บทที่ 137
พูดตามตรงหลิ่วเหมียนถังไม่อยากไป
เรื่องอย่างการตัดสินใจแทนฮองเฮาไม่ใช่อะไรที่ภรรยาขุนนางอย่างนางสะดวกตัดสินใจจริงๆ
หากไปแล้ว ไม่ว่าสุดท้ายสือฮองเฮาจะตัดสินใจอย่างไร ก็คล้ายจะเป็นความคิดของนางทั้งสิ้น ความรับผิดชอบเช่นนี้นางไม่อยากรับไว้สักนิด
แต่ว่าสือฮองเฮาเรียกพบนางในช่วงเวลาเช่นนี้ นางก็ไม่อาจอ้างว่ารู้สึกร่างกายหนักอึ้งไม่สะดวกเข้าเฝ้า คำปฏิเสธเช่นนี้ดูชัดเจนเกินไป
ชุยสิงโจวกลับไม่ได้เป็นกังวลเท่านาง “คิดว่าฮองเฮาคงไม่ประสงค์ให้ขุนนางเก่าแก่เหล่านั้นพบไทฮองไทเฮา แต่ว่าก็ทรงไม่อยากแบกรับความรับผิดชอบเพียงลำพัง เลยตามตัวเจ้าไปช่วยแบ่งเบา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ยอมรับความผิดนี้ไปเถอะ ไปตามพระราชเสาวนีย์ จากนั้นอ้างว่าไม่สบายรีบกลับมาก็พอ ข้าจะไปกับเจ้า รอเจ้าอยู่นอกประตูวัง”
ในเมื่อตัดสินใจจะแบกรับความผิดนี้แล้ว หลิ่วเหมียนถังจึงเปลี่ยนชุดอย่างฉับไว จากนั้นขึ้นรถม้าไป
แต่ว่าบุตรในครรภ์ของหลิ่วเหมียนถังกลับช่วยตัดสินใจอย่างยอดเยี่ยมให้กับบิดามารดาที่เตรียมใจโชคร้ายไว้แล้ว
ตอนที่รถม้าแล่นโยกเยกตามถนนหินไปถึงหน้าประตูวัง หลิ่วเหมียนถังพลันครรภ์เดินขึ้นมา…
อาจเพราะถูกรถม้าโยกจนน้ำคร่ำแตก หลิ่วเหมียนถังรู้สึกว่าท่อนล่างของตนเองร้อนผ่าว บนรถม้าเริ่มเปียกชุ่มเป็นวงกว้าง
บรรดาขันทีที่มารอรับหน้าประตูวังล้วนแตกตื่น รีบวิ่งจ้าละหวั่นกันเข้าไปตามตัวหมอหลวงมาทำคลอด
ผลปรากฏว่าระหว่างที่หมอหลวงผู้นั้นวิ่งจนหมวกหลุด ยังไม่ทันไปถึงหน้าประตูวัง ไหวซังเซี่ยนจู่ก็คลอดเรียบร้อยแล้ว! เสียงร้องไห้ในรถม้านั้นดังสะเทือนฟ้าดิน
ช่วงเวลาทั้งหมดไม่ถึงเวลาหนึ่งกาน้ำชาด้วยซ้ำ
ทำเอาขันทีที่อยู่ข้างนอกรถม้าร้อนใจจนมือสั่น “โอ๊ย ให้ตายเถิด พระชายาท่านอดกลั้นสักหน่อย ไฉนเลยจะมีอย่างท่าน บอกจะคลอดก็คลอดเลย!”
ก่อนหน้านี้ชุยสิงโจวเองก็เคยจินตนาการถึงความทรมานตอนที่หลิ่วเหมียนถังคลอดเช่นกัน แต่ไม่คิดเลยว่านางจะคลอดออกมาได้รวดเร็วเพียงนี้!
ตัวหลิ่วเหมียนถังเองก็โง่งมไปหมดแล้ว ความเจ็บปานขาดใจที่พูดถึงกันเล่า เหตุใดรู้สึกเพียงว่าท้องโล่งสบายขึ้น ทารกก็มุดออกมาทั้งอย่างนี้แล้ว?
สุดท้ายหลังหมอหลวงจัดการกับรกเด็กอย่างง่ายๆ และเมื่อชุยสิงโจวกับคนเฝ้ารถม้าใช้ผ้าห่มปุยฝ้ายมาปิดช่องหน้าต่างกับประตูรถม้าทั้งหมดเสร็จก็บังคับรถม้าแบบไม่ให้ลมเล็ดลอดเข้ามาตรงยาวไปถึงเรือนของหลิ่วเหมียนถัง หลิ่วเหมียนถังถึงได้อุ้มทารกลงจากรถม้าเข้าห้องไปอยู่เดือนเหมือนคนไม่มีเรื่องอะไร
ฉู่ไท่เฟยได้ยินข่าวว่าหลิ่วเหมียนถังคลอดบุตรที่หน้าประตูวังก็รีบเร่งเดินทางมาภายใต้การประคองของสาวใช้ ก่อนถามชุยสิงโจว “คลอดออกมาเป็นบุตรชายหรือบุตรสาว”
ผลปรากฏว่าไหวหยางอ๋องนิ่งอึ้งไปอย่างหาได้ยาก เมื่อครู่นี้เขายุ่งจนหัวหมุน สนใจแต่ถามว่าหลิ่วเหมียนถังสบายดีหรือไม่ เพียงชำเลืองมองก้อนเนื้อน้อยๆ ตัวเปียกปอนที่อยู่ในเสื้อคลุมของหลิ่วเหมียนถังอย่างรีบร้อน ไม่ได้สนใจโดยสิ้นเชิงว่าทารกเป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง
ฉู่ไท่เฟยทนมองสภาพโง่งมไม่พูดไม่จาของบุตรชายไม่ไหว นางผลักอีกฝ่ายให้หลบออกแล้วเดินตรงเข้าไปในห้อง