บทที่ 588
เซ่าหมิงยวนตบแขนนางเบาๆ “ไม่ต้องเป็นห่วง มีข้าอยู่ทั้งคน”
“อื้อ” เฉียวเจาพยักหน้า นางออกเดินไปหลายก้าวแล้วไต่ถามเฉินกวง “ใครดึงพี่สาวของข้าขึ้นมาหรือ”
ฉือชั่น จูเยี่ยน…
หวังว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ไม่เช่นนั้นคงน่ากระอักกระอ่วนใจจริงๆ
มาถึงเวลานี้แล้วเฉียวเจาไม่อาจไม่ยอมรับว่าถึงแม้ยามปิดประตูอยู่ในเรือนนางกับหลีเจี่ยวจะเป็นอย่างไร แต่ในสายตาคนภายนอกพวกนางคือพี่น้องตระกูลเดียวกัน พอเกิดเรื่องขึ้นกับหลีเจี่ยว สิ่งที่คนอื่นนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือมาบอกนาง
“ตอนพวกคุณชายฉือเห็นข้าก็เรียกให้มาเชิญท่านกับท่านแม่ทัพทันที ส่วนว่าใครดึงคุณหนูใหญ่สกุลหลีขึ้นมานั้น ขณะนี้ยังไม่แจ่มแจ้งขอรับ”
เฉียวเจาได้ยินดังนั้นก็อดเร่งฝีเท้าขึ้นไม่ได้
แสงไฟริมทะเลสาบปี้ปอสว่างไสว โคมดอกบัวเปล่งแสงพร่างพรายอยู่ทั่วผืนน้ำประหนึ่งสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน ส่วนเรือนตึกงามวิจิตรที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลสาบคือที่อยู่ของเหล่าชาวสวรรค์
เฉียวเจาก้าวขึ้นบันไดไปก็ได้ยินเสียงร่ำไห้ดังแว่วๆ นางจึงชะงักฝีเท้าเล็กน้อย จากนั้นเดินตรงเข้าสู่ลานโถง
ในนั้นจูเยี่ยนยืนเอามือไพล่หลัง ขณะที่ฉือชั่นนั่งเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ตัวกว้างใหญ่อย่างเอื่อยเฉื่อย
พอเห็นเฉียวเจากับเซ่าหมิงยวนเดินเคียงคู่กันเข้ามา ฉือชั่นแย้มมุมปากเอ่ยเสียงเนือยๆ “พวกเจ้ามากันได้เสียที”
เฉียวเจามองไปทางจูเยี่ยน
เขากล่าวเสียงนุ่มขึ้นว่า “น้องเจ็ดกับญาติผู้น้องดูแลคุณหนูใหญ่อยู่ในห้องด้านข้าง คุณหนูหลีวางใจได้ ตอนเกิดเหตุดึงตัวคุณหนูใหญ่ขึ้นมาได้ทันกาลแล้วพามาที่นี่ คนที่เห็นนางตกน้ำกับตามีไม่มาก ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์พวกข้ากำชับเอาไว้แล้ว พวกเขาไม่เอาไปพูดจาส่งเดชแน่นอน”
เฉียวเจาย่อเข่าคารวะเขา “ขอบคุณพี่จูมากเจ้าค่ะ”
นางเคยบอกแต่แรกแล้วว่าพี่จูเป็นคนดีจริงๆ
ฉือชั่นได้ยินแล้วแค่นเสียงฮึ “จะขอบคุณจื่อเจ๋อคนเดียวหรือไร”
จูเยี่ยนโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจ “สือซี เจ้าอธิบายเรื่องที่ถีบคุณหนูใหญ่ตกน้ำให้คุณหนูหลีเข้าใจสักหน่อยจะดีกว่านะ”
เขาเป็นคนนอกย่อมไม่แจ่มแจ้งว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูหลีกับคุณหนูใหญ่สกุลหลีเป็นเช่นไร แต่อย่างไรก็เป็นพี่น้องตระกูลเดียวกัน ประเดี๋ยวกลับจวนไปหากคุณหนูใหญ่เล่าเรื่องนี้แล้วจะได้ไม่สร้างความเข้าใจผิดให้คุณหนูหลีโดยไม่จำเป็น
เฉียวเจาหรี่ตาลง “พี่ฉือถีบพี่สาวของข้าตกน้ำหรือเจ้าคะ”
ฉือชั่นเป็นเหมือนแมวถูกเหยียบหาง เขาลุกพรวดขึ้นแล้วพูดเสียงเยาะหยัน “ใครใช้ให้นางรนหาที่เองเล่า”
“สือซี พูดให้รู้เรื่องดีๆ สิ” เซ่าหมิงยวนยื่นมือไปจะวางบนไหล่เขา
ฉือชั่นถอยหลบ ในใจเขาคับแค้นอย่างบอกไม่ถูก
เจ้าคนผู้นี้พาหลีซานไปเดินเที่ยวตามประสาคู่รักอย่างสำราญใจจนลืมตัว แต่เขากลับแปดเปื้อนกลิ่นคาวฉาวโฉ่ไปทั้งตัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มิหนำซ้ำยังต้องอธิบายกับคนอื่นอีก
“ก็ไม่มีอะไรมาก ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ผู้นั้นตั้งใจหรือไร้เจตนา เดินสะดุดขาตนเองล้มถลามาหาข้า” คุณชายฉือเอ่ยถึงตรงนี้แล้วเลิกคิ้วสูงอย่างเอื่อยเฉื่อย “พวกเจ้าต่างรู้กันว่าข้าไม่ชมชอบให้สตรีเข้าใกล้มาแต่ไหนแต่ไร เลยยกขาถีบตามสัญชาตญาณ จากนั้นคุณหนูใหญ่ก็ตกลงไปในน้ำแล้ว”
“เป็นใครดึงตัวพี่ใหญ่ของข้าขึ้นมาหรือ” สายตาของเฉียวเจาจับไปที่ตัวจูเยี่ยนอย่างห้ามไม่อยู่
ด้วยอุปนิสัยของฉือชั่น หลังจากหลีเจี่ยวตกน้ำแล้วไม่ปาหินลงทะเลสาบอีกก็ถือว่าไม่เลวแล้ว หมายให้เขาดึงคนขึ้นมาไม่ต่างจากวาดวิมานกลางอากาศ
“เป็นน้องเจ็ดกับญาติผู้น้องของข้าช่วยกันดึงตัวคุณหนูใหญ่ขึ้นมา” จูเยี่ยนอ้าปากบอก
เฉียวเจาลอบโล่งใจเล็กน้อย