ภายใต้แสงตะวันยามสายัณห์ มองดูนางวิ่งเข้ามาที่ตนด้วยสีหน้าแย้มยิ้มเช่นนี้ ไม่ว่านางคิดจะทำสิ่งใด เขาก็จะไม่ปฏิเสธนาง
ครั้นแล้วเขาก็ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ มองเมิ่งถังที่วิ่งใกล้เข้ามาทุกทีด้วยหัวคิ้วนัยน์ตาที่นุ่มนวลอ่อนโยน
เมิ่งถังเพิ่งเข้ามาใกล้ก็แสร้งทำเป็นลื่น มือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยดินทรายเปียกชื้นก็คว้าไปที่ชายแขนเสื้อของมู่หวาฮุย
ดียิ่งนัก ชายแขนเสื้อสีขาวสะอาดของเขาเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำและดินทรายในทันที
ฉวยจังหวะที่มู่หวาฮุยยื่นมือมาพยุงนาง แขนขวาโอบอยู่ที่เอวของนาง นางก็ถือโอกาสเงยหน้าขึ้นทาบมือไปที่หน้าอกเขา
เช่นนี้ตัวเสื้อด้านหน้าของมู่หวาฮุยจึงมีรอยนิ้วมือห้านิ้วประทับอยู่อย่างชัดเจน
แน่นอนว่ารอยนิ้วมือนี้ล้วนมาจากคราบน้ำกับดินทราย
เมิ่งถังเอียงหน้าไปมองๆ มีท่าทีพึงพอใจใน ‘ผลงานชิ้นเอก’ ของตนอย่างยิ่ง
มู่หวาฮุยมองรอยนิ้วมือสองรอยนั้น ยิ้มอย่างอ่อนโยน หน้าตาไม่มีร่องรอยของความขุ่นเคืองแม้แต่น้อย
ติงเล่อเซวียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมองภาพนี้แล้ว ใบหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกแสดงให้เห็นว่านางเห็นจนชาชินแล้ว
นอกจากนี้นางได้สำนึกตัวแล้วว่าถัดจากนี้ตนจะต้องเห็นภาพคู่รักชื่นมื่นคู่นี้ไปอีกนานจึงหาปลาต่อไปอย่างสงบ
เมิ่งถังกำลังดึงชายแขนเสื้อของมู่หวาฮุยจะให้เขาถอดถุงเท้ารองเท้าไปจับปลาด้วยกันกับนาง
ออดอ้อนฉอเลาะเรื่องเช่นนี้นางก็ทำเป็น เพียงแต่เรื่องประเภทนี้นางจะทำก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับนางเท่านั้น
มู่หวาฮุยขัดนางไม่ได้จำต้องถอดถุงเท้ารองเท้า เอาชายเสื้อคลุมขึ้นมาเหน็บไว้ที่เอว เปลือยเท้าย่ำไปบนชายหาด
ตอนติงเล่อเซวียนเห็นภาพนี้ยังประหลาดใจอย่างมาก
นั่นคือศิษย์พี่ใหญ่!
ศิษย์พี่ใหญ่ผู้สูงส่งสง่าผ่าเผยแห่งสำนักหมิงหวาของพวกนาง!
ภายในสำนักทั้งเบื้องล่างเบื้องบน ผู้นำสังกัดยอดเขาผู้อาวุโสท่านใดบ้างไม่ฝากความหวังไว้ที่เขาอย่างลึกซึ้ง ศิษย์น้องชายหญิงคนใดบ้างยามเห็นเขาแล้วไม่เคารพนบนอบ
แต่เวลานี้เขาถึงกับเปลือยเท้าย่ำไปบนชายหาด ยังเล่นน้ำกับศิษย์พี่เมิ่งอีกด้วย
ไม่เพียงมีคราบน้ำกับดินทรายติดอยู่บนเสื้อผ้าเกรงว่าแม้แต่บนเส้นผมก็คงหนีไม่พ้น…
ติงเล่อเซวียนตื่นตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก้มเอวลงคลำหาปลาอย่างสงบต่อไป
ทำลายภาพลักษณ์ตนเองอะไร ช่างเถอะ จะอย่างไรศิษย์พี่ใหญ่ก็ให้ท้ายศิษย์พี่เมิ่งเพียงนั้น ภายใต้การยุยงของศิษย์พี่เมิ่งไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ล้วนไม่น่าแปลกใจ นางยังคงกังวลให้น้อยลงจะดีกว่า
ท่ามกลางการเล่นสนุกของทั้งสามคนถึงกับเก็บของทะเลมาได้เต็มอ่าง
เอาอ่างยัดให้มู่หวาฮุยถือ เมิ่งถังดึงติงเล่อเซวียนไปเก็บฟืนด้วยกัน
รอเก็บได้พอสมควรแล้ว นางกับติงเล่อเซวียนทางหนึ่งเดิน ทางหนึ่งพูดคุยหัวเราะกันกลับมายังที่พัก
ส่วนอวิ๋นชูเยวี่ยที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง เมิ่งถังเพียงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เพราะเมิ่งถังเห็นว่าคนอย่างอวิ๋นชูเยวี่ยไม่ควรใส่ใจเกินไป เจ้ายิ่งใส่ใจนาง นางก็ยิ่งเอาใหญ่ มองข้ามไปเสียเลยให้รู้แล้วรู้รอด
เมื่อกลับมาถึงบ้านผุพังก็เห็นตรงลานข้างหนึ่งของบ้านมีหินหลายก้อนวางล้อมอยู่ด้วยกัน ข้างในใช้ก่อกองไฟได้พอดี ข้างบนยังแขวนหม้อได้
ที่ด้านข้างยังมีฟืนกองเล็กกองอยู่
เมิ่งถังมองหลิงซิงเหยาที่นั่งขัดสมาธิหลับตาเข้าฌานอยู่บนพื้นแวบหนึ่ง คิดในใจ เขาทำอะไรเร็วยิ่ง
เมิ่งถังเพิ่งเล่นสนุกสนานที่ชายหาดมา จึงอารมณ์ดีมาก เรื่องหุงข้าวทำอาหารที่เหลือนางจึงเหมามาทำคนเดียวทั้งหมด
อย่างไรเสียหลายท่านนี้ล้วนทำอาหารไม่เป็นและช่วยทำอะไรไม่ได้ จึงไม่ให้พวกเขาสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวเสียเลย
ในแหวนเก็บทรัพย์ยังมีอาหารสดอยู่บ้าง เมิ่งถังจึงเอาออกมาทั้งหมด ทำต้มรวมมิตรหม้อใหญ่
ของทะเลที่เพิ่งจับมาเน้นความสดของวัตถุดิบ ดังนั้นนอกจากเกลือแล้ว เครื่องปรุงอื่นเมิ่งถังล้วนไม่ได้ใส่
รอต้มเสร็จแล้ว พอเปิดฝาหม้อกลิ่นหอมก็โชยมาเข้าจมูก