เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวเรื่องสกุลกงกับจวนสุยอ๋องถูกปิดตรวจสอบทั้งคืนทำให้สั่นสะเทือนไปทั่วราชสำนัก
ขณะเดียวกันเหล่าขุนนางใหญ่คนสำคัญของราชสำนักกว่าครึ่งก็ล้วนถูกขังอยู่ในวัง ไม่ได้กลับออกมาเสียที
กองทัพของสกุลสือกับสกุลชุยทยอยกันเดินทางเข้าเมืองหลวงมาสลับการป้องกันกับทหารชุดเดิม ทหารรักษาการณ์ประตูวังเองก็เปลี่ยนสัญญาณแตรกันไปหมด ขุนนางที่สนิทสนมกับสุยอ๋องจำนวนมากต่างหายไปไม่เห็นเงา ไม่รู้เป็นตาย
ต่อให้เป็นจวนที่ไม่ถูกผลกระทบไปด้วยก็ยังปิดประตูใหญ่สนิท ปฏิเสธไม่รับแขกเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน
แต่เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่บรรดาฮูหยินของจวนอื่นกำลังขวัญหาย ใช้ชีวิตอย่างหวาดหวั่น จวนไหวหยางอ๋องกลับใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขหลังความทุกข์ผ่านพ้น
ค่ำคืนนั้นชวนให้คนระส่ำระสายขวัญหาย ตอนได้รู้ว่าน้ำเลือดที่ยกออกมาจากในห้องคลอดล้วนเป็นเลือดหมู ฉู่ไท่เฟยก็เกือบจะให้หัวหน้าพ่อบ้านแสดงบทลงโทษของตระกูล จัดการบุตรชายกับลูกสะใภ้ที่มีแต่คำหลอกลวงเต็มปากกันสักครั้ง
หลิ่วเหมียนถังประคองหน้าท้องพลางอธิบายให้ฉู่ไท่เฟยฟังถึงสายสนกลในที่ซ่อนอยู่โดยละเอียดอย่างอ่อนโยน
ตอนเล่าถึงเรื่องอวิ๋นเฟยที่อยู่ในวังร่วมมือกับสุยอ๋อง วางยาเร่งทารกโตลงในอาหารที่นางซื้อมาจากข้างนอก ฉู่ไท่เฟยสูดลมหายใจเย็นเข้าไปเฮือกหนึ่งจริงๆ ไม่มีเวลาไปสนใจตำหนิบุตรชายและลูกสะใภ้ที่เล่นละครตบตาแล้ว
อีกอย่างหลิ่วเหมียนถังก็อธิบายแล้วว่าเหตุใดจึงปิดบังฉู่ไท่เฟยกับพี่สาว เป็นเพราะว่าภายในจวนอ๋องมีหูตาของสุยอ๋องสอดแทรกไว้อยู่ ต่อให้ก่อนหน้านี้จะคัดกรองไปรอบหนึ่งก็กลัวว่าจะตรวจสอบไม่เข้มงวดพออยู่ดี
เพราะกลัวว่าข่าวจะเล็ดลอดออกไปเลยได้แต่ปิดบังพวกเขา ทำให้มารดากับพี่สาวได้รับความตระหนกตกใจ รอเรื่องนี้จบลงพวกเขาสองสามีภรรยาย่อมมาคุกเข่าขอรับโทษ
ตอนนี้หลิ่วเหมียนถังเอาเบาะรองที่พันรอบหน้าท้องออก ขนาดหน้าท้องเหลือเพียงประมาณฝาหม้อพอดิบพอดี ดูแล้วไม่ได้น่าตื่นตาตกใจเพียงนั้นอีก
ถึงแม้ในคืนนั้นฉู่ไท่เฟยจะตกใจจนขวัญหายไปสามส่วน แต่จะมีสิ่งใดเทียบกับความปลอดภัยของคนในจวนได้ หากถูกทำให้ตกใจหนึ่งครั้งสามารถกำจัดพวกคนคิดร้ายเหล่านั้นไปได้ ถ้าอย่างนั้นนางก็เต็มใจถูกทำให้ตกใจอีกครั้ง
และในคืนนั้นผู้ทำตัวลับๆ ล่อๆ ที่อยู่เรือนนอกของจวนอ๋องแสดงตัวกันออกมาไม่น้อย ตอนที่เมืองหลวงกำลังกวาดล้างปราบปราม เรือนนอกของจวนอ๋องเองก็จับตัวคนส่งออกไปเช่นกัน
รอขุนนางใหญ่ทุกคนถูกปล่อยตัวจากวังในที่สุด ฮูหยินหลายคนก็ทยอยกันมาเคาะห่วงประตูจวนอ๋องเองก่อน ล้วนมาเพื่อสืบข่าวเจตนารมณ์ของฮ่องเต้กันทั้งสิ้น
น่าเสียดายที่ชายาไหวหยางอ๋องยังไม่คลอด ด้วยกลัวว่าจะเหน็ดเหนื่อยจึงปฏิเสธไม่ต้อนรับแขกสักคน
เมื่อหลิ่วเหมียนถังเริ่มหาเวลาว่างได้ นางยังสละเวลาสืบข่าวเรื่องชายาสุยอ๋องไปรอบหนึ่ง แม้ภายในจวนสุยอ๋องจะมีคนชั่วช้า ทว่าชายาสุยอ๋องผู้นั้นค่อนข้างน่าเสียดายแล้ว อีกฝ่ายก็แค่แต่งให้กับคนผิด ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าเกิดอนาคตคนของจวนอ๋องถูกเนรเทศ หลิ่วเหมียนถังหวังว่านางจะพอยื่นมือออกไปช่วยเหลือชายาสุยอ๋องได้บ้าง
ตอนที่นางถามชุยสิงโจว ชุยสิงโจวกลับมองนางแล้วเอ่ย “ข้ารู้ว่าเจ้าสงสารนางที่เป็นคนอ่อนแอ เพราะข้าเคยทำลายชื่อเสียงของนางเลยรู้สึกติดค้างนาง แต่ว่ารังคว่ำแล้วไซร้ ไข่ก็ย่อมแตก หากเรื่องนี้ข้าเป็นคนตัดสินใจ ไม่ต้องให้เจ้าพูดข้าก็จะไว้ชีวิตนาง แต่…คืนที่สุยอ๋องถูกลงโทษ ตัวเขาเองปลดสายคาดเอวผูกคอตายไปแล้ว หลังชายาสุยอ๋องกับซื่อจื่อได้ยินข่าวสุยอ๋องเสียชีวิตก็กระโดดบ่อน้ำตายตามไปทันที คนที่ไม่อยู่แล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องห่วงใยอีก”
หลิ่วเหมียนถังได้ยินแล้วเบิกตากว้างอย่างห้ามไม่ได้ นางเอ่ยอย่างลังเล “สุยอ๋อง…ไม่คล้ายคนที่จะฆ่าตัวตาย ส่วนชายาสุยอ๋องก็ไม่น่ามีนิสัยแข็งกร้าวเช่นนี้นี่”
คิดถึงว่าตอนแรกสุยอ๋องไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนก็ออกบวชไว้ผม คอยสั่งสมกองกำลังมาโดยตลอด เป็นคนมีความมานะอดทนมากเพียงใด เหตุใดเพิ่งจะถูกจับได้ก็สิ้นหวังฆ่าตัวตายเสียแล้วเล่า