ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 183-184 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 183-184

ผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่ปลีน่องคุณถังขาวผ่องเป็นยองใย ทั้งยังเรียบลื่นนุ่มมืออย่างเหลือเชื่อ จางอี้จิ่วพลันนึกถึงเสียงเล่าลือเกี่ยวกับความงามเย้ายวนใจของเธอที่เมื่อก่อนเคยได้ยินจากไหนไม่รู้ ว่ากันว่าคุณถังใช้ครีมบำรุงผิวผสมนมสดทาทั่วร่างกายก่อนนอนทุกคืนเสมอ ยังคิดต่อไปอีกว่าหลังจากผู้ชายที่เลี้ยงดูเธอคนแรกตายไปเธอก็อยู่เป็นโสดนานหลายปี พักก่อนถึงได้สานสัมพันธ์กับเฮ่อฮั่นจู่ แต่ตอนนี้กลับไม่รับรักเขา พาให้ความอิจฉาพลุ่งขึ้นในใจระลอกหนึ่ง เขาหยักยิ้มพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายล้อเล่น

“ผมรู้ว่าเยียนเฉียวหนุ่มกว่าผมหลายปี หน้าตาก็หล่อเหลาถูกใจสาวๆ คุณจะชอบเขาก็เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ว่าผู้ชายอายุมากกว่าหลายปีก็มีข้อดีของคนที่อายุมากกว่าตรงช่างเอาใจใส่นะครับ คุณลองดูก็จะรู้เอง” เขาหยุดเว้นจังหวะไปเล็กน้อย “คุณถัง ถึงเวลานี้แล้วคุณคงไม่ได้ยังรอเยียนเฉียวอยู่กระมัง คุณเป็นคนฉลาด แล้วก็ไม่ใช่คนอ่อนต่อโลก หรือคุณยังดูไม่ออกว่าจริงๆ แล้วตอนนั้นเขาไม่อยากแต่งงานกับคุณหนูเฉา แต่จะล่วงเกินอีกฝ่ายอย่างเปิดเผยก็ไม่ดี ถึงได้ใช้คุณเป็นข้ออ้างบังหน้า ในเมื่อเขาพึ่งไม่ได้ คุณจะดันทุรังแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน”

ในใจคุณถังกำลังพะวงเรื่องเสื้อผ้าในตู้อยู่ เห็นเขาไม่ยอมไปสักทีก็เริ่มร้อนใจ เลยฉวยจังหวะตอนเขาพูดเรื่องนี้ทำทีชักสีหน้าหดขากลับแล้วปล่อยกระโปรงลงปิด รอยยิ้มบนหน้าก็เลือนหายไปด้วย

“ท่านรองจาง คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร”

จางอี้จิ่วพูดออกมาแล้วถึงรู้ว่าพลั้งปากไป เขาคิดว่าเธอโกรธจริงๆ จึงรีบคิดจะง้องอน

ทว่าคุณถังล้มตัวลงนอนหันหน้าเข้าด้านในอย่างไม่สนใจไยดีและพูดเสียงเนือยๆ “เอาเถอะ ฉันรู้ตัวดี พวกผู้ชายมีคนไหนพึ่งได้บ้าง ยังต้องให้คุณเตือนด้วยหรือ หนนี้ก็ไม่ควรมาแต่แรก ฉันเหนื่อยแล้ว คืนนี้ขอบคุณมากค่ะ ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”

จางอี้จิ่วนึกโมโหตนเองอยู่ในใจสุดจะกล่าว พอเห็นเธอหลับตาลง หน้าตาดูเหนื่อยอ่อน เขาซึ่งลุกขึ้นยืนอยู่ข้างเตียงครู่หนึ่งได้แต่พูดเสียงฝืดเฝื่อนว่า “ก็ดีครับ…ถ้าอย่างนั้นคุณนอนพักก่อนนะ ผมจะลงไปแล้ว มีเรื่องอะไรก็เรียกผมได้เลย…”

จางอี้จิ่วหยิบเสื้อโค้ตที่ถอดออกเมื่อครู่แล้วมองสาวสวยที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงซ้ำอีกที เห็นเธอหันหลังให้นิ่งๆ ไม่มีทีท่าจะรั้งเขาไว้ เขาจึงหมุนตัวเตรียมเดินออกไปอย่างจนใจ

จังหวะนี้เองถึงได้ยินเสียงกุญแจไขประตูห้องจากด้านนอก ต่อจากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับมีคนพรวดพราดเข้ามา

จางอี้จิ่วออกไปจากห้องนอนทันทีด้วยความตกใจ คนกลุ่มนั้นเห็นเขาเดินออกมากะทันหันก็อึ้งงันไป และพากันหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าประตู

อารมณ์ของจางอี้จิ่วกำลังขุ่นมัวอยู่แต่เดิม ตอนนี้จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันใด เขาตะคอกเสียงกราดเกรี้ยว “พวกแกทำอะไรกัน! ถึงกับแอบเปิดประตูห้องคนอื่นเอง นี่ไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือฟ้าดินกันแล้วรึ!”

แขกที่จองห้องพักชั้นบนสุดในคืนนี้ได้ต้องมีฐานะไม่ธรรมดา คนสวมหมวกดำกลัวลูกน้องจะสร้างปัญหาจึงนำคนมาเอง เมื่อครู่เขาเข้าไปค้นหาในห้องติดกันแล้วไม่พบความผิดปกติเลยออกมาค้นต่อที่ห้องนี้ตามลำดับ เขาได้ดูรายชื่อแขกที่ลงทะเบียนเข้าพักคืนนี้แล้ว จึงรู้ว่าเป็นห้องของจางอี้จิ่ว อีกทั้งจำได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในห้องโถงจัดงานชั้นล่าง ถึงไขกุญแจเข้ามาเลยโดยไม่ได้เคาะประตู คิดไม่ถึงว่าจางอี้จิ่วจะอยู่ในห้อง พอเห็นดังนั้นเขาจึงรีบเข้ามาโค้งตัวขออภัย จากนั้นใช้เหตุผลที่เตรียมไว้เป็นข้ออ้างบอกว่าจะขอตรวจดูห้องสักหน่อย

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ขอรับ เบื้องบนมีคำสั่งลงมา ต้องค้นทุกห้องโดยไม่มีข้อยกเว้น นี่ก็เป็นการคำนึงถึงความปลอดภัยของท่านรองจางด้วยนะขอรับ พวกตีนแมวเจ้าเล่ห์มาก เกิดฉวยโอกาสตอนท่านไม่อยู่แอบเข้ามาซ่อนตัวในนี้ จะไม่ดีต่อท่านเหมือนกัน พวกผมขอดูประเดี๋ยวเดียวแล้วจะออกไปทันที ท่านรองจางโปรดอภัยให้ด้วย” ว่าแล้วเขาก็ทำมือบอกให้ลูกน้องเข้าไป

ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นไปไม่ได้ที่ในห้องจางอี้จิ่วจะมีตีนแมว หรือต่อให้มีก็ตาม แต่ตอนนี้คุณถังอยู่ในห้องนอน หากปล่อยให้คนพวกนี้เข้าไปตรวจค้น เขาจางอี้จิ่วจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหน

“หยุดนะ!” จางอี้จิ่วตวาดเสียงห้วน “อย่านึกว่าอ้างชื่อถงกั๋วเฟิงแล้วฉันจะกลัว เข้ามาทางไหนก็ไสหัวออกไปทางนั้นเลย! ลองขยับอีกก้าวเดียว ปืนฉันไม่มีตาหรอกนะ”

จางอี้จิ่วชักปืนพกออกมาพลางพูดเสียงเย็นเยียบ

คนสวมหมวกดำเห็นจางอี้จิ่วโกรธจัด ซ้ำยังพูดถึงเพียงนี้ จึงไม่กล้าก้าวเข้าไปอีก เขาขานรับซ้ำๆ สองสามคำ แล้วส่งสัญญาณมือบอกให้ลูกน้องออกไปก่อน จากนั้นสั่งคนที่เหลือรีบเร่งตรวจค้นห้องอื่นๆ ต่อไป ส่วนตนเองลงไปชั้นล่างรายงานสถานการณ์ให้ถงกั๋วเฟิงรับทราบ

จางอี้จิ่วปิดประตูแล้วล็อกจากด้านในก่อนเก็บปืน ครั้นเดินกลับเข้าไปอีกทีก็เห็นคุณถังลุกขึ้นนั่งบนเตียง ใบหน้าเธอซีดเผือดเล็กน้อย เขาห่วงว่าเธอจะเสียขวัญจึงรีบเข้าไปนั่งบนขอบเตียงและพูดปลอบโยนเสียงนุ่มนวล

แต่กระนั้นในใจเขาก็เริ่มฉงนสงสัยเช่นกัน ไม่รู้ว่าถงกั๋วเฟิงเล่นลูกไม้อะไรอยู่ ตีนแมวอะไร อย่าให้เป็นการหาข้ออ้างเล่นไม่ซื่อก็แล้วกัน เขาชักไม่วางใจเลยอยากไปดูสักหน่อย หลังจากปลอบใจคุณถังอีกสองสามคำแล้วเขาจึงบอกว่า “ข้างล่างน่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมขอไปดูหน่อยดีกว่า เดี๋ยวค่อยมาหาคุณอีกทีนะ”

เขาพูดจบก็ลุกขึ้นจะเดินออกไป แต่กลับฉุกคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ขึ้นได้

วิสัยการทำงานของถงกั๋วเฟิงค่อนข้างคล้ายคลึงกับหวังเซี่ยวคุน นั่นคือไม่มีทางพุ่งหอกเข้ารก เขาระดมคนอย่างเอิกเกริกเพียงนี้ น่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นจริงๆ และดูจากลักษณะท่าทางเมื่อครู่นี้ต้องเป็นการค้นหาใครอยู่

ถ้าเกิดบุคคลอันตรายที่ว่านั่นซ่อนอยู่ในนี้ คุณถังอยู่คนเดียว…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com