“โธ่ โดนจับได้ซะแล้ว”
“นายทำลงไปได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
“พี่รันอย่าเพิ่งหัวเสียสิครับ พี่รันไม่ได้รับผลกระทบอะไรสักหน่อย ที่ผมตัดสินใจบอกให้พี่แพรรู้ตัวก็เพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่เผลอทำอะไรให้พี่รันยิ่งระแวงไปกันใหญ่ เพราะผมไม่เชื่อเลยจริงๆ ว่าเขาจะเป็น ‘Pearlypare’ ของพี่รันได้ ถึงจะไม่ได้รู้จักกันดี แต่เท่าที่รู้คือยังไงก็ต้องไม่ใช่แน่”
“แบบนี้ฉันจะออกไปเจอหน้าเขายังไง แล้วถ้าเกิดเอาเข้าจริงฉันเข้าใจถูก ส่วนนายโดนเขาหลอก เพราะเขาเป็นแฟนคลับจิตไม่ปกติคนนั้นจริงๆ ป่านนี้เขาไม่เอามีดมายืนรอเสียบฉันแล้วเหรอ แต่ถ้าฉันเข้าใจผิดจริงๆ เขาก็คงจะรอเอาเรื่องอยู่แน่ๆ นายทำให้ฉันต้องยุ่งยาก!”
ถึงรัญชน์รวิชญ์จะเชื่อว่าแพรภัทรคือ ‘Pearlypare’ แต่ในความเป็นจริงแล้วหลักฐานมันก็ยังไม่ชัดเจนจนสามารถฟันธงได้อยู่ดี ดังนั้นถ้าหากจริงๆ แล้วเป็นเรื่องเข้าใจผิด เขาก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะขอโทษแพรภัทรอย่างไรดี ตอนแรกเขาไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้เพราะคาดไม่ถึงว่าเธอจะมาล่วงรู้ความระแวงสงสัยภายในใจของเขา แต่ตอนนี้อิษฎาทำเสียเรื่องจนพังหมดแล้ว
รัญชน์รวิชญ์ไม่ใช่ศิลปินดาราระดับซูเปอร์สตาร์ที่มีกลุ่มแฟนคลับเป็นพวกคลั่งไคล้จนขาดสติ และไม่มีแฟนคลับประเภทซาแซง* เขาจึงไม่ค่อยรู้วิธีรับมือสักเท่าไหร่ เท่าที่เคยเห็นจากข่าวมักจะมีแต่ศิลปินต่างประเทศที่เคยเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้ จะว่าไปแล้วเรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เขานึกขยาดจนไม่ต้องการเป็นที่นิยมอย่างสูงจนต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวในระดับนั้น
“พี่รันไม่ต้องกังวลหรอกครับ พี่แพรเขาบอกแล้วว่าต่อจากนี้เขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่รันก็แค่ทำไม่รู้ไม่ชี้ไปละกัน แล้วก็ไม่ต้องกลัวจะลำบากใจที่ต้องเดินทางกลับพร้อมกับเขาแล้วด้วย เพราะสรุปว่าเขาขอเลื่อนไฟลต์กลับพรุ่งนี้แทน วันนี้เขาจะไม่ออกจากห้องพักจนกว่าพี่รันจะออกจากโรงแรมไปแล้ว”
“เขาเลื่อนกลับพร้อมนายเหรอ”
“ผมยังไม่ได้จองตั๋วขากลับเลย แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะกลับพร้อมเขา”
“ตกลงว่านายชอบเขาใช่ไหม เลยต้องทำถึงขนาดนี้ ใช้พี่เป็นเครื่องมือ” รัญชน์รวิชญ์กล่าวหาเสียงแข็ง
“เปล่าครับ ผมไม่ได้ชอบเขา ใช่สเป็กซะที่ไหน ผู้หญิงที่ผมชอบต้องผิวเข้มตาคมผมสั้นโฉบเฉี่ยว สูงยาวเข่าดีมีลักยิ้มสองข้าง อย่างพี่แพรน่ะเหรอ…ตรงกันข้ามทุกอย่าง” อิษฎาออกตัวยิ้มๆ “ผมแค่อยากจะหาทางคืนดีให้จบๆ ไป เพราะผมไม่อยากโดนเขาเกลียดจนรู้สึกคาใจไปตลอดชีวิต”
“สรุปว่าก็ฉวยโอกาสใช้ฉันเป็นเครื่องมือจริงๆ!”
“ขอโทษด้วยนะครับ” อิษฎาหัวเราะเจื่อนๆ “แต่ผมเห็นว่าทำแบบนี้พี่รันเองก็ไม่ได้เสียหายอะไร แล้วจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้คุยได้ถามกันตรงๆ ไปเลยพี่รันก็จะได้สบายใจด้วยว่าพี่แพรใช่หรือไม่ใช่แฟนคลับต้องสงสัยรายนั้น ทิ้งให้กังขาไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็มีแต่จะหวาดระแวงกันแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น”
รัญชน์รวิชญ์ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาโกรธอิษฎามากจริงๆ หงุดหงิดและรู้สึกแย่ชะมัด!
ข่าวรัญชน์รวิชญ์ถูกคนร้ายซึ่งเป็นแฟนคลับคลั่งรักจู่โจมทำร้ายร่างกายที่สนามบินในวันนี้สร้างความตื่นตระหนกแก่แพรภัทรเป็นอันมาก รายละเอียดในเนื้อหาข่าวบอกว่าเขาโดนหญิงสาวรายหนึ่งปรี่เข้าถึงตัวเพื่อหวังจะตบหน้า แต่ชายหนุ่มหลบได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทว่าดูจากการให้สัมภาษณ์แล้วเขาคงเสียขวัญกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อย แม้เหตุการณ์จะไม่ได้รุนแรงและรัญชน์รวิชญ์เองก็ไม่ได้เจ็บตัว แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าตกใจที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลเป็นอย่างมาก
หลังจากไปธุระเพื่อจัดการเรื่องแก้บนที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มาเรียบร้อยแล้ว ค่ำวันนั้นแพรภัทรกับอิษฎาก็กลับมาทานข้าวด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แม้ว่าแท้จริงแล้วความไม่พอใจในตัวอิษฎายังคงหลงเหลืออยู่เต็มเปี่ยมในใจเธอ แต่แพรภัทรก็ยอมฝืนใจญาติดีกับอีกฝ่าย เพราะอยากคุยกับอิษฎาเรื่องรัญชน์รวิชญ์