ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 128 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 128

เขามองเธอนิ่งๆ

เธอพูดจบแล้วเงียบไปเช่นกัน

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เงาของคนสองคนทอดอยู่บนผนัง หนึ่งร่างใหญ่หนึ่งร่างเล็กยืนประจันหน้ากันนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อน ประหนึ่งรูปปั้นหินคู่หนึ่งที่สบตากันและกันอย่างลึกซึ้ง

หากแต่ดวงตาของหญิงสาวกลับฉายแววเลื่อนลอย ทั้งคล้ายมองดูเขาอยู่ทั้งคล้ายมองผ่านตัวเขาไปยังที่ไกลๆ แห่งหนใดก็สุดจะรู้ได้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร หรือบางทีอาจแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น ซูเสวี่ยจื้อรู้สึกตัวกะทันหัน เหลือบตาขึ้นสบตากับเขาอีกครั้งหนึ่ง

“ถ้าอย่างนั้นก็แค่นี้เถอะ ฉันควรกลับได้แล้ว”

เธอพยักหน้ากับเขาด้วยท่าทางลุกลนเล็กน้อย จากนั้นหันหลังผลุนผลันเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อน” เฮ่อฮั่นจู่เดินไล่ตามไปหลายก้าว

เธอหยุดฝีเท้าแล้วเหลียวมอง

“ดึกมากแล้ว คุณกลับคนเดียวไม่ปลอดภัย คุณรอสักครู่ ผมเรียกให้ติงชุนซานขับรถมาพาคุณไปส่งนะ”

ซูเสวี่ยจื้อมองเขา เริ่มแรกเธอไม่พูดอะไร ผ่านไปชั่วครู่มุมปากของเธอก็ยกโค้งขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้วพยักหน้า “ก็ดีค่ะ”

เขาดูท่าทางโล่งใจ รีบเดินออกไปยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานต่อสายออกไป สั่งให้ติงชุนซานขับรถมาที่กองบัญชาการ “คุณพาเสี่ยวซูไปส่งที่วิทยาลัยด้วย”

“ครับ จะถึงที่นั่นภายในสิบนาที”

ก่อนหน้านี้หลังติงชุนซานคุยโทรศัพท์กับซูเสวี่ยจื้อจบเขาก็สังหรณ์ใจว่าคืนนี้น่าจะไม่ได้หลับได้นอนแล้ว จึงลุกจากเตียงแต่งตัวเรียบร้อยนั่งรอโทรศัพท์ แล้วเจ้านายก็โทรศัพท์มาจริงๆ เขาขับรถไปที่กองบัญชาการโดยไม่รอช้า

เฮ่อฮั่นจู่วางหูโทรศัพท์แล้วหันไปเห็นเธอเดินออกมาจากห้องนอน เขาบอกเธอว่ารอครู่เดียว ติงชุนซานจะมาถึงภายในสิบนาที

ซูเสวี่ยจื้อพยักหน้า ค่อยนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ ตัวตามสบาย

เขายืนอยู่ประเดี๋ยวหนึ่งถึงไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตัวของเขาหลังโต๊ะทำงานอย่างเอื่อยเฉื่อย

ไม่มีใครปริปากพูดอีก

สามนาฬิกากว่าแล้ว ภายในห้องทำงานโล่งกว้างที่เงียบเชียบไม่ได้ยินเสียงอะไรสักนิดห้องนี้ ชายหญิงคู่หนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไป มีเพียงเงาคนสองเงาอยู่เป็นเพื่อน

ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดซูเสวี่ยจื้อถึงหวนนึกถึงเหตุการณ์ตอนมาที่ห้องทำงานของเขาห้องนี้เป็นครั้งแรก

ตอนนั้นดูเหมือนเธอก็เลือกเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ตอนนี้ เพื่อที่จะได้นั่งเยื้องกับเขา

เขาพูดเรื่องความซื่อสัตย์กับเธอ เธอพูดเรื่องความถูกต้องชอบธรรมกับเขา เหมือนคุยกันคนละภาษา วันนั้นทั้งคู่แยกกันไปอย่างขุ่นเคืองใจ พอคิดขึ้นมาตอนนี้เธอก็รู้สึกขบขันนิดหน่อย

เรื่องน่าขำไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว

ก่อนหน้านั้นเขาพาเธอกับเฮ่อหลันเสวี่ยไปกินข้าว เธอสั่งแชมเปญที่แพงที่สุดแบบไม่เกรงใจเจ้ามือ ยังเจอกับเขาในห้องน้ำชายอีกด้วย

ต่อมาภายหลังเขายังพาเธอไปดูระบำก็องก็อง* ที่ไนต์คลับในโรงแรมเทียนเฉิง ถึงขั้นจัดเตรียมให้คุณถังสาวพราวเสน่ห์นอนค้างคืนกับเธอ จุดประสงค์ก็คืออยากจะรักษา ‘โรค’ ของเธอ…

เสี้ยววินาทีนี้เหตุการณ์ในอดีตพลันพรั่งพรูออกมาเรื่องแล้วเรื่องเล่าราวกับฝากล่องแห่งความทรงจำถูกเปิดออก

ตอนนั้นเธอไม่รู้สึกอะไรจริงๆ แต่พอคิดขึ้นมาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงน่าขำขนาดนั้นนะ…

หญิงสาวถึงกับมีแก่ใจหัวเราะออกมาในเวลาอย่างนี้

ซูเสวี่ยจื้อก้มหน้ายกมือปิดหน้าตนเอง หัวเราะขลุกขลักในลำคอพยายามไม่ให้เสียงลอดออกมาสุดกำลัง สุดท้ายเธอหัวเราะจนหัวไหล่สั่นน้อยๆ แต่ยังคงหัวเราะไปเรื่อยๆ ไม่หยุด พอเงยหน้าขึ้นเห็นเขามองมาด้วยสายตานิ่งขรึม เธอรีบกลั้นหัวเราะเต็มที่ เอ่ยขอโทษแล้วอธิบายว่า “ขอโทษที คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ เมื่อครู่จู่ๆ ฉันก็นึกถึงเรื่องเก่าๆ ของพวกเราเมื่อก่อน ตอนไปกินข้าวที่ร้านอาหารครั้งแรก…ตอนทะเลาะกันในห้องทำงานห้องนี้ของคุณ…ตอนหลังคุณพาฉันไปที่ไนต์คลับ…ยังมีคุณถัง…คุณถังเป็นคนมีเสน่ห์มากจริงๆ ตอนฉันเจอเธอหนแรกก็รู้สึกว่าเธอสวยมาก แล้วก็พูดตามตรงนะ ฉันอยากไปไนต์คลับนั่นอีกสักครั้งอยู่นิดหน่อย สาวๆ ที่นั่นเต้นรำกันได้สนุกน่าดูจริงๆ มิน่าพวกผู้ชายถึงชอบไปที่แบบนั้นกัน แม้แต่ชายไม่แท้อย่างฉันยังรู้สึกว่าดี…”

เขาไม่แสดงสีหน้าใดๆ เพียงมองดูเธอพูดจาเรื่อยเปื่อยไม่ปะติดปะต่อกันกลั้วเสียงหัวเราะไม่หยุดอย่างเงียบๆ

“เฮ่อฮั่นจู่ คุณไม่รู้สึกว่าน่าขำสักนิดเลยหรือ” เธอพูดต่ออย่างขบขัน

เขาไม่มีปฏิกิริยาดังเดิม เห็นอย่างนั้นเธอก็รู้สึกหมดสนุกโดยพลัน

ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายโดนทิ้ง เหตุใดดูจากท่าทางของทั้งสองคนแล้วกลับเหมือนเธอทิ้งเขา เขาทำหน้าเศร้าสลดขมขื่นคับแค้นใจเหมือนอยู่ในงานศพ ส่วนเธอกลับไม่รู้สึกรู้สา หัวเราะอยู่คนเดียวได้ตั้งนานเหมือนคนบ้า

ซูเสวี่ยจื้อเริ่มหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่อีกพลางโคลงศีรษะอ่อนใจกับตนเอง สุดท้ายพอหัวเราะจนพอแล้วเธอก็นิ่งเงียบแล้วเหลือบมองนาฬิกาแขวนบนผนังปราดหนึ่ง

สิบนาทีผ่านไปแล้วในที่สุด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com