“ใช่ นางนั่นเองเพคะ”
“นี่เกี่ยวอะไรกับคุณหนูสามสกุลหลีผู้นี้”
“เจินเจินไม่ได้ทูลพระองค์หรือเพคะ ใบหน้านางแย่ลงเพราะยาของหลีซาน!”
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือนี่ คุณหนูเจียงเล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียดที” ลี่ผินทำหน้าขรึมลงทันใด
นางต้องเกรงอกเกรงใจบุตรสาวของเจียงถังผู้บัญชาการกององครักษ์จินหลิน หรือว่าบุตรสาวของอาลักษณ์เล็กๆ ในสำนักราชบัณฑิตผู้หนึ่งยังต้องเกรงใจอีก
“หมอเทวดาหลี่เป็นท่านปู่บุญธรรมของหลีซาน นางก็แอบอ้างชื่อของหมอเทวดาหลี่โอ้อวดหลอกลวง หม่อมฉันไปขอยาให้เจินเจิน นางให้ยามากล่องหนึ่ง บอกว่าหมอเทวดาหลี่ปรุงขึ้น ผลปรากฏว่าเจินเจินใช้แล้วนอกจากใบหน้าไม่ดีขึ้นยังอาการแย่ลง ทีแรกหม่อมฉันจะไปคิดบัญชีกับนาง แต่เจินเจินไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ถึงไม่ถือสาหาความกับนางเพคะ”
“ไร้เหตุผลสิ้นดีจริงๆ” ลี่ผินตบเท้าแขนเก้าอี้ทีหนึ่งสุดแรงด้วยความโมโห
หลังจากหมอหลวงตรวจอาการเสร็จ องค์หญิงเจินเจินลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นลี่ผินกับเจียงซือหร่านสองคน นางเบือนหน้าไปทางอื่น ปล่อยน้ำตาไหลพรากลงมา
“เจินเจิน เจ้าอย่าร้องไห้นะ” ลี่ผินปวดใจสุดจะกล่าว ล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาให้นาง
“ไม่ต้องสนพระทัยหม่อมฉัน หม่อมฉันเป็นเช่นนี้มีชีวิตอยู่ก็ไร้ความหมายเพคะ”
ลี่ผินได้ยินคำพูดนี้แล้วตกใจแทบตาย นางจับมือพระธิดาไว้แน่นๆ พลางกล่าว “เจินเจิน เสด็จแม่มีเจ้าเป็นบุตรสาวคนเดียว เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจ เจ้าอย่าท้อใจ ถึงอย่างไรก็ต้องมีวิธี”
องค์หญิงเจินเจินส่ายหน้าอย่างท้อแท้สิ้นหวัง “หมอที่เคยมาตรวจอาการมีตั้งมากมายหลายคนอย่างนั้น หมดหนทางแล้วเพคะ”
“ยังมีหมอเทวดาหลี่นะ องค์ไทเฮาตรัสเองกับพระโอษฐ์มิใช่หรือ หมอเทวดาท่านนั้นรักษาคนป่วยร่อแร่ใกล้ตายได้ ทรงส่งคนไปสืบข่าวของเขาแล้ว”
“หมอเทวดาหลี่สิ้นชีวิตแล้วเพคะ” องค์หญิงเจินเจินกล่าวอย่างหมดอาลัยตายอยากจบก็พลิกตัวไปนอนนิ่งๆ ไม่ขยับ
ลี่ผินตกอกตกใจ อดมองไปทางเจียงซือหร่านไม่ได้
เจียงซือหร่านกัดริมฝีปากพยักหน้า “ท่านพ่อของหม่อมฉันเพิ่งได้ข่าวเพคะ”
ลี่ผินเพียงรู้สึกหน้ามืดวูบหนึ่ง นางรีบเกาะเท้าแขนเก้าอี้ไว้ ผ่อนลมหายใจชั่วครู่ใหญ่ถึงเอ่ยขึ้น “เจินเจิน อันว่าสวรรค์ย่อมไม่ตัดหนทางคน เจ้าเป็นองค์หญิงของราชวงศ์ ข้าไม่เชื่อว่าทั่วทั้งใต้หล้านี้จะหาหมอที่รักษาโรคให้เจ้าไม่พบสักคน”
นางลุกขึ้นยืน “ฟางหลัน ดูแลองค์หญิงให้ดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิง จะเอาโทษเจ้าผู้เดียว”
ฟางหลันรีบรับคำทันที
ลี่ผินส่งสายตาบอกเจียงซือหร่าน
แม้นนางเป็นคนตรงไปตรงมาไร้เล่ห์เหลี่ยม แต่ก็เข้าใจว่าเวลานี้จะทำให้สหายรักสะเทือนใจอีกไม่ได้ นางลุกขึ้นเดินตามลี่ผินออกไป
“คุณหนูเจียงตามข้าไปเข้าเฝ้าไทเฮาด้วยกันได้หรือไม่ หลีซานผู้นั้นกระหน่ำซ้ำเติมทำร้ายองค์หญิง จะให้แล้วกันไปเท่านี้ไม่ได้”
หากหมอเทวดาหลี่ยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ไทเฮาต้องให้เกียรติหลานสาวบุญธรรมของเขาเป็นแน่ นางคงไม่มีทางเสนอหน้าไปเพ็ดทูลอย่างไม่รู้กาลเทศะ แต่บัดนี้หมอเทวดาหลี่สิ้นชีพแล้ว นางไม่อาจปล่อยให้บุตรสาวต้องทนทุกข์ทรมานเปล่าๆ ปลี้ๆ!
“ได้เพคะ หม่อมฉันจะไปพร้อมกับพระองค์” เจียงซือหร่านครุ่นคิดเล็กน้อยก็ตอบตกลง
ท่านพ่อโดนหลีซานวางยาเสน่ห์อะไรก็สุดรู้ ทั้งที่อีกฝ่ายทำเรื่องชั่วร้ายตั้งมากมาย ซ้ำยังเคยตบหน้านางทีหนึ่งกลับไม่ยอมให้นางระบายความแค้น มันน่าอัดอั้นตันใจแทบคลั่งดีแท้ ตอนนี้ได้ทีแล้ว ลี่ผินเป็นคนที่จะเอาเรื่องกับหลีซาน มิใช่นางที่ไม่เชื่อฟัง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 20 ส.ค. 65 เวลา 12.00 น.