บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบเก้า
ผ่านไปสิบกว่าวัน เป็นกลางเดือนสามแล้ว
ตอนเย็นนอกหน้าต่างฝนตกขมุกขมัวไม่ขาดสาย เข็มยาวบนนาฬิกาลูกตุ้มไขลานแบบตะวันตกที่ตั้งประดับอยู่ในห้องโถงยังขยับไปไม่ถึงเลขห้าท้องฟ้าก็มืดแล้ว คนรับใช้ในบ้านสกุลซูทยอยจุดตะเกียงตามห้องต่างๆ ที่มีคนเข้าออกในเวลากลางคืน
เยี่ยอวิ๋นจิ่นนั่งอยู่ในห้องบัญชีตามลำพัง กำลังดีดลูกคิดตามตัวเลขบนสมุดบัญชีในมือ เสียงลูกคิดเม็ดกลมขยับขึ้นลงรัวเร็ว อันที่จริงคนดีดลูกคิดก็รู้ดีว่าเมื่อครู่นี้ตนเองคำนวณบัญชีผิดซ้ำๆ ทั้งที่ปกติต่อให้หลับตาอยู่ก็ไม่มีทางคิดผิด
เธอรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่บ้างเลยหยุดคิดบัญชีจะไปทำงานอย่างอื่น จึงตั้งใจจะไปเดินตรวจโกดังสินค้า
ช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว อากาศอย่างนี้เป็นอันตรายกับสมุนไพรในโกดังมากที่สุด ถ้าการป้องกันความชื้นเกิดผิดพลาดตรงไหนจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
พูดได้ว่าชั่วชีวิตนี้ของเธอนับจากวันที่แต่งเข้าสกุลซู สิ่งที่ทำให้ชีวิตเธอมีความหมาย นอกจากลูกสาวแล้วก็คือการค้าขาย
แต่กระนั้นเธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองรักงานนี้สักเท่าไร ทว่าถ้าเธอวางมือหรือว่าไม่มีห้างค้ายาสมุนไพรเทียนเต๋อ เธอจะใช้ชีวิตตั้งแต่เช้าจรดเย็นทำอะไรได้อีก
เวลานี้หงเหลียนง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารมื้อเย็นในบ้าน เยี่ยอวิ๋นจิ่นกางร่มเอาเองและกำลังจะไปที่โกดังทางด้านหลังเรือนโดยไม่ได้พาคนรับใช้ตามไปด้วย พลันได้ยินเสียงฝีเท้าไล่หลังดังขึ้น เธอเห็นซูจงซึ่งทำหน้าที่ดูแลหน้าร้านตอนกลางวันถือร่มผ้าสีดำเคลือบน้ำมันวิ่งกวดตามมาอย่างเร่งร้อน พอแน่ใจว่ารอบด้านปลอดคน ถึงเดินเข้ามากระซิบบอกใกล้ๆ อย่างระแวดระวังว่า “นายหญิง เมื่อครู่หัวหน้าสามของสมาคมชาวน้ำผ่านมาทางตัวอำเภอเลยไปเจียดยาที่ห้างค้ายาเทียนเต๋อเราด้วยตนเอง นี่ขอรับใบสั่งยา ผมแวะเอามาให้นายหญิงด้วย”
เขาหยิบใบสั่งยาแผ่นหนึ่งจากในแขนเสื้อยื่นส่งให้ จากนั้นหันหลังเดินกลับไปโดยไม่รอช้า
ใบสั่งยา!
ตอนแรกเยี่ยอวิ๋นจิ่นแทบไม่อยากเชื่อเลยทีเดียว
เนิ่นนานขนาดนี้แล้ว!
ฉันยังได้รับใบสั่งยาที่คนคนนั้นส่งมาให้หรือนี่
ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนซีดขาว เธอจ้องใบสั่งยาในมือตาเขม็ง สายตาจับอยู่ที่คำว่า ‘ตังกุย’ ซึ่งแทรกอยู่ในรายชื่อสมุนไพรที่เขียนไว้บนกระดาษ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาจริงอยู่ว่าเธอไม่เคยลืมเลือนประโยคที่เธอพูดไปอย่างนั้นในตอนเช้าตรู่วันนั้นเมื่อนานหลายปีก่อน แต่เธอนึกว่าอีกฝ่ายลืมไปนานแล้ว
เขาก็ยังจำได้เหมือนกันหรือนี่ หัวใจของเธอเต้นถี่แรง
ครั้นเธอตั้งตัวติดในอึดใจต่อมา ลางสังหรณ์ไม่ดีก็ผุดขึ้นในใจอีกทันใด
คนใจดำอย่างนั้น คนที่ไม่ยอมแอบมาพบฉันได้ตั้งสิบยี่สิบปีนั่น
ตอนนี้จู่ๆ กลับเป็นฝ่ายอยากเจอฉัน!
หรือว่าข่าวที่ลือกันอยู่ข้างนอกพักนี้เป็นความจริง
ตาแก่นั่นทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว ใกล้จะไม่รอดแล้วจริงๆ
มือที่กำแผ่นใบสั่งยาไว้ของเธอสั่นระริก ความหวาดกลัวโถมเข้าเกาะกุมจิตใจเธอระลอกหนึ่ง
ต้นฤดูใบไม้ผลิ สายฝนยามเย็นโปรยปรายไม่ขาดสาย ซูจงเอาใบสั่งยาไปให้เจ้านายเรียบร้อยแล้วฟ้าก็มืดอย่างรวดเร็ว
มันเป็นเรื่องเก่านมนานกาเลมาแล้ว นานแสนนานก่อนนายหญิงน้อยจะลืมตาดูโลกเสียอีก มีครั้งหนึ่งนายหญิงเคยลอบสั่งกำชับซูจงว่าหากหวังหนีชิวเอาใบสั่งยามาเจียดยาที่ร้านขายยาของครอบครัวเธอเมื่อไร ต้องอย่าลืมนำใบสั่งยานั้นมาให้เธอ
ทุกเย็นก่อนร้านขายยาจะปิด จะต้องเก็บรวบรวมใบสั่งยาของลูกค้าที่มาซื้อสมุนไพรระหว่างวันไว้อย่างเป็นระเบียบไม่ให้ขาดแม้แต่ใบเดียว งานนี้เป็นงานสำคัญ ซูจงจึงรับผิดชอบเอง
แต่ผ่านมาตั้งนานหลายปีก็ไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เป็นเหตุให้ซูจงลืมไปนานแล้วว่าเคยได้รับคำสั่งนี้ เย็นนี้ตอนเขาเห็นหวังหนีชิวมาถึงแวบแรกยังนึกในใจว่าอาการของจ้าวมังกรเจิ้งยังไม่หายดีหรือเปล่า เขารู้สึกเป็นห่วงนิดหน่อย จนกระทั่งอีกฝ่ายทิ้งใบสั่งยาไว้แล้วกลับไป ตอนเขาเก็บรวบรวมใบสั่งยาอยู่ ก็นึกขึ้นได้ฉับพลันว่าเมื่อนานมาแล้วนายหญิงเคยสั่งกำชับไว้อย่างนี้ เขาตกอกตกใจทันใด แต่ย่อมไม่แสดงออกทางสีหน้า ฉวยจังหวะตอนคนงานในร้านไม่ทันสังเกตรีบกลับบ้านโดยไม่รอช้า
หลังเอาใบสั่งยาให้ผู้เป็นนายไปแล้วซูจงก็กระวนกระวายใจ กินข้าวคำสองคำอย่างขอไปทีแล้วรออยู่ในห้องตนเองไม่ไปไหน
เขาสังหรณ์ว่าคืนนี้นายหญิงอาจจะออกไปข้างนอก
หน้าที่ขับรถม้าจะมอบหมายให้คนอื่นไม่ได้ เขาต้องทำเอง