ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 58-59 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา บทที่ 58-59

ดูท่าคงปิดบังต่อไปไม่ได้แล้ว

เมิ่งถังจึงบอก “ศิษย์พี่ ท่านยังจำซ่งชิงเสวี่ยได้กระมัง นางเป็นคนบอกข้า ในโลกนี้มีสถานที่ในตำนานแห่งหนึ่งเรียกว่าดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำ ในแดนเซียนแห่งนี้มีของวิเศษอย่างหนึ่งมีชื่อเรียกว่าจี๋ซั่งโยวถาน

ในค่ำคืนวันพระจันทร์เต็มดวง จี๋ซั่งโยวถานนี้จะผลิบาน ยามนั้นให้เอาน้ำค้างในเกสรของมันมากินลงไปก็จะสามารถชำระจิตมารทุกอย่างออกไปได้หมด

ข้าคิดจะไปแดนเซียนแห่งนี้สักครั้ง จึงถามนางจะไปแดนเซียนแห่งนี้ได้อย่างไร นางบอกข้า เมืองเหิงหยางแห่งนี้เคยมีคนผู้หนึ่งไปแดนเซียนแห่งนั้น ยังเอาหญ้าวิเศษต้นหนึ่งมาจากแดนเซียนแห่งนั้น และนำมาผสมกับบุปผาวิเศษหญ้าวิเศษล้ำค่าต่างๆ เข้าไปหลอมออกมาเป็นยาวิเศษห้าเม็ดที่คนในแดนบำเพ็ญเซียนต่างรู้กันดี

เมื่อสองวันก่อนข้าได้ไปเลียบๆ เคียงๆ ถามพี่โจวถึงเรื่องนี้ จึงได้ทราบว่าบันทึกการเดินทางที่บรรพบุรุษท่านนั้นหรือก็คือโจวเฉินเฟยทิ้งไว้เก็บอยู่ในหอเก็บตำรา ด้วยเหตุนี้เมื่อวานพอเห็นหอเก็บตำราไฟไหม้ ข้ากลัวว่าถ้าบันทึกการเดินทางเล่มนี้ถูกเผาแล้วก็จะไม่รู้ควรไปหาดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำได้อย่างไร พอร้อนใจขึ้นมาจึงได้พุ่งเข้าไปในทะเลเพลิง”

การพูดโกหก ถ้าเป็นคำโกหกทั้งหมดก็จะถูกคนมองออกได้ง่าย อย่างเช่นนางเก้าส่วนพูดเรื่องจริง หนึ่งส่วนเป็นเท็จ เปลี่ยนเรื่องที่ถ้ากินน้ำค้างในเกสรจี๋ซั่งโยวถานแล้วจะสามารถซ่อมแซมการปิดผนึกที่เสียหายทุกอย่างในโลกได้ มาเปลี่ยนเป็นสามารถชำระจิตมารทุกอย่างออกไปได้หมดก็ไม่เชื่อว่ามู่หวาฮุยจะมองออก

นอกจากนี้หลังจากกล่าวคำพูดเหล่านี้จบนางยังมองมู่หวาฮุยด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน

มู่หวาฮุยมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ถามขึ้น “เพราะเหตุใดซ่งชิงเสวี่ยต้องบอกเรื่องนี้แก่เจ้า”

“นางอยากให้ข้ารักษาชีวิตของชุยเย่าไว้”

ปัญหานี้เมิ่งถังก็เคยคิดไว้แล้ว คำตอบจึงติดอยู่กับปาก “ใช้ของสิ่งนี้เป็นข้อแลกเปลี่ยน นางบอกข้า ท่านเกิดจิตมารขึ้นแล้ว รวมถึงควรกำจัดจิตมารของท่านอย่างไร”

มู่หวาฮุยเม้มปากไม่พูด

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงเอ่ยถามเสียงเบา “ที่เจ้าคิดจะไปดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำก็เพื่อข้า”

“ใช่” เมิ่งถังไม่ได้ปฏิเสธ “ศิษย์พี่ท่านดีต่อข้าเพียงนี้ ช่วยข้าไว้หลายต่อหลายครั้ง ข้าก็อยากช่วยท่านบ้าง”

ในใจประหนึ่งมีน้ำพุร้อนไหลผ่านรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันที

มู่หวาฮุยยิ้มน้อยๆ ออกมา

“ดีต่อเจ้าก็ดี ช่วยเจ้าก็ดี นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าทำด้วยความสมัครใจ เจ้ารับไว้ด้วยความสบายใจก็พอไม่ต้องชดใช้คืน

ส่วนเรื่องจิตมารของข้า เจ้าวางใจ ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร ดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำแห่งนั้น เมื่อครู่ข้าพลิกอ่านบันทึกการเดินทางของบรรพบุรุษท่านนั้นแล้ว มีบันทึกอยู่เพียงไม่กี่คำ กลัวก็แต่จะมีอันตรายมาก ยังคงอย่าไปดีกว่า”

เมิ่งถังคิดในใจ ถ้าท่านแค่เพียงมีจิตมาร ข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปผจญภัยในแดนเซียนที่ไม่รู้จักแห่งนั้น ให้ท่านเอาชนะด้วยตนเองก็พอ ไม่แน่จิตมารก็จะหายไป ทว่าในเวลานี้ท่านไม่เพียงมีจิตมาร ผนึกที่ปิดอยู่ในร่างมารสวรรค์ของท่านมีรอยแยกเกิดขึ้นแล้ว

รอยแยกรังแต่จะยิ่งกว้างขึ้น ยังมีโม่เซียวคอยจ้องตาเป็นมันอยู่ข้างหลัง พร้อมจะผลักดันท่านเข้าสู่ความเป็นมารตลอดเวลา ดังนั้นต่อให้อันตรายเพียงใด แดนเซียนแห่งนั้นข้าก็จำเป็นต้องไป

จึงก้มหน้าลง นิ่งเงียบไม่พูดจา

ท่าทางเช่นนี้ของนาง มู่หวาฮุยยังจะไม่เข้าใจความหมายของนางอีกหรือ

ช่างเถิด แทนที่ถึงตอนนั้นจะปล่อยให้นางลอบหลบไปหาดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำอะไรนั่นตามลำพัง ไม่สู้ตนเองก็ไปด้วยกันกับนางจะดีกว่า

จึงบอก “ในเมื่อเจ้าจะต้องไปให้ได้ เช่นนั้นรอเรื่องทางนี้เสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะไปเสาะหาด้วยกันกับเจ้า”

เมิ่งถังเงยหน้าขึ้น

เพียงแต่คำพูดปฏิเสธของนางยังไม่ทันออกจากปาก มู่หวาฮุยก็กุมมือขวาที่วางอยู่บนโต๊ะของนางเสียก่อน

“เจ้าก็รู้ ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าไปสถานที่ที่ไม่รู้จักเช่นนั้นตามลำพังคนเดียว”

ตอนเขาเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้เสียงแม้จะเบา แต่ท่าทีกลับเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ยิ่ง

อีกทั้งระหว่างนั้นเขายังจับจ้องเมิ่งถังอยู่ตลอดเวลา แววตานุ่มนวลอ่อนโยน ชั่วขณะนั้นเมิ่งถังรู้สึกราวกับได้เห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้าในดวงตาของเขา

เมิ่งถังอดทอดถอนใจไม่ได้ หน้าตาของศิษย์พี่หล่อเหลาเกินไปแล้ว

ยามเขาใช้สายตาเช่นนี้มองนาง ไม่ว่าเขาจะร้องขอให้ทำอะไร ดูเหมือนนางจะไม่มีทางปฏิเสธได้เลย

อีกทั้งนางรู้ดี ในเมื่อเวลานี้มู่หวาฮุยรู้เรื่องนี้แล้ว นางคิดจะปิดบังเขาลอบไปเสาะหาดินแดนบุปผาในคันฉ่อง ดวงจันทร์กลางน้ำเพียงผู้เดียว นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

มู่หวาฮุยมีวิธีการมากมายทำให้นางไม่อาจออกเดินทางไปได้

ช่างเถิด เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด ไม่แน่ถึงตอนนั้นพวกนางยังอาจได้พบเจอจังหวะโอกาสอะไร ถ้าพลังวัตรของมู่หวาฮุยเลื่อนขั้นขึ้นไปได้อีก กลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของแดนบำเพ็ญเซียน เช่นนี้วันหน้าต่อให้เป็นเมิ่งชิงเหิง เขาก็ไม่ต้องหวาดกลัวแล้ว

จึงพยักหน้า

“ดีสิ ถึงตอนนั้นศิษย์พี่กับข้าไปด้วยกัน”

มู่หวาฮุยเห็นนางเห็นด้วย ในดวงตาพลันมีรอยยิ้มผุดขึ้น

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com