บทที่ 4
จับไว้ให้อยู่หมัด
กีรณาไม่ได้เตรียมชุดสำหรับออกงานกลางคืนมาด้วย ครั้นจะให้การันต์ส่งมาจากกรุงเทพฯ ก็อาจไม่ทันการณ์ แต่ยังโชคดีที่วรรณสารู้จักร้านเช่าชุดสวยๆ จึงพากีรณาออกไปเช่ามาเตรียมเอาไว้ก่อน แม้จะเป็นร้านต่างจังหวัดแต่ก็ได้ชุดสวยถูกใจและดูดีมีระดับไม่แพ้ร้านดังในกรุงเทพฯ
“แกแต่งตัวอย่างนี้แล้วเหมือนพวกเซเลบชะมัด”
วรรณสาออกปากชมเพื่อนสาวที่เดินเคียงกันไปทางห้องจัดงาน กีรณาเป็นคนรูปร่างดี แม้จะตัวเล็กไปนิด แต่เมื่อสวมรองเท้าส้นสูงก็ช่วยให้รูปร่างดูเพรียวและสูงขึ้น คืนนี้เธอเลือกเดรสท่อนบนเปิดไหล่ มีสายคล้องแขน สั้นหน้า ยาวหลัง ดูกรุยกรายและเป็นลายดอกไม้เล็กๆ สีพาสเทลดูอ่อนหวาน เมื่อสวมกับรองเท้าส้นสูงใสๆ เหมือนรองเท้าแก้วแล้วส่งให้เธองดงามราวกับเจ้าหญิง ขณะเดียวกันก็ดูเซ็กซี่เย้ายวน
“คุณนุชต้องมองค้อนใส่แกแน่ๆ ที่มาสวยแย่งซีนเจ้าสาว”
“พูดซะฉันอยากกลับไปเปลี่ยนชุดเลยนะ ลืมไปแล้วเหรอว่าแกเป็นคนช่วยเลือกชุดนี้ให้ฉัน” กีรณาจิกตาใส่เพื่อนไปหนึ่งที วรรณสาจึงหัวเราะขบขันเพราะแค่พูดหยอกเพื่อนไปอย่างนั้นเอง
“แหม! ฉันเลือกชุดนี้ให้แกเผื่อว่าแกจะเจอคุณเชษฐ์ในงานนี้ไง”
วรรณสาใช้ศอกกระทุ้งข้างเอวเพื่อนเบาๆ เป็นการหยอก หญิงสาวหัวเราะคิกเมื่อนึกถึงบรรยากาศตอนที่ยืนเลือกชุดด้วยกันแล้วคุยถึงเป้าหมายอย่างเชษฐ์ไม่ยอมหยุด แม้กีรณาจะไม่ได้จริงจังกับการจับชายหนุ่มอย่างที่คุยกัน แต่เธอก็ยอมเลือกชุดนี้เพราะชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว
“ฉันนึกว่าเธอจะไม่มาซะแล้วนะ เห็นบ่นๆ ว่าเตรียมชุดไม่ทัน” กรนุชทักพร้อมรอยยิ้มขณะที่กำลังยืนเคียงข้างเจ้าบ่าวอยู่หน้าห้องจัดงานเพื่อรอต้อนรับแขก
“งานแต่งของคุณนุชทั้งทีกี้จะไม่มาได้ยังไงคะ คุณนุชอุตส่าห์ออกปากเชิญ”
กีรณาบอกพลางยิ้มให้กับเจ้าบ่าว เธอรู้มาว่าเขาอายุน้อยกว่ากรนุชห้าปี เป็นคนใจดี ขี้เล่น สดใส และทำงานฝ่ายบัญชีให้โรงแรมนี้ เขาดูเป็นด้านตรงข้ามของกรนุชทุกอย่าง แต่ทั้งคู่ก็ดูมีเคมีที่เข้ากันได้ดี และดูรักกันมาก อาจเป็นไปได้ว่าต่างฝ่ายต่างเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้กันและกัน
“ยายกี้ลงทุนควักกระเป๋าเช่าชุดสวยมางานนี้เลยนะคะ” วรรณสาว่า
“ขอบใจมากนะจ๊ะ ฉันขอให้งานนี้พวกเธอได้เจอหนุ่มๆ ที่ถูกใจด้วยก็แล้วกัน” กรนุชพูดแซวสองสาวที่ยังโสดทีเล่นทีจริง เธออาจเพิ่งรู้จักกีรณาได้ไม่นานแต่ก็รู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้อย่างบอกไม่ถูก “มาถ่ายรูปกันดีกว่า แต่งตัวสวยขนาดนี้ ต้องมีรูปเก็บเอาไว้เยอะๆ นะ”
“ดีค่ะ วรรณจะได้อัพลงเฟซบุ๊กด้วย”
สองสาวเข้าไปถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาวด้วยความสดใส และวรรณสาก็ไม่ลืมไหว้วานให้ช่างภาพช่วยถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือของเธอเพื่อไปอัพลงในเฟซบุ๊กอย่างที่ได้พูดเอาไว้
“สวัสดีค่ะคุณวิ คุณโอภาส”
หลังจากถ่ายภาพจนหนำใจแล้วกรนุชก็หันไปเจอ ‘ผู้หลักผู้ใหญ่’ ที่กำลังเดินเข้ามาในงาน วรรณสาจึงรีบสะกิดให้กีรณายกมือไหว้ซึ่งหญิงสาวก็รีบทำตามแม้จะไม่รู้ว่าทั้งสองเป็นคนสำคัญอย่างไร
“ยินดีด้วยนะ”
ทั้งสองคนเข้ามาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว วรรณสากับกีรณาก็เลยขยับออกมาเล็กน้อยและหาโอกาสจะแยกตัวเข้างานเพื่อให้กรนุชกับเจ้าบ่าวได้มีเวลาถ่ายภาพกับแขกผู้หลักผู้ใหญ่
“จริงสิคะ ที่ห้องอาหารรับพนักงานใหม่มาเพิ่มอยู่คนหนึ่ง”
กรนุชเกริ่นถึงกีรณา แม้หญิงสาวจะไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญในตอนนี้แต่กรนุชก็อยากแนะนำให้พวกท่านรู้จักกีรณาเอาไว้เผื่อว่าในอนาคตจะมีตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมกับความสามารถ
“นี่กีรณาค่ะ เพิ่งเข้ามาทำงาน แต่หน่วยก้านใช้ได้เลยนะคะ ฝึกไม่นานก็เก่งกาจเชียว แถมยังหัวไวอีกต่างหาก นี่เรียนจบตั้งเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ ด้วย ตอนอยู่กรุงเทพฯ ชีวิตเคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็เลยอยากหนีมาทำงานต่างจังหวัดเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เธอตั้งใจว่าจะมาสมัครตำแหน่งพีอาร์ แต่ฝ่ายเอชอาร์ดันรับพนักงานคนใหม่ก่อนก็เลยได้มาเสิร์ฟ เพราะอุตส่าห์เดินทางมาแล้วน่ะค่ะ”
กีรณารีบยกมือไหว้ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองก็ยกมือรับไหว้เธอเช่นกัน