“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ชายหนุ่มทำคิ้วขมวดพร้อมกับกล่าวเสียงงึมงำอย่างอึดอัดใจ ตอนที่เธอเอ่ยถึงกลิ่นหอมสดชื่นของตัวเอง เขารู้สึกสะอึกเบาๆ ราวกับโดนจับได้ว่าตัวเองแอบดมกลิ่นเธอหลายครั้ง…
“งั้นก็นั่งตรงนี้นี่แหละ ห้ามย้าย ถ้านั่งๆ ไปแล้วทนไม่ไหวจริงๆ ค่อยย้ายทีหลัง!”
“น้อยๆ หน่อยยายแพร เธอมีสิทธิ์อะไรไปเหวี่ยงรัน เดี๋ยวพี่ก็ไล่ลงเรือแล้วปลดกลางอากาศซะเลยนี่!” อรณีที่ตามลงมานั่งอยู่แถวหลังเอื้อมมือมาสะกิดปรามน้องสาวดุๆ แพรภัทรจึงยอมสงบปากสงบคำแต่โดยดี แม้หน้าจะยังบึ้งตึงขณะพยายามเก็บอาการ ส่วนรัญชน์รวิชญ์ก็ทำใจและเลิกคิดเรื่องย้ายที่นั่งในที่สุด
ขณะที่แทนไทผู้เป็นไกด์กำลังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังจากที่นั่งของเขาตรงหัวเรือ ซึ่งระหว่างนี้ก็มีการบันทึกเทปถ่ายทำไปด้วยโดยมีรักษ์เป็นผู้ดำเนินรายการที่ร่วมพูดคุยกับแทนไทอย่างออกรส รัญชน์รวิชญ์ก็จับสังเกตได้ถึงความซีดเผือดของสีหน้าแพรภัทร
“คุณเมาเรือเหรอ หน้าซีดเชียว” เนื่องจากตอนนี้คลื่นค่อนข้างสูง เรือหางยาวซึ่งเป็นเรือนำเที่ยวที่กำลังจะพาทุกคนไปยังจุดชมวิวบนเกาะเบื้องหน้าจึงโต้คลื่นจนโคลงเคลง
“ไม่ได้เมา แต่กลัว”
“คลื่นแค่นี้ไม่น่ากลัวซะหน่อย ท้องฟ้าก็เริ่มสว่าง ฝนหายไปหมดแล้วด้วย”
“จริงเหรอ แต่ฉันแอบเห็นไกด์มองตากับเด็กท้ายเรือด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนจะส่งซิกกันตลอดเวลา คุณไม่เคยฟังข่าวเรือหางยาวนำเที่ยวไม่สนคำเตือนพานักท่องเที่ยวฝ่าคลื่นลมออกไปล่มกลางทะเลเหรอ มีให้เห็นออกบ่อย”
“แต่นี่คลื่นมันก็ไม่ได้แรงจนอันตรายขนาดนั้น ไม่ต้องกังวลหรอก ที่สำคัญเวลาอยู่กลางทะเลแบบนี้คุณควรคิดบวกไว้นะ”
“งั้นคุณก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ ฉันจะสวดมนต์แล้วบนขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัย”
“บนอีกละ” เขาพูดพลางถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“ก็ถ้าไม่บนจะให้ฉันทำอะไร พอแล้วนะ คุณไม่ต้องชวนคุยแล้ว” ว่าแล้วเธอก็หลับตาลง
ชายหนุ่มมองอย่างอ่อนใจก่อนจะละสายตาจากเธอไปมองทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติเบื้องหน้าแทน เขารักคลื่นลมและแสงแดดท่ามกลางท้องฟ้าและท้องทะเล จึงไม่เข้าใจคนที่หวาดกลัวธรรมชาติจนเลือกที่จะหลับตาเพื่อหลีกหนีความงดงามเหล่านี้อย่างแพรภัทรเลยสักนิดเดียว
แต่สิ่งที่ทำให้รัญชน์รวิชญ์ยิ่งมั่นใจว่าแพรภัทรคือผู้หญิงในแบบที่ไม่ตรงใจเขาที่สุดก็คือ ตอนที่เรือไปจอดเทียบเรือนแพของชาวบ้านเพื่อหยุดพักทานอาหาร ซึ่งจุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งในโลเกชั่นสำคัญในการถ่ายทำรายการ แล้วหลังจากทานข้าวเสร็จแพรภัทรก็เอาแต่บ่นปวดฉี่ไม่หยุด แต่ให้ตายยังไงเธอก็ไม่ยอมไปเข้าห้องน้ำเพราะไม่ไว้ใจเรื่องความสะอาด ไม่ว่าใครจะบอกอะไรเธอก็ยืนกรานปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าจะอดทนไว้แล้วกลับไปเข้าบนฝั่ง
“ห้องน้ำก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ ไปเข้าให้เรียบร้อยเถอะ อีกตั้งนานกว่าจะกลับขึ้นฝั่ง” อรณีพูดขึ้นมาอีกด้วยความเป็นห่วงน้องสาว หลังจากทุกคนเลิกสนใจแพรภัทรไปแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูคิดว่าพอทนได้”
“แล้วทำไมต้องทน ห้องน้ำก็อยู่ตรงนี้เอง” รัญชน์รวิชญ์พูดขึ้นมาเหมือนทนรำคาญไม่ไหว
“นั่นสิ เข้าๆ ไปเถอะแพร ขนาดคุณหนูไฮโซอย่างรันยังรับได้เลย โลโซอย่างเธออย่าเรื่องมาก”
แพรภัทรทำหน้าบูด “เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่เกี่ยวกับไฮโซโลโซหรือรวยจน หนูคอตื้น* มาตั้งแต่เด็กพี่อรก็รู้”
“คุณนี่มันขี้เหยียดชะมัด” รัญชน์รวิชญ์ใช้คำพูดตอกย้ำเธออีกแรง “เรื่องมากแล้วยังจะมาทำท่ารังเกียจบ้านคนอื่นเขาหน้าตาเฉย”
พอโดนคนปากร้ายตำหนิเข้าอย่างจัง คนขี้เหยียดก็หน้าตึง แต่ก็ไม่สามารถหาคำพูดอะไรมาตอบโต้เขาได้