บทที่ 183
งานแต่งงานที่ห้องโถงด้านหน้าของโรงแรมในคืนนี้ดำเนินมาถึงช่วงบรรยากาศสนุกครึกครื้นที่สุด แต่เมื่อเทียบกับเจ้าสาวที่แอบมองคนข้างตัวพร้อมอมยิ้มขัดเขินเป็นระยะแล้ว ท่าทางของเจ้าบ่าวกลับผิดปกติจนเป็นที่แคลงใจของใครต่อใครพอดู
หลังจากคุณชายสกุลหวังปรากฏตัวตอนเริ่มต้นพิธีแต่งงานใบหน้าก็ไม่มีร่องรอยยินดีให้เห็นแม้แต่นิดเดียว แววตาของเขาเฉยเมยคล้ายหุ่นเชิดไร้ชีวิตจิตใจ เงียบขรึมไม่พูดจาทำหน้าที่ของตนเองไปตามคำบอกของพิธีกร เพราะมีคนจับจ้องอยู่มากมาย จึงตกเป็นเป้าสายตาอย่างช่วยไม่ได้ ซ้ำยังกลบทับความสนใจของแขกเหรื่อที่มีต่อเจ้าสาว จนกระทั่งตอนหลังๆ พวกคนที่นั่งโต๊ะไกลออกไปก็เริ่มเอียงหัวซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ความไม่ปกติของเจ้าบ่าวกันทั้งที่ยังอยู่ในงาน
สกุลเฉินย่อมดูออกเป็นธรรมดาว่าหวังถิงจืออารมณ์ไม่ดี ต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ฝ่ายพวกเขาออกจะเสียหน้าไปบ้าง
ในเมื่อเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว คุณนายหวังก็ไม่อยากให้เกิดเสียงติฉินนินทา เธอส่งสายตาเตือนลูกชายซ้ำหลายหนให้แสดงท่าทางดีใจหน่อย แต่พอไม่เห็นหวังถิงจือตอบสนองใดๆ ก็ร้อนรนอยู่ในใจ ผ่านไปชั่วครู่เธอพบว่าสามีเหมือนจะรับรู้แล้วเช่นกัน สายตาของเขามองไปทางลูกชายที่กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น
คุณนายหวังรู้ว่าสามีไม่สบอารมณ์จึงลุกลนหันไปหาน้องชายและขยิบตาให้เขาทีหนึ่ง
ถงกั๋วเฟิงเข้าใจความหมาย เขาฉวยจังหวะหยุดพักระหว่างพิธีเดินเข้าไปในฐานะคุณน้าพาเจ้าบ่าวออกจากงานไปพักชั่วคราว พอออกมาด้านนอกเขาก็พาตัวหลานชายไปทางข้างหลังที่มีคนน้อย เข้าไปในห้องพักผ่อนห้องหนึ่งแล้วปิดประตู ก่อนพูดกึ่งเตือนกึ่งตำหนิว่า “ถิงจือ เธอเป็นอะไรไปอีก ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่หรือ คุณพ่อเธอก็ปลื้มใจความประพฤติของเธอมากนะ คืนนี้เป็นงานมงคล แขกเหรื่อมากันเยอะแยะ ทำไมเธอถึงเหลวไหลขึ้นมาอีก มีเจ้าบ่าวแบบเธอที่ไหนกัน ต่อให้ไม่เห็นแก่หน้าสกุลเฉินก็ต้องคิดถึงคุณพ่อเธอบ้างสิ ระวังภาพลักษณ์หน่อย อย่าให้เป็นที่กังขาของใครๆ โดยไม่จำเป็น คุณพ่อเธอจะไม่ชอบใจเอาได้”
ดวงตาของหวังถิงจือมีเส้นเลือดฝอยขึ้นอยู่ทั่ว เขาขยับเนกไทที่ผูกแน่นชิดคอแล้วสูดลมหายใจเฮือกหนึ่งก่อนมองไปทางน้าชาย “เดี๋ยวหมั้น เดี๋ยวถอนหมั้น ตอนนี้ก็แต่งงานแล้ว ผมไม่ได้ทำเพื่อตนเอง ผมแต่งคุณหนูสกุลเฉินเพื่อพวกคุณน้า เท่านี้พวกคุณน้ายังไม่พอใจอีกหรือ”
บนโต๊ะด้านข้างมีเหล้าฝรั่งวางอยู่ขวดหนึ่ง เขาเดินเข้าไปดึงจุกไม้คอร์กออก ไม่เสียเวลาหยิบแก้วก็ยกขวดเงยหน้ากระดกเข้าปากไปหลายอึก
เขาดื่มเร็วเกินไปเลยสำลักกระอักกระไอยกใหญ่ ถงกั๋วเฟิงรีบเข้ามาช่วยตบหลังให้
หวังถิงจือไอหลายทีแล้วปัดมือเขาออก ยืดหลังขึ้นช้าๆ ยืนตัวตรงมองไปทางน้าชายของตนเองอีกครั้ง แล้วเหยียดมุมปากเป็นรอยยิ้ม “อยากให้ผมยิ้มแบบนี้ใช่ไหม คุณน้าคอยดูให้ดีๆ นะ อีกสักครู่ผมจะทำตามนี้เลย เดี๋ยวพวกคุณน้าจะไม่พอใจอีก”
ถงกั๋วเฟิงเห็นสองตาของชายหนุ่มแดงเรื่อ ยิ้มแค่ปากแต่ไปไม่ถึงดวงตา ท่าทางเหมือนเริ่มเมาเล็กน้อย ด้วยรู้นิสัยของหลานชายดีจึงกลัวว่าจะทำให้เขาโมโหแล้วไม่ยอมแต่งงานขึ้นมาจริงๆ เรื่องแบบนี้ใช่ว่าหลานชายจะทำไม่ได้
ถงกั๋วเฟิงรีบแย่งขวดเหล้าในมือเขาไปแล้วพูดกล่อมต่อด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นแทบจะวิงวอนขอร้องทำนองว่า ‘ต้องเห็นแก่ส่วนรวม คุณพ่อเธอก็วางตัวลำบากเหมือนกัน’
ใบหน้าของหวังถิงจือฉายแววอ่อนล้า เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงนวดๆ ขมับเดินผ่านข้างตัวน้าชายที่ยืนขวางทางอยู่ออกไปด้านนอก