“หลักๆ ก็มาเที่ยวแหละพี่ มากะทันหันด้วย รู้ว่าพี่รันอยู่นี่ก็เลยโทรหา จะได้มาขอค้างด้วย ไม่ต้องเสียค่าโรงแรม”
“ถ้าจะงกขนาดนั้นทำไมไม่มาตั้งแต่สองวันก่อน พรุ่งนี้ฉันจะกลับแล้ว”
“ก็ผมเพิ่งรู้เมื่อวานว่าพี่รันมาทำงาน ป้ายุกับป้าแววบอกตอนผมแวะไปหา แม่ให้เอาของกินไปฝาก”
“แล้วจะอยู่เที่ยวกี่วัน นี่ถ้าพรุ่งนี้ไม่ต้องรีบกลับไปทำงานฉันคงจะอยู่ต่อด้วย”
“ผมลางานมาอาทิตย์หนึ่ง แต่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่นี่กี่วัน ผมเป็นคนมีแผนอะไรเสียที่ไหน ก็แล้วแต่อารมณ์”
รัญชน์รวิชญ์มองคนพูดด้วยความอิจฉานิดๆ อิษฎาเป็นพวกสุขนิยมอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่มีความกดดันเพราะความคาดหวังจากครอบครัว พอกลับมาจากเมืองนอกเขาก็ไปทำงานอยู่ในฝ่ายอาร์ตประจำสตูดิโอผลิตผลงานแอนิเมชั่นแห่งหนึ่ง ความสุขของเขาคือการเล่นเกม สะสมของเล่น เล่นของเล่น อ่านหนังสือ อ่านการ์ตูน และดูหนัง ดูแล้วแทบจะไม่มีความเครียดในการใช้ชีวิต
แม้อิษฎาจะเป็นคนไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวนักในสายตาของคนในครอบครัวหรือคนรอบข้าง เพราะความที่ชอบใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยอย่างไร้ความกระตือรือร้นและขาดเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกทำแต่สิ่งที่ชอบโดยยึดเอาความสุขเป็นที่ตั้งและไม่สนใจแรงกดดันใดๆ แต่ลึกๆ แล้วสำหรับรัญชน์รวิชญ์…อิษฎาเป็นคนในแบบที่เขาอยากจะเป็นแต่ไม่กล้าพอ
รัญชน์รวิชญ์รู้สึกไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมคนที่มีต้นทุนชีวิตสูงและเพียบพร้อมมาตั้งแต่เด็กอย่างอิษฎา ถึงไม่ใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์และไม่คิดจะไขว่คว้าหาความสำเร็จอะไรเลย ทำไมจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตเสพสุขเรียบง่ายไปวันๆ โดยไม่เคยขวนขวายเพื่อการเติบโตและเหนือกว่า ทั้งที่คนเรามีแค่ชีวิตเดียว ในเมื่อมีโอกาสมากกว่าคนอื่นแล้วก็ควรใช้มันให้เต็มที่ ที่สำคัญอิษฎาเป็นคนที่เหมือนจะไม่มีความอยากเอาชนะหรือต้องการแข่งขันอะไรกับใครเลย
ในขณะที่รัญชน์รวิชญ์…แม้ภายนอกเขาจะดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไร้แรงกดดัน สดใส ไม่เรื่องมาก และแสนดีไปเสียทุกเรื่อง แต่เขาจะทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และใช้โอกาสที่มีอย่างเต็มที่เสมอเพื่อไม่ให้ตัวเองด้อยกว่าใคร กระทั่งกับคนในครอบครัวเขาก็ไม่อยากจะแพ้ใครทั้งนั้น เขาจึงกลายเป็นหลานรักอันดับหนึ่งของทั้งคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายและบรรดาคุณลุงคุณป้าทั้งหลาย แต่สำหรับอิษฎา พอมีใครบ่นใครถามเกี่ยวกับเรื่องอนาคตอีกฝ่ายก็มักจะตอบแบบไม่คิดอะไรว่าขี้เกียจวุ่นวายและชอบชีวิตสบายๆ อย่างนี้มากกว่า
บางคนอาจจะคิดว่าอายุยี่สิบเจ็ดปีของอิษฎายังนับว่าเด็กเกินกว่าจะต้องรีบโต แต่ในความคิดของรัญชน์รวิชญ์…ถือว่าเป็นวัยที่สมควรเริ่มต้นวางรากฐานที่มั่นคงเพื่ออนาคตได้แล้ว ยิ่งเริ่มต้นเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีเวลาล้มลุกคลุกคลานและลุกขึ้นได้เร็วเท่านั้น ทั้งยังมีประสบการณ์หลากหลาย และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากตามไปด้วย ไม่ใช่ปล่อยโอกาสและต้นทุนชีวิตที่มีอยู่ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วคิดแต่จะมีความสุขเรื่อยๆ ไปวันๆ
ทว่าทั้งที่ตัวเองเป็นพวกไฮเปอร์ที่มีแนวคิดแบบนี้ฝังหัว แต่รัญชน์รวิชญ์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดลึกๆ แล้วเขากลับยังรู้สึกอิจฉาชีวิตอันแสนเรื่อยเปื่อยของอิษฎาอยู่ดี…
“แล้วทำไมเราต้องออกมานั่งห่างไกลจากคนอื่นเขาขนาดนี้ด้วยล่ะพี่รัน เพราะอะไรไม่ไปนั่งคุยเฮฮาปาร์ตี้กับชาวบ้านสนุกๆ”
“นายเห็นผู้หญิงผมยาวมัดหางม้าที่กำลังเดินเข้ามานั่นไหมล่ะ”
อิษฎาหรี่ตาเพ่งมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายชี้ชวน ก่อนจะพยักหน้ารับทั้งที่เห็นผู้หญิงคนนั้นไม่ชัด “ครับ ทำไมอ่ะ”