4
แม้จะลอบเตรียมตั้งรับอยู่บ้าง แต่มาลารินก็ไม่เคยคิดเลยว่าเจตนาปกปิดโยงใยระหว่างกวิน เกวรา และพี่ประณตของตนจะจบลงรวดเร็วปานนั้น
นอกจากอาการแปลกๆ ในคืนวันฝนตกครั้งก่อน ระยะหลังมานี้กวินก็ถือว่าปกติดี และแม้จะยังมีท่าทางเบื่อหน่ายหญิงสาวเสียเต็มประดา ทว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ขับไล่ไสส่งเธออีก ความพยายามจะขโมยกุญแจนั่นก็ด้วย มาลารินไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มล้มเลิกความตั้งใจจริงๆ หรือเพราะขี้เกียจหาว่าเธอซ่อนเอาไว้ตรงไหนบ้างกันแน่
อย่างไรก็ตาม งานในคาเฟ่ก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยมือแม้จะมีรายรับมั่นคงทุกเดือนแล้ว การทำกาแฟยังเป็นสิ่งที่หญิงสาวโปรดปราน เธอเสพติดความรู้สึกคล้ายถูกโอบล้อมด้วยกรุ่นกลิ่นแบบเฉพาะกับฟองอวลลวดลายต่างๆ และไหนจะรอยยิ้มละมุนละไมของประณตที่ทำให้มาลารินรู้สึกสงบใจ ซ้ำยังมักจะคอยปลอบขวัญวันอ่อนล้าหลังรบรากับเด็กร้ายกาจคนนั้น โดยที่ชายหนุ่มเองไม่รู้ตัวสักนิดด้วย
ทำใจให้เชื่อยากเหลือเกินว่าเป็นญาติกัน ให้บอกว่าเทวากับซาตานยังเป็นไปได้มากกว่า…
“ว่าไงลี โอเครึเปล่า”
เสียงทักดึงสติหญิงสาวกลับมายังเครื่องทำกาแฟตรงหน้า มาลารินหยุดเช็ดหัวเป่าลมก่อนหันไปสบตากับประณตซึ่งยืนเยื้องกันพลางยิ้มแหย เธอมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยจนจับใจความอะไรไม่ได้เลย
“พี่ณตว่าไงนะคะ”
“โหยพี่ มันไม่ได้ฟังที่เราคุยกันเลยอะ” พี่ภพผละจากการเก็บแก้วมายุแยงทีเล่นทีหยอก แล้วได้ให้หัวเราะเอิ๊กอ๊ากประเดี๋ยวนั้นเมื่อคนถูกแหย่หันไปมองตาเขียว “ดู๊ดูมองเข้า หน้าดุอย่างกับหมา”
“กัดเก่งเหมือนหมาด้วย ลองมั้ยพี่”
“พี่ณตดูมันดิ”
บทสนทนาไร้สาระกลายเป็นเรื่องคุ้นชินกันภายในร้านยามว่างจากลูกค้าอยู่แล้ว ประณตจึงเพียงขบขันโดยไม่มีทีท่าจะเข้าไปห้ามจริงจัง ร่างสูงหันไปขยับกระถางใบเดหลีที่ใกล้จำศีลให้รับแสงแดดอ่อนจากหน้าต่างพลางเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“เย็นนี้ภพชวนไปฉลองวันเกิด ลีสะดวกรึเปล่า”
“วันเกิดพี่ภพอีกตั้งสองอาทิตย์ไม่ใช่เหรอคะ”
คนถูกชวนมุ่นคิ้ว แล้วจึงค่อยกระจ่างในคำอธิบายต่อมาจากเจ้าของงาน
“เพื่อนคนอื่นเค้าสะดวกกันวันนี้พอดีนาซี่ อีกอย่างพี่ประณตก็บอกว่าถ้าเป็นตอนเย็นก็สะดวกตลอด ตอนนี้แกเองก็ไม่ได้ไปทำงานเด็กเสิร์ฟนั่นแล้วด้วยนี่”
มาลารินโคลงหัวตามคำพูดของอีกฝ่าย เธอไม่ได้คิดเรื่องตัวเองด้วยซ้ำขณะที่ภพเอ่ย แต่กลับไล่เรียงไปถึงตารางเรียนของกวินแทน ลอบพยักหน้าหงึกหงักกับตัวเองเมื่อทบทวนได้ว่าพรุ่งนี้เขาจะว่างทั้งวันจึงไม่จำเป็นต้องตามจ้ำจี้จ้ำไชอะไรตอนกลางคืน ปล่อยทางนั้นเที่ยวบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก หักดิบไปเลยคงไม่ดี
แท้จริงแล้วเธอไม่อยากเข้มงวดกับเด็กหนุ่มเท่าใดนัก หากความประพฤติของเขาไม่ได้คึกคะนองสุดโต่งเธอก็ยินดีจะมองข้าม หญิงสาวค้นพบว่ากวินมีความอหังการแบบที่เก็บกดความไม่พอใจเพื่อย้อนทำร้ายอีกฝ่ายให้เจ็บกว่าเดิม อย่างเมื่อครั้งเธอบังคับให้เขาไปนั่งเรียนครานั้น เด็กหนุ่มก็เอาคืนด้วยการขโมยกุญแจเพื่อขังเธอให้ทุลักทุเลท่ามกลางสายฝน ใช่…ถ้าไม่ติดว่าแอบซ่อนกุญแจสำรองไว้ มาลารินก็ไม่รู้ว่าเรื่องต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร
ดังนั้นถ้าวันนี้เธอไม่เข้าไปวุ่นวายอะไรกับเขา อีกฝ่ายคงจะผ่อนคลายขึ้นกระมัง…