“คุณพูดแทนตัวเองว่า ‘บัว’ แล้วน่ารักจัง”
ฉันเขินอายจนลืมไปแล้วว่าเมื่อสักครู่เราคุยเรื่องอะไรกัน แล้วระหว่างที่เรากำลังเต้นรำในเพลงที่สองนั้นก็มีคู่เต้นรำคู่หนึ่งประชิดเข้ามาใกล้จนเกือบจะชนกับเรา คุณณัฐจึงดึงตัวฉันเข้าไปใกล้กับเขามากขึ้น หัวใจฉันเริ่มเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง มือเริ่มชื้นเหงื่อ ฉันกลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันตื่นเต้นจนเกินไป
เมื่อเพลงที่สองจบลง เราก็เดินลงจากฟลอร์แล้วไปหาเครื่องดื่มแก้วใหม่ ระหว่างที่กำลังดื่มอยู่นั้นเจ๊กี้ก็เดินเข้ามาหาเราอีกครั้งด้วยท่าทีเร่งรีบ
“เอ้อ คุณณัฐฮะ จะเป็นการรบกวนไหม ถ้าคืนนี้ผมจะฝากยายบัวกลับคอนโดฯ ไปด้วย”
ฉันตกใจที่ได้ยินเจ๊พูดอย่างนั้น
“ทำไมล่ะคะ” ฉันถามขึ้น
“ก็จู่ๆ หัวหน้าเขาก็อยากประชุมหลังเลิกงานขึ้นมา คงจะสรุปเรื่องงานคืนนี้น่ะสิ ไม่รู้จะเสร็จดึกแค่ไหน เจ๊ไม่อยากให้หนูรอนาน”
“ไม่เป็นไร หนูรอได้ค่ะ อย่ารบกวนคุณณัฐเลย” ฉันไม่อยากอยู่ในรถกับเขาสองคนนี่นา
“ไม่รบกวนและไม่ลำบากอะไรเลยครับ ก็เราอยู่คอนโดฯ เดียวกันอยู่แล้ว เดี๋ยวผมรับผิดชอบส่งคุณบัวให้ถึงห้องโดยสวัสดิภาพเองครับ คุณกี้ไม่ต้องเป็นห่วง เสร็จแล้วผมจะโทรศัพท์มารายงานด้วยครับ” ทั้งสองคนหันไปคุยกัน
“หนูไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ” ฉันไม่พอใจที่พวกเขาทำกับฉันเหมือนเป็นเด็กที่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา
“ขอบคุณฮะคุณณัฐ” แต่ไม่มีใครสนใจฟังฉัน “ก่อนกลับมาบอกเจ๊ก่อนนะบัว เจ๊จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
แหม…ทีฝากฉันไว้กับผู้ชายคนอื่นไม่เห็นจะคิดห่วงใยฉันเลย
“ค่ะ” ฉันรับคำ แล้วเจ๊ก็หายไปอีกครั้ง
เราไม่ได้ออกไปเต้นรำอีกแต่เลือกที่จะหาของว่างทานแทน เราเดินไปซุ้มโน้นซุ้มนี้จนครบ ระหว่างที่เราเดินไปมาในห้องโถงนั้น คุณณัฐก็แวะทักทายกับคนโน้นคนนี้ที่เขารู้จักหรือพูดคุยกับคนที่จำเขาได้ ฉันรู้สึกว่าเขาเริ่มเบื่อที่ต้องทักทายกับผู้คนและต้องยืนยิ้มให้ช่างภาพถ่ายรูปด้วย แล้วจู่ๆ นายเสกสรรก็เดินเข้ามาหาเราพร้อมแนะนำตัวกับคุณณัฐเสร็จสรรพเหมือนเป็นการท้าทายฉันทางอ้อม
“คุณเมษินีนี่ดูแลลูกค้าของบริษัทดีเหลือเกินนะครับ”
ฉันเกลียดรอยยิ้มกรุ้มกริ่มนี่จริงๆ และไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเพราะอยู่ต่อหน้าคุณณัฐ จึงได้แต่ยิ้มรักษามารยาท
“หากคุณณัฐต้องการใช้บริการของเดอะ ช้อยส์เมื่อไรก็ติดต่อผมมาได้นะครับ ยินดีเสมอเลย” แล้วเขาก็ส่งนามบัตรให้ชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีแผนจะเปลี่ยนเอเจนซี่นะครับ คุณเสกสรรคงต้องรออีกนาน”
“ของอย่างนี้มันไม่แน่หรอกครับ เอาเป็นว่าผมจะรอคอยด้วยใจที่จดจ่อแล้วกัน ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ตาอ้วนเสกสรรเดินออกไป ฉันรู้สึกโกรธที่เขาพูดเหมือนจะแย่งลูกค้าของเอคโค่ไปต่อหน้าต่อตา ฉันคิดว่าต้องเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่อี๊ดฟังให้ได้ ส่วนคุณณัฐไม่ได้พูดอะไร เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู