นิยายอินไซต์ With Love & ความรู้สึกดีที่เรียกว่ารัก
‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ โดย ‘ราตรีนิมิต’ เมื่อหัวใจเคยที่เต็มไปด้วยความรัก แปรเปลี่ยนเป็นความแค้นเคือง และการกลับมาพบกันอีกครั้งของเขาและเธอ
สำหรับความรักแล้ว บางครั้งเราก็ไม่อาจกำหนดได้ว่าที่สุดปลายทางนั้นเราจะได้พบกับความสุขสมหวัง เคียงคู่กับคนรักไปจนแก่เฒ่า หรือต้องพบเจอกับความผิดหวังและการจากลา ทว่าในช่วงยามที่ความรักผลิบาน คนส่วนใหญ่มักจะทุ่มเทความรักของตนให้กับอีกอีกฝ่ายจนหมดหัวใจ ไม่เผื่อเหลือไว้สำหรับวันที่รักอาจสิ้นสุดลง
‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ ผลงานของ ‘ราตรีนิมิต’ นิยายเรื่องใหม่จากแบรนด์ With Love จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเรื่องราวความรัก ความอบอุ่น ความสุข ความเศร้า ความเหงา ความเจ็บปวด และความแค้น ผ่านนิยายรักโรแมนติก-ดราม่าที่เต็มอิ่มครบทุกอารมณ์ก่อนหนังสือเรื่องนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ถ้าพร้อมแล้วแจ่มขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับนิยายเรื่องนี้กันเลยดีกว่าค่ะ
ทดลองอ่านคลิกที่นี่
ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า เล่าเรื่องราวของ ‘มาลาริน บุษบัน’ หญิงสาวผู้เติบโตที่เมืองไทยก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยฐานะของครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยมากนักเธอจึงต้องทำงานไปเรียนไป ‘มาลาริน’ ทำงานเป็นบาริสต้าในคาเฟ่ใกล้กับมหาวิทยาลัยในช่วงเช้า พอตกเย็นก็จะไปทำงานที่ร้านอาหารไทย
ชีวิตการทำงานของมาลารินไม่ได้ราบรื่นนัก แต่จุดตกต่ำที่สุดก็คงเป็นในวันที่ชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามารับประทานอาหารในร้านที่เธอทำงานอยู่ มาลารินจำได้ดีว่าหญิงสาวคนนี้คือ ‘เกวรา’ เธอเป็นแฟนเก่าของ ‘ประณต’ เจ้าของคาเฟ่ที่เธอทำงานอยู่ เกวราเลือกสั่งผัดไทยเป็นอาหารจานหลัก ทุกอย่างก็ดูจะดำเนินไปด้วยดี ทว่าหลังเกวราได้รับอาหารจู่ๆ หญิงสาวก็ร้องโวยวายกล่าวโทษว่ามาลารินจดออเดอร์พลาด เกวราอ้างว่าเธอแพ้กุ้งและสั่งให้เอากุ้งออกแล้ว ด้านมาลารินเองก็ตอบกลับไปด้วยความซื่อตรงว่าทางลูกค้าไม่ได้แจ้งก่อน กลายเป็นการปะทะคารมระหว่างมาลาริน เกวรา และเจ้าของร้านอาหาร ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่การตัดสินใจลาออกของมาลารินในวันนั้น
หลังมาลารินลาออกจากงานที่ร้านอาหารก็มีเรื่องกับรูมเมทอีกจนทำให้เธอต้องย้ายออกจากห้องมาอาศัยอยู่ที่ห้องของเพื่อนสนิทแทน และในวันที่ไปทำงาน ณ ร้านกาแฟ มาลารินได้พูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ‘ประณต’ เจ้าของร้านกาแฟผู้เป็นเจ้านายที่แสนดีของเธอ เขาแนะนำให้มาลารินมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลหลานชายของเขาซึ่งเป็นนักศึกษาที่มาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ พอได้ฟังรายละเอียดรวมถึงค่าจ้างมาลารินก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเล เพราะไม่ง่ายนักที่จะหางานที่มีรายได้ดี มีที่พักฟรี อีกทั้งเธอยังสามารถเรียนไปด้วยได้ ซึ่งการตอบตกลงทำงานนี้ ‘มาลาริน’ ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าจะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
หลังจากตกลงรายละเอียดการจ้างงานเรียบร้อย มาลารินก็ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของผู้จ้าง เธอเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันกับ ‘กวิน ตันติณรงค์’ นักศึกษาชายผู้เป็นหลานของประณต และยังเป็นคนเดียวกันกับชายหนุ่มที่เป็นคู่ควงของเกวราที่เธอพบในร้านอาหารวันนั้น การดูแลชายหนุ่มผู้มีลักษณะนิสัยเป็นคนปากร้าย เอาแต่ใจ และมีปมบางอย่างในหัวใจอย่างกวินไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่ามาลารินก็คอยดูแลเอาใจใส่เขาจนทำให้กวินสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดี ความห่วงใย และความอบอุ่นอย่างที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน
สาเหตุที่กวินตัดสินใจมาเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียนั้น นอกจากจะเป็นเพราะพ่อของเขาต้องการแล้ว ตัวกวินเองยังต้องการตามหาแม่ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียอีกด้วย แม่ของชายหนุ่มนำเขามาให้พ่อเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กและไม่ติดต่อเขาอีกเลย สิ่งที่แม่ทำกับกวินได้กลายเป็นคำถามที่ค้างคาใจว่าเขาทำอะไรผิดแม่ถึงทิ้งเขาไว้กับพ่อที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนในชีวิต และการกระทำของแม่ได้ทิ้งรอยแผลไว้ใจของกวินนับตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้เขากลายเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจ
ทว่าความจริงใจ ความใกล้ชิด และความเอาใจใส่ของมาลารินกลับทำให้กวินกลายเป็นคนที่อ่อนโยนมากขึ้น นอกจากเธอจะช่วยดูแลเขาแล้วมาลารินก็ยังช่วยเขาตามหาแม่อีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขาได้พบกับคำตอบที่ตามหามาตลอด และในช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอก็มีมาลารินที่อยู่เคียงข้างและคอยปลอบโยน ความใกล้ชิด ความอบอุ่น หยั่งรากลึกจนกลายเป็นความรักลึกล้ำเสียจนยากจะแยกจากกันได้
“สัญญาได้มั้ย” เขากระซิบเสียงสั่น “อยู่กับฉันตลอดไป สัญญาได้มั้ย”
หญิงสาวไม่ได้ตอบในทันที เธอจ้องเขา พินิจมองร่องรอยแตกสลายในแววตาซึ่งสร้างแรงถ่วงรั้งกลางอกอย่างหนักหน่วง ก่อนขยับใกล้ขึ้นอีก คราวนี้ใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบน้ำตา พร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานที่มาพร้อมห้วงอารมณ์อ่อนไหว
“ฉันจะอยู่กับนายเอง”
แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มจากจูบแผ่วเบาตอนนั้น
...
แต่ก็คล้ายโชคชะตาเล่นตลกกับความรักของทั้งคู่ที่กำลังไปได้ดี หลังกวินกลับไปทำธุระของครอบครัวที่เมืองไทยไม่นาน มาลารินซึ่งอยู่เมลเบิร์นก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่บอกข่าวร้ายบางอย่าง ทำให้หญิงสาวจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยกระทันหันโดยไม่ทันได้บอกลาหรือติดต่อใคร และการกลับมาเมืองไทยครั้งนี้มาลารินไม่รู้เลยว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสกลับไปพบกับกวิน คนรักของเธออีก ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะบอกลาเขา…
เวลาผ่านไปสิบปี โชคชะตาถึงได้นำพาให้มาลารินและกวินกลับมาพบกันอีกครั้งที่ประเทศไทยโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่คาดคิด และสิ่งที่ทำให้กวินต้องเจ็บช้ำมากยิ่งไปกว่าเดิมนั่นคือการที่ข้างกายของมาลารินมีเด็กชายคนหนึ่งอยู่เคียงข้าง ตัวตนของเด็กชายคนนี้สร้างความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวใจให้กับกวินอย่างมาก เมื่อคิดว่าในขณะที่เขาต้องทุกข์ทรมานอยู่ลำพัง มาลารินกลับก้าวเดินไปข้างหน้านานแล้ว ทั้งหมดจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสางความรู้สึกที่ค้างคาใจระหว่างเขาและเธอ
พันธนาการแน่นระหว่างความเคียดแค้นกับความเจ็บปวดจนไม่รู้ว่าชีวิตหนึ่งของคนเราจะเจ็บไปได้มากกว่านี้อีกหรือไม่กระหวัดพันหัวใจ ผลักดันให้กวินเผลอบีบแขนของเธอจนแทบจะหักคามือ เป็นเหตุให้มาลารินต้องค่อยๆ มุ่นคิ้วด้วยปวดปลาบ
“พี่วิน! ทำอะไรน่ะ”
กีรติเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างรีบพุ่งเข้าไปห้ามอีกครั้ง เขาผลักเจ้าของร่างสูงออก พาตัวเองยืนกั้นกลางเพื่อสลับมองทั้งสองด้วยความสงสัยอัดแน่นและไม่อาจทนให้ผู้เป็นพี่ชายแสดงอาการเกรี้ยวกราดใส่ผู้หญิงที่ตนหลงรักอีกต่อไป...นี่มันไม่ถูกต้อง ไม่เลยสักนิด
“แกรู้อยู่แล้วหรอว่าผู้หญิงคนนี้มีลูก”
ร่างสูงไม่ได้ดันทุรังก้าวเข้าไปทำท่าคุกคามใดๆ อีก เขาเบือนความสนใจมาตะคอกใส่น้องชายราวจะระบายโทสะใส่ไปด้วยอีกคน แววตาคู่คมปรากฏรอยเย้ยหยันกึ่งจะคาดคั้น
...
“เธอทำได้ยังไง”
ชายหนุ่มกระซิบแผ่วโดยไม่รู้ตัว ในชั่วแวบหนึ่งคล้ายจะกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นในบ้านที่มีต้นแม็กโนเลียบานสะพรั่งหลังนั้น...
“...เธอทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง...”
มาลารินนิ่งงันก่อนจะกระพริบประกายบางอย่างแวบสั้นๆ เป็นครั้งแรก แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อร่างสูงของกวินพลันเซถอยด้วยแรงผลักแบบทุ่มสุดตัวจากเด็กชายศรัณย์ที่อยู่ในชุดเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ได้กางแขนปกป้องเธอไว้ด้วยใบหน้าถมึงทึง
“อย่าทำแม่นะ! อย่าทำ อย่าทำแม่ลีของผม!” เมื่อเห็นว่าคำตอบที่ได้รับกลับมามีเพียงความเงียบ เด็กน้อยก็ทั้งผลักทั้งตีจนร่างสูงต้องถอยร่นจนติดประตู ท่าทางสู้ตายราวได้รับมรดกมาจากมารดาในอดีตไม่ผิดเพี้ยน “ออกไปเลยนะ ผู้ใหญ่ใจร้าย ออกไปเลย”
ฝนยังคงสาดลงมาไม่ขาดสายตอนที่กวินถูกดันออกจากร้านกาแฟ และทั้งหมดที่เขาทำคือยืนอยู่เช่นนั้น นิ่ง เนิ่นนาน เพื่อใช้ดวงตาสีเทาจับจ้องเจ้าของร่างระหงด้านในอย่างเงียบงัน ท่ามกลางเงาม่านสลัวสีหม่นกับตะกอนร้อยพันสับสน ดั่งคั่งแค้นที่รังแต่จะเพิ่มขึ้นทุกการบีบอัดของหัวใจ
ไม่เป็นไร ชายหนุ่มกระซิบบอกตัวเอง หยาดหยดพรูพรมลงจนเริ่มเปียกชื้น
…ไม่เป็นไร เขาเจอเธอแล้ว ต่อไปนี้ผู้หญิงคนนั้นจะหนีเขาไปไหนไม่ได้อีกแล้ว!
...
‘ศรันย์’ เด็กชายตัวเล็กที่อยู่เคียงข้างมาลารินกลายเป็นหนามที่ทิ่มแทงใจของกวินอย่างรุนแรง คำถามมากมายที่เคยกักเก็บไว้นับสิบปีปะทุขึ้นมา เขาอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงหายตัวไปไม่แม้จะไม่ติดต่อมาหาเขาสักครั้ง ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไปตอนไหน เขาทำอะไรผิดพลาดไป และที่สำคัญที่สุด…ศรันย์คือลูกของใคร
ความรักได้สร้างรอยแผลเอาไว้ในหัวใจของชายหนุ่ม ความเจ็บปวดได้แปรเปลี่ยนเป็นความแค้นเคือง สิบปีที่เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะสะสางเรื่องราวทุกอย่างในอดีตระหว่างเขาและเธอ ทว่าเมื่อความลับบางอย่างถูกเปิดเผย ชายหนุ่มจะสามารถให้อภัยหญิงสาวที่เขาเคยรักสุดหัวใจได้หรือไม่ และหัวใจที่เต็มไปด้วยแค้นเคืองจะถูกเติมเต็มด้วยความรักและความเข้าใจกันอีกครั้งได้ไหม ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า คือนิยายที่จะพาเพื่อนๆ ไปร่วมลุ้นกับเรื่องราวความรักหลากหลายอารมณ์ตั้งแต่ต้นไปจนจบ นับได้ว่าเป็นนิยายรักโรแมนติก-ดราม่าที่ลงท้ายด้วยความหวานและซาบซึ้งซึ่งที่เพื่อนๆ ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งเรื่อง
ทดลองอ่านคลิกที่นี่
เพื่อนๆ สามารถเป็นเจ้าของนิยายเรื่อง ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า ฉบับเล่มได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไปผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
• ช้อปออนไลน์กับ Jamsai Store : คลิกที่นี่
• ช้อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช้อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
• ช้อปที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ