ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 58-59 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 58-59

จากนั้นก็ไม่มีแล้ว

แค่นี้…มีแค่นี้

มารดามันเถอะ ข้าสู้อุตส่าห์ทุ่มเทกายใจ กระทั่งเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง ปรากฏว่าเรื่องเกี่ยวกับดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำ ท่านเขียนให้ข้าเพียงไม่กี่บรรทัดเท่านี้หรือ

อีกทั้งกระทั่งถึงตอนนี้ในระหว่างบรรทัดในแต่ละประโยคก็ไม่มีคำว่าบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำเหล่านี้อยู่เลย คงไม่ใช่ที่เขาไปในตอนนั้นก็ไม่ใช่ดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำ หากแต่เป็นแดนเซียนแห่งอื่นกระมัง

ชั่วขณะนั้นเมิ่งถังไม่รู้ควรร้องไห้หรือควรหัวเราะดี

นางสิ้นไร้เรี่ยวแรงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้กุมหนังสืออยู่ในมือแล้วเหม่อลอย

คิดไปคิดมายังคงไม่ยินยอมพร้อมใจ จึงเริ่มอ่านบันทึกการเดินทางเล่มนี้ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างละเอียดลอออีกครั้งดูว่าจะหาเบาะแสอะไรใหม่ได้หรือไม่

ในที่สุดก็พบตัวอักษรประโยคหนึ่งในหน้าชื่อเรื่องจริงๆ

 

‘บุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำ ความฝันหวงเหลียน* ตื่นจากฝันจึงได้รู้สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า ความยึดมั่นที่ไร้ความหมาย

 

ด้านล่างยังลงนาม วัน…เดือน…ปี…โจวเฉินเฟยบันทึกไว้เป็นครั้งสุดท้าย

โจวเฉินเฟยท่านนี้ คิดว่าคงจะเป็นบรรพบุรุษของสกุลโจวท่านนั้น

เมื่ออ่านบันทึกการเดินทางจบเล่มก็มีเพียงส่วนนี้ที่ปรากฏคำว่าบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำให้เห็น ก็ไม่รู้เพียงพอจะอธิบายได้ว่าสถานที่ที่โจวเฉินเฟยไปในตอนนั้นก็คือดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำหรือไม่

นอกจากนี้ดูจากเวลาที่เขาละสังขารเป็นช่วงเวลาที่เขากลับมาจากสถานที่แห่งนั้นเป็นปีที่สาม

ว่ากันตามเหตุผลตอนนั้นโจวเฉินเฟยยังอายุไม่มาก แต่ก็อยู่ในขั้นจินตันแล้ว อีกทั้งเขาเพิ่งหลอมยาวิเศษห้าเม็ดนั้นออกมาได้ไม่นาน เส้นทางในอนาคตพูดได้ว่าโชติช่วงสว่างไสว เหตุใดจู่ๆ จึงละสังขาร

ยังมีอีก ดูจากคำพูดประโยคสุดท้ายที่เขาบันทึกไว้เห็นชัดว่าไม่มีความอาลัยอาวรณ์ใดๆ ต่อโลกใบนี้

เป็นเพราะเขาไปพบเจอเรื่องอะไรในสถานที่แห่งนั้นถึงได้ทำให้เขาหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้

เมิ่งถังไม่อาจทราบได้

นางวางบันทึกการเดินทางที่ชำรุดเล่มนี้ไว้บนโต๊ะ เริ่มเชื่อมโยงเรื่องทุกอย่างเข้าด้วยกัน

ตอนนั้นที่ชาวบ้านผู้นั้นเห็นที่แท้แล้วเป็นภาพลวงตา หรือเป็นภูเขาลูกหนึ่งจริงๆ

ถ้าเป็นภูเขาลูกหนึ่งแล้วภูเขาลูกนี้ลอยอยู่บนผิวทะเล เคลื่อนที่ไปได้ทั่วทุกหนแห่ง หรือจะปรากฏขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดขึ้นเป็นพิเศษ

โจวเฉินเฟยออกทะเลไปหาภูเขาเซียน สุดท้ายถูกพายุลมหมุนยักษ์ดูดเข้าไป หลังจากฟื้นขึ้นมาสถานที่แห่งนั้นใช่ภูเขาลูกนั้นหรือไม่

ถ้าใช่ แล้วภูเขาแห่งนั้นที่แท้แล้วใช่ดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำในตำนานหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงภูเขาลูกหนึ่งเท่านั้น

เมิ่งถังรู้สึกว่าศีรษะของนางบวมโตขึ้นเล็กน้อย

ครั้นแล้วนางจึงตัดสินใจยังคงพักผ่อนสักครู่ก่อน ประเดี๋ยวค่อยคิดใหม่ หาไม่ยังไม่ทันคิดได้ผลลัพธ์อะไรออกมา นางก็จะทำให้ตัวเองหัวหมุนเสียก่อน

ตอนมู่หวาฮุยเข้ามา ภาพที่เห็นก็คือเมิ่งถังนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะตัวหนึ่ง มือขวาเท้าคาง สองตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

ในดวงตาอดมีรอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นมาไม่ได้

เขาเดินเข้าไปใกล้ นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เมิ่งถัง

“กำลังคิดอะไรอยู่หรือ”

พูดพลางหยิบยาวิเศษชามหนึ่งออกมาจากในแหวนเก็บทรัพย์ผลักไปตรงหน้าเมิ่งถัง

นางแม้จะเลื่อนพลังวัตรสู่ขั้นหยวนอิงสำเร็จแล้ว แต่ตอนเส้นชีพจรปราณยังไม่ทะลุปรุโปร่งทั้งหมดได้ใช้ปราณวิเศษอย่างไม่ยั้งคิด ทำให้ยังคงสร้างความเสียหายต่อดวงจิตในระดับหนึ่ง ดังนั้นจำเป็นต้องกินยาหลายวันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงจึงจะไม่มีอะไรผิดพลาด

เมิ่งถังไว้วางใจมู่หวาฮุยอย่างสุดจิตสุดใจ ขอเพียงเป็นของที่มู่หวาฮุยเอามาให้นางดื่มกิน นางไม่เคยถามว่าคืออะไร แต่จะทำตามที่เขาต้องการให้ทำแต่โดยดี

ตอนนี้ก็เช่นกัน นางยื่นมือไปยกชามยาตรงหน้าขึ้นมา เงยหน้าขึ้นดื่มหมดชาม

ยามีรสขมเล็กน้อย หลังจากวางชามลงนางก็หยิบลูกกวาดจากในถุงฟ้าดินเม็ดหนึ่งแล้วอมไว้ในปาก

ทางหนึ่งก็ใช้สายตาแสดงเจตนาให้มู่หวาฮุยมองบันทึกการเดินทางที่วางอยู่บนโต๊ะเล่มนั้น

“ศิษย์พี่ ท่านดูนี่คือบันทึกการเดินทางที่บรรพบุรุษสกุลโจวท่านนั้นเขียนไว้”

เมื่อเช้าตอนอยู่ที่หอเก็บตำรานางก็ได้บอกมู่หวาฮุยแล้วว่านางจะหาอะไร ภายหลังนางก็คิดจะไปหาดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำ ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไรมู่หวาฮุย

พอเข้ามาในห้องมู่หวาฮุยก็เห็นบันทึกการเดินทางที่ถูกไฟเผาชำรุดเล่มนั้นวางอยู่บนโต๊ะแล้ว

ช่วงเช้าที่เมิ่งถังยอมเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตก็จะเข้าไปในทะเลเพลิงเพื่อหาบันทึกการเดินทางเล่มนี้ให้ได้ ในใจเขาย่อมนึกฉงนสงสัย มาบัดนี้เมิ่งถังเป็นฝ่ายบอกให้เขาดูของสิ่งนี้ เขาจึงหยิบขึ้นมาแล้วพลิกอ่านดู

ก็แค่บันทึกการเดินทางธรรมดาเล่มหนึ่ง ไม่เข้าใจเพราะเหตุใดเมื่อวานเมิ่งถังจะต้องหาของสิ่งนี้ให้พบให้ได้

ทั้งยัง…

“เจ้ารู้จักโจวเฉินเฟยหรือ”

“ไม่รู้จัก”

เมิ่งถังฟุบอยู่บนโต๊ะ ท่าทางสิ้นไร้เรี่ยวแรง “ถ้าไม่ใช่อ่านบันทึกการเดินทางเล่มนี้จบ ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสกุลโจวมีบรรพบุรุษผู้หนึ่งชื่อโจวเฉินเฟย”

“บันทึกการเดินทางเล่มนี้มีอะไรแปลกมหัศจรรย์หรือ แล้วเจ้ารู้มาจากที่ใดว่าในหอเก็บตำราของสกุลโจวมีบันทึกการเดินทางเช่นนี้อยู่เล่มหนึ่ง แล้วดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำคือสถานที่แบบใดหรือ”

คนผู้นี้ไม่เพียงถามติดกันสามคำถาม ยังเป็นคำถามสำคัญยิ่งทั้งหมด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com