แสงแดดร้อนแรงดุจเปลวไฟ ได้หลบอยู่ในป่าจึงค่อยสบายตัวเล็กน้อย
เผยยวนในตอนนี้กำลังพิงต้นไม้หอบหายใจพลางโบกมือให้เซ่าจิวที่อยู่ข้างหน้า “ไม่ไหว…ร้อนจะตายอยู่แล้ว ขอพักหน่อย”
เซ่าจิวหันมามองแล้วยกมือเท้าเอว “เป็นบุรุษอกสามศอกแท้ๆ กลับบอบบางถึงเพียงนี้ เพิ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าวเอง”
เผยยวนทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น กระพือคอเสื้อ “จวนจะเข้าเขตแคว้นเว่ยอยู่แล้ว ยังจะบอกว่าเพิ่งเดินไม่กี่ก้าวอีก? เจ้าเป็นคนอยู่หรือไม่” เขากวาดตามองชุดสีดำเข้ารูปทั้งตัวของนางหนึ่งรอบแล้วส่ายหน้า “ช่างเถอะ เจ้าคงไม่ใช่คนจริงๆ นั่นแหละ”
เซ่าจิวแค่นหัวเราะทีหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป แต่ไม่นานก็กลับมา ค่อยๆ ย่องเข้าไปข้างหลังเขา
เผยยวนเหนื่อยแทบขาดใจจนเกือบผล็อยหลับ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความเปียกลื่นบนหลังมือ พอลืมตาขึ้นมาดูก็ต้องร้องเสียงหลงพร้อมกระโจนร่างขึ้นมา สะบัดแขนอย่างเอาเป็นเอาตายจนงูน้ำสีดำมะเมื่อมกระเด็นไปบิดตัวเร่าๆ อยู่บนพื้น
“เป็นอย่างไร มีแรงเดินหรือยังทีนี้” เซ่าจิวเลิกคิ้วถาม
ชายหนุ่มกัดริมฝีปากล่าง สะบัดหน้าพรืดอย่างฉุนโกรธ
ไม่ใช่คนจริงด้วย ที่ยิ่งกว่านั้นคือไม่ใช่สตรี!
หลังจากเดินทางทั้งกลางวันกลางคืนมาตลอดทางแทบไม่หยุด ในที่สุดก็ได้เห็นกำแพงเมืองสูงตระหง่าน แสงอาทิตย์อัสดงส่องกระทบแผ่นอิฐหนา ทหารท่าทางขึงขังยืนอยู่บนกำแพงราวกับรูปปั้น
เซ่าจิวตบแขนเผยยวนอย่างอารมณ์ดี “ดูสิ ยังจำที่นี่ได้หรือไม่”
“เมืองต้าเหลียง ต้องจำได้อยู่แล้ว” ใบหน้าของเผยยวนเพิ่งจะมีรอยยิ้มให้เห็น เขารู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
ในอดีตที่พวกเขาออกจากแคว้นหานไปสัญจรหาความรู้ สถานที่แรกที่มาก็คือเมืองต้าเหลียงแห่งแคว้นเว่ยนี่เอง
เซ่าจิวลากแขนเขา “ไปเร็ว ชักช้าประเดี๋ยวจะไม่ทัน”
เผยยวนยังอยากเดินดูรอบๆ ให้เต็มที่สักหน่อย แต่กลับถูกนางลากเข้าไปในประตูเมืองโดยไม่ยอมหยุดพัก
เซ่าจิวใช้ชีวิตในต้าเหลียงมาหลายปีจึงคุ้นเคยกับเมืองนี้ดี นางลากชายหนุ่มวิ่งไปตลอดทาง ทั้งยังวิ่งเร็วกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
เผยยวนหายใจแทบไม่ทัน คนคนนี้ชอบวิ่งมาแต่เด็กแล้ว ในตอนนี้ยิ่งเก่งขึ้นกว่าเดิม
ตอนที่ดวงอาทิตย์จวนเจียนจะตกดิน เซ่าจิวมาอยู่ตรงหน้าสถานที่แห่งหนึ่ง พอปล่อยมือ เผยยวนก็ล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“เจ้า…เจ้าวิ่ง…ทำไมกัน”
เซ่าจิวมองตรงไปข้างหน้า ขณะขมุบขมิบปากพึมพำ “ก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งอยู่ดี”
เผยยวนหันมองตามสายตาเซ่าจิว เห็นคฤหาสน์ใหญ่โต หน้าประตูใหญ่แขวนป้ายเขียนว่า ‘จวนมหาอำมาตย์’ ทว่าตอนนี้ถูกพันไว้ด้วยผ้าขาว บ่งบอกว่ากำลังจัดงานศพ
ประตูใหญ่พลันถูกเปิดออกจากข้างใน บ่าวไพร่ห้อมล้อมชายหนุ่มที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหรูหราและมีสีหน้าเคร่งขรึมออกมาขึ้นรถ เผยยวนได้ยินคนพวกนั้นเรียกเจ้าตัวว่า ‘ซิ่นหลิงจวิน’ ก็นึกรู้อยู่ในใจว่าที่นี่น่าจะเป็นจวนของเว่ยฉี มหาอำมาตย์แคว้นเว่ย
เผยยวนรีบลุกขึ้นจากพื้นแล้วถามเซ่าจิวโดยไม่สนใจจะปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า “เกิดอะไรขึ้น สำนักโม่จื่อให้เจ้ามาช่วยเว่ยฉีอย่างนั้นหรือ”
นางพยักหน้า “ข้าผิดเอง นึกว่ากำจัดหวนเจ๋อกับกงซีอู๋ให้แคว้นฉินแล้วจะช่วยเว่ยฉีได้ ไม่คิดเลยว่าพอใช้เวลาไปกับเรื่องนั้นกลับทำให้เสียการใหญ่”
สีหน้าของเผยยวนเปลี่ยนไปทันที “อะไรนะ! เจ้าจะเล่นงานผู้ทรงภูมิทั้งสองท่าน?!”
“ข้าเล่นงานไปแล้ว”
เผยยวนเลือดขึ้นหน้า แก้มสองข้างป่องออกมาเป็นลูกขณะม้วนแขนเสื้อ