บทที่ 142
ต่อหน้าผู้อื่นกัวอี้ก็นับว่าสุภาพอ่อนน้อม แต่ยังคงถูกคำพูดไม่กี่คำของหลี่กวงไฉยั่วยุจนโทสะขึ้นหัว
สุดท้ายไม่มีเวลาไปสนใจความสุภาพอีก ใต้เท้ากัวก้าวปราดเข้าไปกระชากคอเสื้อของหลี่กวงไฉ
ยามบัณฑิตวิวาทกัน ความจริงไม่ต่างอะไรกับชาวนาชนบท ล้วนกระชากคอเสื้อหยิกหู ต่อยหมัดใส่กัน
เพราะกัวอี้พาบ่าวรับใช้เพียงคนเดียวมาหาชุยฝู ดังนั้นพอทั้งสองคนกลิ้งโรมรันพันตูกันบนพื้น บ่าวชายก็รีบไปเรียกคนมาทันที
รอคนของจวนชิ่งกั๋วกงรีบร้อนวิ่งมาช่วยเหลือ ทางชุยสิงโจวเองก็นำคนมาแล้วเช่นกัน
หลิ่วเหมียนถังนำมาหน้าสุด ตาแหลมเห็นว่าใต้เท้าหลี่กวงไฉทะเลาะวิวาทได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว กำลังขี่อยู่บนตัวกัวอี้พลางระดมหมัดใส่หน้าอีกฝ่าย
ในเมื่อใต้เท้าหลี่ไม่ได้ตกเป็นรอง หลิ่วเหมียนถังก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนห้ามทัพ
เมื่อเห็นบรรดาบ่าวรับใช้ของจวนชิ่งกั๋วกงกำลังจะกรูกันเข้าไป นางก็ส่งสายตาให้ฟั่นหู่ที่อยู่ด้านข้างทันควัน
ฟั่นหู่รู้ว่าชายาอ๋องบ้านตนเองเป็นพวกไม่กลัวเรื่องใหญ่ เขานำคนเดินเข้าไปขวางบ่าวรับใช้เหล่านั้นไว้ ปากยังพูดว่า “ใต้เท้าสองท่านกำลัง ‘ปรึกษาหารือกัน’ บ่าวรับใช้อย่างพวกเราอย่าได้เข้าไปยุ่งดีกว่า…”
ฮูหยินชิ่งกั๋วกงกำลังถูกอวี้เหราอนุของบุตรชายช่วยประคอง พอเห็นฟั่นหู่มาขวางก็โมโหจนขยี้เท้าก่อนเอ่ย “จวนพวกเจ้าใช้หมัดปรึกษากันหรือไร บุตรชายข้าถูกต่อยจนแทบหมดลมแล้ว ยังไม่รีบเข้าไปช่วยเขาอีก”
หลังใต้เท้าหลี่กวงไฉระบายโทสะออกไปเต็มที่ บรรดาบ่าวรับใช้จวนชิ่งกั๋วกงถึงแยกตัวหลี่กวงไฉออก ช่วยพยุงคุณชายของพวกเขาขึ้นมาได้ในที่สุด
กัวอี้ถูกต่อยจนเลือดกำเดาไหล ทว่ายังคงไม่ยอมแพ้ ชี้หน้าหลี่กวงไฉเอ่ย “นั่นเป็นมารดาของบุตรชายข้า ไฉนเลยจำเป็นต้องให้เจ้าล้อมหน้าล้อมหลัง ทั้งยังมาชมดอกไม้ด้วยกัน ช่างผิดขนบจารีตนัก!”
หลี่กวงไฉปัดฝุ่นบนตัวออก เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “คุณหนูชุยเป็นคู่หมั้นของข้า การเดินทางครั้งนี้มีไหวหยางอ๋องกับพระชายามาด้วย ร่วมชมดอกเหมยในสวนดอกเหมยที่เปิดกว้าง ผิดต่อกฎหมายข้อใดกัน”
ทุกคนล้วนตื่นตกใจกับประโยคนี้ ชุยฝูหมั้นหมายตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดไม่มีใครรู้
หลิ่วเหมียนถังชำเลืองมองชุยฝูอย่างรวดเร็ว พบว่านางเองก็มีสีหน้าตกใจ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ว่าตนเองหมั้นหมายไปตอนใด
ทว่าริมฝีปากนางขยับอ้าแล้วกลับไม่ได้ปฏิเสธ เพราะวันนี้นางมาชมดอกเหมยกับหลี่กวงไฉ หากใคร่ครวญให้ดีก็มีส่วนที่ไม่เหมาะสมกับจารีตจริงๆ แต่ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ผิดขนบอะไร
แต่เพราะกัวอี้อ้าปากก็แต่งเรื่องว่านางกับหลี่กวงไฉลักลอบนัดพบกัน เมื่อครู่ยังเป็นฝ่ายลงมือก่อน ชักนำให้มีคนมากมายมามุงดู ต่อให้มีปากงอกออกมาเต็มตัวก็อธิบายได้ไม่ชัดแล้ว
ขณะนี้หลี่กวงไฉบอกว่านางกับเขาหมั้นหมายกัน ถ้าอย่างนั้นก่อนแต่งงานมาร่วมชมดอกเหมยด้วยกันก็นับว่ามีเหตุมีผล ให้คนหาข้อตำหนิใดไม่ได้
หากนางปฏิเสธตอนนี้ สตรีที่หย่าแล้วผู้หนึ่งทำให้สามีเก่าทะเลาะวิวาทกับบุรุษที่ไม่เกี่ยวข้องอีกคน ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าฟัง!
ด้วยเหตุนี้แม้ชุยฝูจะไม่พอใจที่หลี่กวงไฉพูดจาส่งเดช ทว่านางได้แต่ยอมรับอย่างเงียบๆ
หลิ่วเหมียนถังที่อยู่ด้านข้างเองก็กระจ่างขึ้นมาว่าใต้เท้าหลี่พกพาความมั่นอกมั่นใจเช่นนี้มาจากที่ใด นางกระซิบเอ่ยกับชุยสิงโจว “สมแล้วที่เป็นสหายร่วมรุ่นของท่าน พฤติกรรมเหมือนกันไม่มีผิด หลอกหาภรรยาให้ตนเองเช่นนี้ ไม่มีจุดจบที่ดีแน่!”
ความจริงชุยสิงโจวก็ไม่พอใจที่พี่สาวตนเองถูกผู้อื่นเอาตัวไปอย่างไม่เหมาะสมทั้งอย่างนี้