“ท่านพ่อยังพูดอะไรอีกหรือไม่”
“ไม่มีแล้ว เขาเพียงบอกให้แม่อย่าเป็นกังวล เร็วที่สุดจะกลับมาในหนึ่งปี อย่างช้าอาจถึงสองปี”
ตอนนี้เองฉู่อวิ๋นจิ้งถึงค่อยโล่งใจได้ มิน่าท่านแม่ถึงคิดว่าท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ “หากท่านพ่อกล่าวเช่นนี้จริงก็เป็นไปได้มากที่ท่านพ่อจะอยู่ในที่ใดสักแห่งที่ไม่สามารถบอกได้”
“แต่สองปีผ่านไปแล้ว”
“ท่านพ่อไม่อาจยืนยันเรื่องเวลาที่แน่ชัด เวลาที่ล่าช้าจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ท่านแม่ก็เชื่อว่าท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่มิใช่หรือ”
เหลียนอวี้จูพยักหน้าแรงๆ “หากพ่อเจ้าเป็นอะไรไป เขาจะต้องมาเข้าฝันบอกแม่แน่นอน แต่ถ้าเขายังอยู่ดี เหตุใดจึงยังไม่กลับมาเล่า”
“เขาอาจติดพันกับบางเรื่องอยู่” นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่ฉู่อวิ๋นจิ้งนึกออกมาได้และเป็นสิ่งที่นางวาดหวังให้เป็นเช่นนี้ ปัญหาคือบิดาไปที่ใดกันแน่ ไม่ว่านางจะทำอะไรได้หรือไม่ อย่างน้อยก็ต้องรู้ให้แน่ชัดก่อนว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ใด
“เขาจะพบกับอันตรายอะไรหรือไม่” เหลียนอวี้จูหวั่นวิตกจนคิ้วขมวดเป็นปม
จู่ๆ ฉู่อวิ๋นจิ้งก็นึกขึ้นได้ว่าไม่นานมานี้จวนจงอี้ป๋อก็ต้องการให้พวกเขากลับเมืองหลวง เป็นไปได้มากว่าจะเกี่ยวข้องกับหยกมังกรครึ่งซีกของฮ่องเต้
“ท่านแม่ไม่เคยเห็นของแทนใจที่อู่หยางโหวซื่อจื่อเอ่ยถึงจริงหรือ”
“แม่ไม่เคยเห็นจริงๆ แต่พ่อเจ้าเคยพูดเรื่องเจอโจรสลัดโจมตีที่เซียงโจว บอกว่าตอนนั้นเผอิญได้ช่วยเหลือผู้สูงศักดิ์เอาไว้ แต่มิได้บอกชัดถึงฐานะของคนสูงศักดิ์ผู้นั้น แม่เองก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ พ่อเจ้าก็มีนิสัยเช่นนี้ มีบุญคุณกับคนอื่น ตนเองกลับไม่จดจำ คนอื่นมีบุญคุณกับเขา เขาจะจดจำได้ขึ้นใจ” และเพราะเหตุนี้ นางจึงไม่พูดความจริงกับอู่หยางโหวซื่อจื่อ
“ของล้ำค่าปานนี้ท่านพ่อคงเก็บติดตัวไว้”
เหลียนอวี้จูลังเลไปชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวอธิบายว่า “แม้อู่หยางโหวซื่อจื่อโดดเด่นล้ำเลิศเพียงใด แต่การแต่งงานนี้ต่อให้พวกเราปรารถนาก็รับไว้ไม่ได้ คาดว่าพ่อเจ้าเองก็คงรู้สึกว่าพวกเราไม่อาจใฝ่สูง และเพื่อไม่ให้พวกเราเป็นกังวลจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา”
ฉู่อวิ๋นจิ้งตะลึงไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้ม “ท่านแม่ เทียบกับการคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเหล่านี้ มิสู้ขบคิดว่าพวกเราจะทำอย่างไรให้ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ ดีกว่า ส่วนเรื่องท่านพ่อข้าจะลองสืบดูเอง”
หากมิใช่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ร่องรอยของท่านพี่แน่ชัด งานแต่งของจิ้งเอ๋อร์ก็ควรกำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนพิธีปักปิ่น แล้ว ซึ่งเรื่องนี้จะไม่สำคัญได้อย่างไร แต่เมื่อเทียบกับเรื่องการแต่งงานของบุตรสาว สิ่งที่เหลียนอวี้จูคะนึงหามากที่สุดยังคงเป็นสามี “เรื่องของพ่อเจ้า เจ้าจะสืบหาอย่างไร”
“ข้าขอคิดดูอีกสักหน่อย” ฉู่อวิ๋นจิ้งมีวิธีการอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นใจนัก รอให้เรื่องราวมีความคืบหน้าก่อนค่อยว่ากัน
“แม่รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย เจ้าเองก็อย่าได้ฝืนทำให้ตนเองลำบากเกินไปเล่า”
ฉู่อวิ๋นจิ้งไม่กล่าวอะไรมากอีก นางกุมมือมารดาไว้อย่างปลอบโยนไม่อยากให้นางเป็นกังวล จากนั้นจึงประคองมารดาออกจากห้อง พากลับไปยังร้านต้นจื่อเถิงที่อยู่ในลาน