ทดลองอ่านหวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนนาน เล่ม 8 บทที่ 587-บทที่ 588 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่านหวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนนาน เล่ม 8 บทที่ 587-บทที่ 588

4 of 4หน้าถัดไป

ในเมื่อเป็นจูเหยียนกับตู้เฟยเสวี่ยดึงหลีเจี่ยวขึ้นจากน้ำ หลังกลับจวนแล้วก็ไม่มีปัญหายุ่งยากอะไรนอกจากทำให้พวกท่านย่าหวาดผวาตกใจกันบ้าง

แต่ครั้นสายตามองเห็นจูเยี่ยนทำท่าขมวดคิ้วน้อยๆ เฉียวเจาชักเอะใจจึงเอ่ยถามขึ้น “พี่จู ยังมีเรื่องอะไรอีกใช่หรือไม่”

จูเยี่ยนยิ้มอย่างฝืดเฝื่อน “มีเหตุการณ์เล็กๆ เกิดขึ้นระหว่างนั้นจริงๆ แม้ว่ามิใช่เรื่องใหญ่ แต่ศักดิ์ฐานะของฝ่ายนั้นไม่สามัญ…”

“จื่อเจ๋อ เจ้าพูดมาตรงๆ เถอะ” เซ่าหมิงยวนเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

จูเยี่ยนมองไปทางเขาแล้วหัวคิ้วที่มุ่นเข้าหากันก็คลายออก ถึงแม้คนผู้นั้นมีศักดิ์ฐานะไม่สามัญ แต่ดูทีว่ายังต้องเห็นแก่หน้าถิงเฉวียนอยู่ดี “ตอนนั้นรุ่ยอ๋องอยู่ที่นั่นด้วย”

รุ่ยอ๋อง?

เฉียวเจากับเซ่าหมิงยวนสบตากันด้วยความตกใจอยู่บ้าง

ฉือชั่นหย่อนกายลงบนเก้าอี้ตามเดิม เขานั่งไขว่ห้างตามสบายพลางบอกเล่าด้วยน้ำเสียงไม่เร็วไม่ช้า “ข้ากับรุ่ยอ๋องเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบปี้ปอแล้วพบกับกลุ่มของจื่อเจ๋อโดยบังเอิญ”

“ในเมื่อเป็นพวกคุณหนูจูดึงคุณหนูใหญ่ขึ้นจากน้ำ รุ่ยอ๋องอยู่ด้วยก็ไม่เป็นไรกระมัง” เซ่าหมิงยวนกล่าวอย่างฉงนใจ

ชาวเมืองหลวงเคร่งครัดเรื่องธรรมเนียมประเพณีถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน เขาเคยได้ยินแต่ว่าบุรุษช่วยสตรีที่จมน้ำขึ้นมาแล้วฝ่ายหญิงจะขอให้ฝ่ายชายรับผิดชอบ แต่ไม่เคยได้ยินว่าคนที่มุงดูอยู่ยังต้องรับผิดชอบด้วย

จูเยี่ยนนวดๆ หว่างคิ้วแล้วชายหางตามองฉือชั่นพลางกล่าว “ทีแรกไม่เกี่ยวข้องกับรุ่ยอ๋อง แต่พอสือซีถีบคุณหนูใหญ่ทีหนึ่ง นางอารามแตกตื่นตกใจก็ยกมือคว้าสะเปะสะปะ แล้วประจวบเหมาะไปคว้าเอาสายรัดเอวของรุ่ยอ๋องตอนตกน้ำน่ะสิ”

เฉียวเจาอึ้งงัน “…”

เซ่าหมิงยวนพูดอะไรไม่ออกไปครู่ใหญ่ “…”

“กางเกงของรุ่ยอ๋องหลุดลงมาหรือ”

เสียงไอของจูเยี่ยนดังขึ้น เขาตวัดสายตามองเฉียวเจาแวบหนึ่งแล้วหน้าแดงระเรื่อ “ไม่หลุด รุ่ยอ๋องจับกางเกงไว้ได้ทัน”

มาตรว่าพวกเขารู้จักมักคุ้นกับคุณหนูหลีแล้ว แต่พูดเรื่องท่านอ๋องกางเกงหลุดต่อหน้าสตรีจะเหมาะสมหรือ

เซ่าหมิงยวนมุ่นคิ้ว “ตกลงว่ามีปัญหาอะไรกันแน่”

ต่อให้รุ่ยอ๋องจะกางเกงหลุดจริงๆ ถึงอย่างไรคงไม่กลายเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ฝ่ายหญิงรับผิดชอบกระมัง

จูเยี่ยนมองเซ่าหมิงยวนอย่างจนใจ “ถิงเฉวียน คุณหนูใหญ่เป็นต้นเหตุให้รุ่ยอ๋องต้องอับอายต่อหน้าธารกำนัล ถึงไม่รู้ว่ารุ่ยอ๋องจะเอาเรื่องกับสกุลหลีเพราะเหตุนี้หรือไม่ เอาเป็นว่าเจ้ารู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ไว้ก็แล้วกัน”

เซ่าหมิงยวนผงกศีรษะเบาๆ แล้วหันไปมองเฉียวเจา “เจาเจา เจ้าต้องการให้ข้าออกหน้าสะสางเรื่องนี้หรือไม่”

ช่วยแก้ปัญหาให้เจาเจาได้ เขาย่อมไม่ปฏิเสธเป็นแน่ แต่ก่อนอื่นเขาต้องยืนยันว่าเจาเจาต้องการหรือไม่

นางตรึกตรองครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ไม่จำเป็น บิดาข้าเป็นเพียงอาลักษณ์ในสำนักราชบัณฑิตผู้หนึ่ง จะมีปัญหายุ่งยากเพียงใดได้เล่า”

รุ่ยอ๋องคงไม่บีบให้ท่านพ่อลาออกจากตำแหน่งเพราะเรื่องเท่านี้กระมัง

ที่สำคัญคือบิดาของนางไม่กลัวการลาออกจากตำแหน่ง หมู่นี้ได้ยินท่านพ่อที่เคารพพูดติติงเรื่องเบี้ยหวัดเดือนละแปดตั้นตั้งกี่ครั้งกี่หนก็สุดรู้

อีกทั้งคงไม่ถึงกับมีอะไรรุนแรงไปกว่านี้ จะอย่างไรนางหมั้นหมายกับกวนจวินโหวแล้ว ถึงรุ่ยอ๋องไม่เห็นแก่หน้าภิกษุก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธองค์* ไม่มีทางทำเกินกว่าเหตุ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้ถิงเฉวียนเป็นฝ่ายไปเจรจาพาทีกับรุ่ยอ๋องแต่อย่างใด เพราะศักดิ์ฐานะของทั้งคู่ล้วนสร้างแรงกระเพื่อมไหวได้ง่ายมาก

เฉียวเจาใคร่ครวญทั้งหมดนี้อยู่ในหัวแล้วเอ่ยยิ้มๆ “ข้าจะพาพี่เจี่ยวกลับจวนก่อน หลังจากบอกกล่าวให้ผู้อาวุโสรับทราบ พวกท่านน่าจะตัดสินใจได้”

ฉลาดมิได้แสดงถึงประสบการณ์ เฉียวเจาเชื่อว่าในหลายๆ เรื่องท่านย่าต้องจัดการได้ดีกว่าตน

“พี่ฉือ ข้าขอขมาท่านแทนพี่เจี่ยวด้วย”

ฉือชั่นเหลือบมองนางอย่างเฉยเมย “นางคือนาง เจ้าคือเจ้า อีกอย่างข้าไม่ต้องการให้นางขอขมา ให้นางอยู่ห่างจากข้ายิ่งไกลเท่าไรได้ก็ยิ่งดีเท่านั้นเป็นพอ”

เฉียวเจาคลายยิ้มแล้วเข้าไปในห้องด้านข้าง

เสียงฝีเท้าดังขึ้น เสียงสะอื้นร่ำไห้ของหลีเจี่ยวก็หยุดลง

จูเหยียนกับตู้เฟยเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน

“พี่เจี่ยว พวกเรากลับจวนกันเถอะเจ้าค่ะ”

ตู้เฟยเสวี่ยกางแขนขวางหน้าหลีเจี่ยวไว้

“นี่คุณหนูตู้หมายความว่าอะไร”

ตู้เฟยเสวี่ยแค่นเสียงเยาะ “หลีซาน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ประสงค์ดีหรอก จะพาญาติผู้พี่ของข้ากลับไปตอนนี้ก็เพื่อให้ผู้อาวุโสที่ชอบลำเอียงพวกนั้นอบรมสั่งสอนนางกระมัง”

เฉียวเจาย่นหัวคิ้วเข้าหากัน สตรีผู้นี้รู้จักพูดจาให้เข้าหูคนได้หรือไม่กันแน่

 

* ‘กระต่ายตัวผู้ตะกุยขาหน้า กระต่ายตัวเมียทำตาพริ้ม’ เป็นสำนวนของชาวจีนเวลาพูดถึงการแยกกระต่ายตัวผู้ตัวเมีย ปกติเวลากระต่ายวิ่งไปวิ่งมาจะแยกตัวผู้ตัวเมียไม่ออก จึงให้จับหูแล้วยกตัวมันขึ้น ตัวที่ตะกุยขาหน้าคือตัวผู้ ส่วนตัวที่อยู่นิ่งๆ หรี่ตาคือตัวเมีย ยังเป็นการเปรียบเทียบถึงผู้ชายผู้หญิงว่าในชีวิตประจำวันปกติผู้ชายผู้หญิงต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่พอเข้าสู่สนามรบสวมชุดเกราะแล้วยากจะแยกออกได้ มีความนัยในเชิงสรรเสริญผู้หญิง อย่างเช่น ฮวามู่หลัน

* ไม่เห็นแก่หน้าภิกษุก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธองค์ เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงเห็นแก่หน้าบุคคลที่สาม

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 5 .. 65  เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com