บทที่ 2 ผู้หญิงในอุดมคติ
ทันทีที่เห็นแพรภัทรเดินเข้ามาในห้องอาหารเช้าของโรงแรมพร้อมกับอรณี รัญชน์รวิชญ์ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อเดินออกไปทันที ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะไม่แสดงอาการอย่างชัดเจนเกินไปว่าจงใจหลบเลี่ยงแพรภัทร แต่พอเห็นเธอเข้า รัญชน์รวิชญ์ก็ลืมตัวจนแทบจะลนลานทุกทีไป ตอนนี้นอกจากจะเป็นเพราะความรังเกียจข้อความที่ ‘Pearlypare’ ยังคงส่งมาให้เรื่อยๆ มากขึ้นทุกทีแล้ว เขายังอึดอัดเพราะสายตาเยาะๆ ที่มองเขาเหมือนรู้ทันไปเสียทุกอย่างแต่ไม่พูดอะไรออกมาตรงๆ ของแพรภัทรด้วย ซึ่งมันทำให้เขากลายเป็นฝ่ายที่ต้องรู้สึกผิดอย่างประหลาดที่ไปรังเกียจเธอ ทั้งที่คนผิดจริงๆ คือเธอเองแท้ๆ!
“จะไปเดินเล่นรึเปล่าครับ พี่ไปด้วยคน” ‘ปัทม์’ ซึ่งเป็นครีเอทีฟของรายการเดินเข้ามาทักทายเขาอย่างสนิทสนม เนื่องจากรัญชน์รวิชญ์เป็นคนไม่ถือตัว วางตัวดี และมีความเป็นกันเองในแบบที่ทำให้ทุกคนในกองถ่ายไม่รู้สึกเกร็งเวลาอยู่ด้วย “เมื่อคืนเป็นไงบ้าง หลับสบายดีไหม”
“ดีมากครับพี่ ยิ่งฝนตกยิ่งหลับลึกทั้งคืน” เขาตอบด้วยสุ้มเสียงสดใส ถ้าเป็นปกติรัญชน์รวิชญ์คงอยากไปเดินเล่นคนเดียวเงียบๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศริมทะเลยามเช้า แต่ตอนนี้เขากำลังอยากได้เพื่อนคุยอยู่พอดี หรือจะเรียกให้ถูกคืออยากได้คนนินทาแพรภัทรเป็นเพื่อนมากกว่า เพราะเขาเริ่มอึดอัดมากเสียจนอยากจะระบายออกมา “แล้ววันนี้เราจะไปไหนกันบ้างนะครับ ในสคริปต์บอกว่านั่งเรือเที่ยวเกาะ”
“น้องแทนจะพาเที่ยวเกาะ แล้วไปถ่ายทำกันบนจุดชมวิว แวะเล่นน้ำ พายเรือคายัค ไปกินข้าวบนเรือนแพชาวบ้าน ไปเดินเล่นที่สันหลังมังกร แล้วเย็นๆ ก็ขึ้นบกไปถ่ายกันต่อตรงสะพานข้ามกาลเวลาตรงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา แต่ดูแล้ววันนี้ฟ้าค่อนข้างครึ้ม ไม่รู้ฝนจะตกรึเปล่า ถ้าคลื่นแรงคงแย่หน่อย เพราะต้องนั่งเรือกันทั้งวัน พี่ยิ่งเมาเรือง่ายอยู่ด้วย” ปัทม์พูดพลางแหงนหน้ามองฟ้า ‘น้องแทน’ หรือ ‘แทนไท’ คือเด็กหนุ่มผู้เป็นไกด์ท้องถิ่นที่มาช่วยดูแลตลอดทริปนี้ของรายการรักษ์ตะลอน เขาเป็นแกนนำเยาวชนในพื้นที่ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของงานวิจัยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในจังหวัดสตูล
“จริงๆ งานลุยๆ แบบนี้ไม่ต้องแต่งหน้าก็ได้ ผมขอไม่แต่งได้ไหมวันนี้”
“ทำไมล่ะครับ หรือแพรแต่งไม่ถูกใจ”
“ก็ไม่เชิง”
“พี่ว่าเขาก็แต่งดีนี่นา พี่รักษ์ยังชมเลย ที่สำคัญแพรเขาตั้งใจทำงานมากด้วยทั้งที่ไม่มีค่าแรง”
“…”
“แต่ถ้าคุณรันไม่ชอบเดี๋ยวพี่บอกพี่รักษ์ให้ก็ได้”
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ จริงๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ให้เขาทำหน้าที่ตัวเองไปก็แล้วกัน” รัญชน์รวิชญ์บอกปัดแล้วชวนเปลี่ยนเรื่องคุย แม้จะยังอดกังวลเรื่องแพรภัทรไม่ได้แต่ก็ต้องพยายามทำใจ…
ปกติแล้วเวลาถ่ายทำรายการท่องเที่ยวอย่าง ‘รักษ์ตะลอน’ ผู้ดำเนินรายการไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าทำผมหนักมากนัก รัญชน์รวิชญ์จึงโล่งอกที่ไม่ต้องลำบากใจในการทำงานกับแพรภัทรมากเกินไป แต่ถึงจะใช้เวลากับเธอไม่นานและไม่ได้ใกล้ชิดอะไรนัก เธอก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดแทบตายอยู่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ที่เขาต้องมานั่งประจันหน้ากับเธอเพียงลำพังเพื่อให้เธอแต่งหน้าให้ตรงบริเวณท่าเรือระหว่างที่รอลงเรือ สาเหตุที่ต้องรอเวลาเป็นเพราะขณะนี้ฝนกำลังตกหนัก
“คุณกลั้นหายใจทำไมคะ” แพรภัทรหลุดปากถามออกมาอย่างลืมตัวเพราะความอดรนทนไม่ไหว หลังจากทนมองอาการเกร็งผิดปกติของรัญชน์รวิชญ์มาได้สักพัก ทว่าเธอก็ใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างสงบราบเรียบและใจเย็นอย่างที่สุด
“กลั้นใจอะไร เปล่านี่”
“คุณกลั้นหายใจจริงๆ” เธอยืนยันเสียงแข็งนิดๆ
“แล้วคุณมามีปัญหาอะไรกับระบบการหายใจของผม” เขาย้อนถามอย่างฉุนๆ นึกเถียงในใจว่าเธอปรักปรำเขาอย่างไม่เป็นความจริง เพราะเขาไม่ได้กลั้นหายใจเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอชัดเจนขนาดนี้ได้ยังไง แล้วกลิ่นหอมๆ ของเธอก็ยังทำให้เขาเผลอสูดหายใจลึกไปตั้งหลายครั้งอย่างไม่ตั้งใจด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ด้วย…
“ก็คงเพราะเป็นห่วงคุณล่ะมั้ง” หญิงสาวประชดเบาๆ “คนเราควรหายใจลึกๆ ช้าๆ ยาวๆ แต่ไม่ใช่กลั้นหายใจนานๆ แบบที่คุณทำ คุณเป็นคนชอบทะเลทำไมไม่ลองศึกษาวิธีการหายใจของสัตว์ทะเลอย่างเต่าดูล่ะคะ จะได้อายุยืนเหมือนเต่า”
“…”