ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง
ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 129
‘เยี่ยซื่อ’
นายหญิงชะงักฝีเท้าทันใด กลับได้ยินเขาพูดด้วยน้ำเสียงฝืดเฝื่อนว่าตนเองติดค้างน้ำใจเธออยู่ วันหลังถ้าเธอมีเรื่องอะไร ไปบอกกับหวังหนีชิวได้ เขาจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่แน่นอน
นายหญิงคล้ายจะหัวเราะนิดหนึ่งก่อนสาวเท้าเดินจากไป
ซูจงจำได้ว่าตอนนั้นเขาเหงื่อแตกพลั่ก หลบอยู่ในมุมมืดไม่กล้าขยับตัวด้วยหวั่นกลัวว่าทำเสียงดังแล้วจะโดนจ้าวมังกรเจิ้งจับได้ เขาเห็นอีกฝ่ายยืนอยู่ริมน้ำเป็นเวลานานถึงกลับไปเหมือนกันในที่สุด เขาระบายลมหายใจเฮือกหนึ่ง ปาดเหงื่อบนหน้าผากออกแล้วคิดจะรีบกลับโรงเตี๊ยมแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
แต่พอหมุนตัวไปก็ตกใจจนขวัญกระเจิง แทบยืนทรงตัวไม่อยู่ เพราะหวังหนีชิวคนนั้นมายืนอยู่ด้านหลังเขาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ดวงตาคมปลาบดุจมีดของอีกฝ่ายที่จ้องมองเขาอยู่ทอประกายเหี้ยมเกรียม
ซูจงตั้งสติได้ก็ลุกลนบอกว่าเขาพานายหญิงมาส่ง ยังพูดย้ำว่าเขาเป็นคนที่เธอส่งเสริมขึ้นมาเองกับมือ
ขาของเขาสั่นพั่บๆ ฟันก็กระทบกันดังกึกๆ แต่สุดท้ายหวังหนีชิวก็หันหลังเดินจากไปด้วยฝีเท้าเร็วรี่
ในคืนนั้นตอนหลังซูจงเดินโผเผกลับถึงโรงเตี๊ยมก็รู้ว่านายหญิงกลับมาก่อนแล้ว เขารู้สึกเหมือนป่วยหนัก หัวถึงหมอนก็หลับไป วันต่อมาเขาออกจากห้อง นายหญิงเห็นเขาแล้วไม่พูดอะไร เขาเองก็ไม่ปริปาก เพียงยืนนิ่งก้มหน้าคางจรดอกอย่างอ่อนน้อม จนกระทั่งเธอเอ่ยเสียงราบเรียบว่ากลับได้แล้วเขาถึงขานตอบ
หลังจากคืนนั้นเยี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาอยู่ที่บ้านสกุลซูเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น ด้านซูหมิงเซิ่งทำตัวดีได้ไม่ถึงสองวันก็นิสัยเก่ากำเริบ ออกไปสำมะเลเทเมานอกบ้านตามเคย ทว่าในสายตาของซูจง นายหญิงก็ดุดันแข็งกระด้างและเงียบขรึมมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อวันเวลาล่วงผ่านไปบางคราวเขาถึงกับสงสัยว่าคืนนั้นตนเองฝันไปหรือเปล่า
มันเป็นไปได้อย่างไรที่คนแบบนายหญิงจะร้องไห้ต่อหน้าผู้ชาย
ในเวลาต่อมาหลังผ่านไปอีกเจ็ดแปดปีเธอแต่งเข้าสกุลซูเป็นปีที่สิบ สองสามเดือนก่อนซูหมิงเซิ่งที่ร่างกายเสื่อมโทรมจนป่วยตาย เธอตั้งครรภ์ในที่สุดและให้กำเนิดลูกสาว…ไม่สิ…ควรจะพูดว่าลูกชายที่กำพร้าพ่อตั้งแต่อยู่ในท้อง
เมื่อนายหญิงมี ‘ลูกชาย’ ข้างกายก็รักษาห้างค้ายาสมุนไพรเทียนเต๋อที่เงินกำไรทุกๆ เหรียญในช่วงหลายปีนี้มาจากฝีมือเธอไว้ได้อย่างชอบธรรม ดับความหวังของวงศ์วานว่านเครือของสกุลซูที่คิดจะฮุบสมบัติ ซูจงเห็นว่าสวรรค์มีตาและรู้สึกดีใจกับเธอด้วย เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
ทว่าสกุลซูมีคนเยอะและหูตามากมาย พวกเครือญาติก็จับจ้องตาเป็นมันอยู่ อยากปิดบังอำพรางเรื่องที่เลี้ยงคุณหนูให้เป็นคุณชายพรรค์นี้ อาศัยแค่หงเหลียนคนเดียวไม่พอ ดังนั้นเขาถึงโชคดีมากที่ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้รู้ความลับที่รู้กันอยู่ไม่กี่คนนี้ของนายหญิง ทั้งยังได้เป็นคนสนิทของเธออย่างแท้จริง
และแล้ววันเวลาสิบแปดปีก็ผ่านพ้นไปอย่างนี้…
เสียงเคาะประตูดังขึ้นนอกห้องดึงซูจงกลับมาจากห้วงความทรงจำ
เขารีบเปิดประตู คนรับใช้ในบ้านมาบอกว่านายหญิงมีธุระจะออกไปข้างนอก สั่งให้เขาติดตามไปอย่างที่คาดไว้จริงๆ
ซูจงขับรถม้าพานายหญิงมาถึงด้านข้างโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งแถวท่าเรือในตัวเมือง
ที่นี่เป็นเขตของสมาคมชาวน้ำ เขาจอดรถม้า ยืนมองส่งนายหญิงที่ใส่เสื้อคลุมปกปิดร่างกายทุกส่วนอย่างมิดชิดสาวเท้าฉับๆ ไปทางโรงเตี๊ยมแล้วหายลับไปในตรอกมืดอย่างรวดเร็ว
เยี่ยอวิ๋นจิ่นเดินตามหวังหนีชิวที่มารับเธอเงียบๆ อาศัยความมืดบดบัง แอบเข้าทางประตูหลังขึ้นบันไดไปชั้นบน เธอก้าวเข้าไปในห้องห้องหนึ่งแล้วช้อนตาขึ้น เห็นด้านในมีเปลวไฟดวงเล็กๆ เต้นระริก ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างโต๊ะ แสงเทียนสาดกระทบร่างเขาเกิดเป็นเงาทอดอยู่บนฝาผนัง เงานั้นนิ่งสนิท ดูไปก็คล้ายว่าเขารอคอยอยู่นานแล้ว
คนทั้งคู่ประสานสายตากัน ไม่มีใครปริปากพูดหรือขยับตัว คนหนึ่งยืนที่หลังประตู คนหนึ่งนั่งที่ข้างโต๊ะอยู่อย่างนั้น
เนิ่นนานกว่าเยี่ยอวิ๋นจิ่นจะเห็นอีกฝ่ายลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเชื่องช้า ทำท่าเหมือนจะก้าวขาเดินมาหา เธอแค่นเสียงพูดว่า “วันนี้ลมอะไรหอบคุณมาถึงนี่หรือ จ้าวมังกรผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับยอมลดเกียรติอยากพบฉันเองได้อย่างไรกันนะ”
คืนนั้นเมื่อสิบแปดปีก่อนตอนที่เยี่ยอวิ๋นจิ่นแต่งเข้าสกุลซูเป็นปีที่สิบ เธอไปหาเขาเป็นครั้งที่สองบนเรือที่ลอยโคลงเคลงลำนั้น
เวลานั้นเขาอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์และไม่ใช่ลูกเรือนานแล้ว แต่เป็นหัวหน้าใหญ่ที่ถูกยกย่องให้เป็นราชามังกร เขามีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเส้นทางน้ำ เมื่อเอ่ยชื่อเขาไม่มีใครไม่รู้จัก
เวลานั้นเธอก็ไม่ใช่เยี่ยอวิ๋นจิ่นในวันวานที่เคยไปอ้อนวอนผู้ชายที่จริงๆ แล้วปกติพูดคุยกันไม่กี่คำให้พาเธอหนีไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบอย่างสิ้นหวังจนตรอก
หลังผ่านไปเจ็ดแปดปีเธอกลับไปหาเขาเป็นครั้งที่สอง
คืนนั้นชายหนุ่มรั้งตัวเธอไว้ในที่สุด
สุดท้ายทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์ทางกายกัน หลังอยู่ด้วยกันทั้งคืน ตอนฟ้าสางก่อนกลับหญิงสาวบอกเขาว่า ‘ถ้าวันหลังคุณยังอยากพบฉัน ให้พรรคพวกเอาใบสั่งยาที่เขียนชื่อสมุนไพรตังกุยไว้บนนั้นไปให้ฉัน ฉันก็จะรู้เอง’
เธอออกจากห้องใต้ท้องเรือถึงพบว่าเมื่อคืนมีหิมะตกลงมาเงียบๆ เมื่อไรก็สุดรู้ น้ำค้างแข็งสีขาวเกาะอยู่ตามริมตลิ่ง ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ
ในฤดูหนาวอากาศของเมืองซวี่ยังคงอุ่นชื้น ทิวทัศน์หิมะจึงหาชมได้ยาก ถ้าได้เห็นก็นับว่าเป็นปีมงคล
ทว่าหลังจากคืนหิมะตกคืนนั้นผ่านไปสิบแปดปี นอกจากพบกันโดยบังเอิญตอนมีคนอื่นอยู่ด้วยอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ อย่าว่าแต่เขาจะแอบมาหาเธออีก กระทั่งก่อนหน้านี้ไม่นานได้ข่าวว่าเขาบาดเจ็บ เธอส่งของไปเยี่ยมไข้รวมกับพี่ชาย เขายังส่งคืนมาหมดไม่ยอมรับไว้
* พวกโจรที่ร้องให้จับโจร หมายถึงคนที่ทำผิดแล้วพยายามหนีความผิดโดยการปัดความผิดให้คนอื่น
* กระดาษห่อไฟไม่อยู่ หมายถึงไม่สามารถปกปิดความจริงได้
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 23 เม.ย. 67