เช้าวันแรกในจังหวัดสตูล รัญชน์รวิชญ์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อออกจากห้องไปเดินเล่นเลียบชายหาดตามปกติวิสัยของเขา ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะใช้เวลาเดินทอดน่องสักชั่วโมงหนึ่งก่อนแล้วค่อยกลับไปกินข้าว วันนี้ทีมงานนัดเจอกันที่รถตู้ตอนเก้าโมงเช้า เพื่อจะเดินทางออกจากโรงแรมไปยังท่าเรือตามกำหนดการของกองถ่าย เขาจึงไม่ต้องรีบร้อน
ตอนที่ออกจากห้องพักเขาเจอ ‘ปูน’ ตากล้องของทางรายการที่กำลังจะออกมาเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าเข้าพอดี จึงเดินมาด้วยกัน ระหว่างที่เดินเล่นปูนก็ถือโอกาสขอถ่ายภาพรัญชน์รวิชญ์คู่กับทิวทัศน์ท้องทะเลไปหลายภาพ
“คุณรันสนใจมากับเราอีกสักทริปไหมครับ” ระหว่างนั้นปูนก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ อย่างคนอัธยาศัยดี “พี่รักษ์ได้คุยให้ฟังบ้างรึยังว่าจบงานนี้เรายังต้องลงมาสตูลกันอีก เพราะมีโปรเจ็กต์ต่อเนื่องกับทางแกนนำเยาวชนในพื้นที่ และ สกว. เกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องการทิ้งขยะในทะเล”
“สกว. นี่คือหน่วยงานไหนหรือครับ”
“สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัยน่ะครับ น้องที่เป็นแกนนำเยาวชนในพื้นที่นี้เขาเคยได้รับงบประมาณจากทาง สกว. มาทำงานวิจัยและพัฒนาในหัวข้อเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดสตูล แล้วผลงานของเขาก็ไปคว้ารางวัลจากต่างประเทศมาได้ ทางรายการเราเลยจะเข้ามาเป็นสื่อช่วยต่อยอดให้ทาง สกว. กับผลงานวิจัยของน้องเขาอีกแรง เป็นการกระจายข่าวสู่สังคมทั่วประเทศไปด้วยว่าทางหน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณสนับสนุนโครงการงานวิจัยเพื่อสังคมในส่วนนี้อยู่”
“เรื่องนี้พี่รักษ์ยังไม่ได้พูดให้ผมฟังเลยนะครับ แต่น่าสนใจมาก ไว้ผมจะลองไปคุยดูเผื่อช่วยอะไรได้บ้าง…” เขาพูดแล้วก็พลันชะงัก เมื่อมองไปข้างหน้าห่างออกไปเกือบยี่สิบเมตร แล้วเห็นใครบางคนที่มีลักษณะค่อนข้างคุ้นตากำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรบางอย่างอยู่
“นั่นน้องสาวพี่อรนี่นา ใช่ไหมครับ ทำไมถึงออกมาเดินเก็บขยะกับคนงานโรงแรมได้” ปูนว่าพลางหยุดยืนเก็บภาพของแพรภัทรที่สวมถุงมือและถือถุงดำใบใหญ่เอาไว้ กับชายสูงวัยคนงานของโรงแรมที่กำลังใช้คราดลากขยะมากองรวมกัน
“เขาไม่ใช่ทีมงานประจำของรายการใช่ไหมครับ”
“แพรเป็นน้องสาวโปรดิวเซอร์รายการเราครับ งานนี้พี่อรแค่ดึงมาช่วยเฉพาะกิจ รายการออกค่าเดินทางกับค่าที่พักให้ แต่ไม่มีค่าแรง”
รัญชน์รวิชญ์พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“หลักๆ คือทริปนี้แพรเขามาเพื่อแก้บนอะไรสักอย่างนี่แหละครับ ไม่ได้ตั้งใจมาทำงานกับเราหรอก แต่ที่ยอมมาช่วยกองถ่ายฟรีๆ ก็เพราะอยากประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่ากินค่าอยู่”
“มาแก้บนเนี่ยนะ”
“ครับ ดูเหมือนเขาจะเคยมาบนอะไรสักอย่างไว้ที่โบราณสถานบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วพอคำขอเป็นจริงขึ้นมาก็เลยต้องกลับมาแก้บน”
เท่าที่รัญชน์รวิชญ์สังเกตเห็นมาตั้งแต่ตอนเจอกันบนเครื่องบิน แพรภัทรมิได้มีท่าทีอะไรกับเขาเกินธรรมดาแต่อย่างใด เธอไม่ได้พยายามแสดงตัวว่าเป็นแฟนคลับของเขาเลยด้วยซ้ำ จนบางครั้งเขาก็ลังเลว่าสิ่งที่ตัวเองสงสัยว่าเธออาจเป็นแฟนคลับผู้มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจซึ่งกำลังตามคุกคามเขาทางโซเชียลอยู่นั้นอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่พอเจอหลักฐานทั้งกระเป๋า รองเท้า พวงกุญแจ และนาฬิกาที่เธอใช้แล้วเขาก็ไม่อาจตัดความระแวงที่มีทิ้งไปได้
“แพรนี่เป็นคนดีกว่าที่พี่คิดเยอะเลยนะ นึกว่านอกจากงกแล้วจะขอเก่งบนเก่งอย่างเดียว แต่นี่มีการตื่นแต่เช้ามาเก็บขะหย่งขยะ…”
แพรภัทรหันไปมองตามเสียงแซวดังกล่าว แล้วยิ้มกว้างให้ปูนกับรัญชน์รวิชญ์ด้วยความภาคภูมิใจ “ที่พี่ปูนคิดอยู่น่ะถูกต้องแล้วล่ะค่ะ นอกจากงกก็บนเก่งอย่างเดียวจริงๆ เพราะที่ตื่นมาเก็บขยะเช้านี้ก็เพราะหนูบนเอาไว้ว่าถ้าได้มาทำงานในทริปนี้กับพี่อรและได้มาสตูลแบบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย หนูจะตื่นมาเก็บขยะบนหาดโรงแรมทุกเช้า”
ปูนฟังแล้วถึงกับหลุดปากอุทานคำหยาบออกมาอย่างเหลือเชื่อแกมผิดหวัง “เชื่อเลยยย สายมูที่แท้!”
“อยากช่วยกันหน่อยไหมคะ หนูเตรียมถุงดำมาเผื่อด้วยนะ” เธอว่าแล้วหยิบถุงขยะจากกระเป๋าหลังกางเกงยีนออกมาส่งให้ชายหนุ่มทั้งสอง รัญชน์รวิชญ์ไม่ได้พูดอะไรแต่ยื่นมือมาหยิบไปอย่างไม่ลังเล
“เฮ้ยยย อันนี้ดีๆ พี่ขอจับภาพตอนคุณรันเก็บขยะเอาไว้โปรโมตรายการหน่อยสิ แพร…ถอย!”
แพรภัทรทำคิ้วขมวดมองตากล้องรายการอย่างขัดใจ ก่อนจะรีบถอยออกจากเฟรมแต่โดยดี เธอยืนมองปูนถ่ายภาพรัญชน์รวิชญ์เดินเก็บขยะตรงนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลี่ยงไปเดินเก็บขยะทางอื่นอย่างสงบตามลำพัง