้ามองเขา
ชายหนุ่มตรงหน้าเอาแต่จ้องนางและเลิกคิ้วอีกครั้ง ย้ำคำถามของตนอย่างไร้เสียง
‘ชอบ’ นางสูดหายใจลึก พูดอย่างเปิดเผย ‘เป็นชายทำได้ทุกอย่าง หากข้าเป็นชายจริง อยากไปไหนก็ไปได้ อยากทำอะไรก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจมากขนาดนี้’
เขามองนางด้วยสายตาดำลึกคู่นั้น ทำเอานางหัวใจเต้นรัว ดวงหน้าเล็กพลันแดงซ่าน แต่นางไม่ได้หลบเลี่ยงสายตาเขา จากนั้นเขาก็พยักหน้า ก้มหน้ากินข้าวต่อโดยไม่พูดอะไรอีก
พอสายตาเร่าร้อนของเขาเบนออกไป นางถึงได้โล่งอก ก้มหน้ากินข้าวต่อ
หลังกินข้าวเสร็จ โม่หลีผู้ติดตามของเขาโผล่ออกมาจากที่ใดไม่รู้ ยกจานชามบนโต๊ะออกไปแล้วนำพู่กันกับหมึกเข้ามาแทน เขาจับพู่กันเริ่มขีดเขียนไปบนสมุด ราวกับลืมไปว่านางนั่งอยู่ตรงนี้
ข้างนอกสายฝนพร่างพรมลงมาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ นางรู้ว่าตัวเองควรไปได้แล้ว หลายครั้งที่อยากลุกขึ้น แต่กลับหาโอกาสพูดไม่ได้ คนของเขานำสมุดอีกมากมายเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า จังหวะที่นางพยายามจะลุกขึ้นก็มีคนนำผลไม้กับขนมหลังมื้ออาหารเข้ามา ขวางทางที่นางจะลงจากเตียงหลัวฮั่นไว้อีกครั้ง
หลังกินอิ่ม ลมเย็นโชยพัดมาเป็นระลอก นางนั่งๆ ไป ความเหนื่อยล้าก็ผุดขึ้นมาเงียบๆ วิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกตลอดช่วงเช้า ตอนนี้เมื่ออิ่มหนำสำราญ หนังตาจึงตกลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
เตียงหลัวฮั่นนี้ปูฟูกไว้ ด้านหลังยังมีหมอนอิง นั่งแล้วสบายยิ่ง ทำให้นางง่วงงุนเหมือนจะหลับ
นางพยายามฝืนทน แต่ก็ยังอยากนอนอยู่ดี อดไม่ได้ที่จะขยับตัวไปพิงกรอบหน้าต่างเงียบๆ ความรู้สึกนั้นดีเหลือเกิน ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะแอบยกมือขึ้นยันดวงหน้าเล็กๆ ไว้
สายฝนโปรยปรายลงมา
…ลมเย็นเหลือเกิน
ฝนที่หายากในฤดูร้อนนี้ช่วยบรรเทาความอบอ้าวบนผืนแผ่นดินไปได้มาก
ชายหนุ่มตรงหน้ายังคงเขียนหนังสือ ลายมือของเขาหวัดมาก แทบจะแยกแยะไม่ออก แต่กลับสวยงามอย่างบอกไม่ถูก ให้ความรู้สึกโผงผางตรงไปตรงมาอย่างน่าแปลก เหมือนสายลมอย่างไรอย่างนั้น
นางหลับตาหนึ่งครั้ง และอีกหนึ่งครั้ง
พริบตาถัดมานางก็ผล็อยหลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ