บทที่ 341
เฉียวเจาได้ยินเหอซื่อพูดดังนั้นก็ขานรับทันใด “เจ้าค่ะ”
เหอซื่ออึ้งไปนานครู่หนึ่ง บุตรสาวเชื่อฟังถึงเพียงนี้ นางไม่เคยชินเอาเสียเลย
รอหลังจากเหอซื่อออกไป เฉียวเจาหลับตาพักผ่อนเล็กน้อยถึงเอ่ยสั่งอาจู “ปรนนิบัติข้าผลัดชุดเถอะ”
อาจูหยิบเสื้อผ้าสำหรับสวมออกนอกเรือนมาเงียบๆ
เฉียวเจามองนางด้วยสายตาชมเชย “อาจู เจ้าเข้าใจผู้อื่นดี”
อาจูปรนนิบัตินางผลัดอาภรณ์พลางพูดเสียงเบา “ความจริงข้าเป็นห่วงสุขภาพของคุณหนูมาก แต่ข้ารู้ว่าท่านต้องไปแน่ แค่หวังว่าท่านอย่าลืมดูแลตนเองด้วยเจ้าค่ะ”
“วางใจเถอะ เรื่องในเรือนยังต้องให้เจ้าดูแลจัดการ ถ้าเกิดพวกนายหญิงมาหาข้า ก็บอกว่าข้าหลับไปแล้ว”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
จวบจนเฉียวเจาเตรียมตัวพร้อมสรรพและบอกกับปิงลวี่ว่าจะออกจากเรือน สาวใช้น้อยปิดปากด้วยความตกใจ “คุณหนู ท่านป่วยอยู่ยังจะไปจวนกวนจวินโหวอีกหรือเจ้าคะ”
“อย่ามัวชักช้าเสียเวลา ไปกันเถอะ”
นายบ่าวสองคนแอบออกไปเงียบๆ นั่งรถม้ามุ่งหน้าตรงไปยังจวนกวนจวินโหว
เซ่าหมิงยวนกับเฉียวโม่ดื่มน้ำชาอยู่ใต้ต้นไม้ในลานเรือนด้วยกัน สายตาของทั้งคู่ตวัดมองประตูลานเรือนเป็นระยะ
เฉียวเจามาสายทำให้ในใจพวกเขากระวนกระวายอยู่บ้าง
“พี่ใหญ่…”
“ว่าอย่างไร หว่านวาน?”
เฉียวหว่านทำปากยื่นอย่างน้อยใจ “พี่ใหญ่ ข้าเรียกท่านตั้งสองครั้งแล้วเจ้าค่ะ”
เฉียวโม่แย้มยิ้ม “ขอโทษด้วย เมื่อครู่พี่ใหญ่กำลังคิดเรื่องงานอยู่ หว่านวานมีอะไรหรือ”
“วันนี้พี่ใหญ่ไปดูขี่ม้าได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าขี่เองคนเดียวได้แล้วนะ”
เฉียวโม่ยกมือยีผมน้องสาว “หมู่นี้อากาศร้อนมาก รออีกสักระยะให้อากาศเย็นสบายขึ้นได้หรือไม่”
หมอเทวดาหลี่เคราะห์ร้ายจบชีวิตลง เขายังต้องหารือกับน้องสาวคนโตเรื่องสร้างสุสานหมวกกับอาภรณ์ให้ท่าน ไหนเลยจะมีแก่ใจเที่ยวเล่นกับน้องสาวคนเล็กเล่า
“ก็ได้เจ้าค่ะ” แม้ว่าเฉียวหว่านจะผิดหวังอยู่สักหน่อย แต่นางเชื่อฟังคำพูดของพี่ชายมาแต่ไหนแต่ไร จึงหันไปดึงแขนเสื้อของเซ่าหมิงยวนกล่าวว่า “เช่นนั้นพี่เขยไปเป็นเพื่อนข้านะเจ้าคะ หว่านวานอยากให้พี่เขยดูว่าข้าขี่ม้าเป็นอย่างไรบ้าง”
เฉียวโม่ขมวดคิ้ว “หว่านวาน อย่ากวนใจพี่เขยของเจ้า เขาก็มีงานเหมือนกัน”
“พี่เขยมีงานอะไรหรือเจ้าคะ”
“พี่เขยกำลังรอคุณหนูหลีมาหารือเรื่องงาน หว่านวานไปเล่นก่อนเถอะ รอดวงอาทิตย์ตกดินแล้วพี่เขยไปขี่ม้ารอบหนึ่งกับเจ้าที่ลานฝึกยุทธ์” เซ่าหมิงยวนบอก
“ก็ได้เจ้าค่ะ” เฉียวหว่านเดินหน้าม่อยคอตกออกไป ระหว่างทางพบกับเฉียวเจาที่ตามองครักษ์เข้ามา
“หว่านวาน…” เฉียวเจาร้องเรียกคำหนึ่ง
เฉียวหว่านเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเจา เอ่ยทักทายว่า “พี่หลี” อย่างกะบึงกะบอนแล้วแม่นางน้อยก็ทำปากยื่นเดินจากไป
“ท่านแม่ทัพ คุณหนูหลีมาแล้วขอรับ” องครักษ์ยืนรายงานอยู่ตรงประตูลานเรือน
เซ่าหมิงยวนกับเฉียวโม่ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
เฉียวเจาทำมือบอกให้ปิงลวี่ไปพักผ่อนตามสบาย จากนั้นย่างเท้าไปหาพวกเขา “พี่ใหญ่ แม่ทัพเซ่า เมื่อคืนข้านอนหลับไม่สนิทเลยตื่นสายเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไร คุณหนูหลีสมควรพักผ่อนให้มากๆ”
“ถ้าอย่างนั้นข้าไปฝังเข็มให้แม่ทัพเซ่าก่อนดีกว่า” อันว่าหมอรักษาตนเองไม่ได้ อาการป่วยหนนี้ของนางเกิดจากเศร้าเสียใจเกินไป สิ่งสำคัญมิใช่กินยา แต่เป็นผ่อนคลายจิตใจและพักผ่อนให้เต็มที่ กระนั้นความรู้สึกโศกเศร้าระทมใจสามารถบรรเทาลงได้ในเวลาอันสั้นหรือ นางก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อไรจะทานทนไม่ไหว ดังนั้นทำเรื่องสำคัญให้เสร็จก่อนค่อยว่ากันถึงเรื่องอื่น
ภายในห้องเงียบเชียบ เด็กสาวฝังเข็มเงินลงตรงตามตำแหน่งอย่างแม่นยำทีละเล่มด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง ดูท่าทางไม่ผิดปกติใดๆ ทว่าไอร้อนที่แผ่ซ่านมาตามปลายนิ้วทำให้เซ่าหมิงยวนเป็นห่วง