หญิงสาวถึงแจ่มแจ้งในที่สุดว่าเพราะอะไรเขาไม่ได้ปรากฏตัวทันที ความรู้สึกหวานล้ำผุดขึ้นตรงกลางอกจางๆ
“สายตาคุณน่ะนะ ทำเอาฉันใจหายใจคว่ำหมดเลย” เธอต่อว่าคำหนึ่ง
เขาเปล่งเสียงหัวเราะ แววตาเป็นประกายระยับ เธออาศัยแสงสว่างรำไรที่แผ่จากตะเกียงน้ำมันเหนือศีรษะมองดู ถึงเพิ่งสังเกตเห็นสภาพตอนนี้ของเขา
เขาผอมลงและผิวคล้ำขึ้นไม่น้อย
“ช่วงที่ผ่านมานี้คุณคงเหนื่อยมากสินะ” เธอสงสารเขานิดหน่อย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าที่ไว้หนวดเคราอย่างห้ามใจไม่อยู่
เขาส่ายหน้าพลางกุมมือเธอและดึงมาจรดริมฝีปาก แตะจูบลงบนหลังมือเธอทีหนึ่ง
“ผมไม่เหนื่อย ทุกฝ่ายคืบหน้าไปได้ราบรื่นกว่าที่ผมคิดไว้ มีแค่อย่างเดียว…” เขาหยุดเว้นจังหวะ “ผมคิดถึงคุณมาก คิดถึงคุณทุกวัน”
ภายในตัวรถเงียบลง ซูเสวี่ยจื้อพิศดูชายหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเธอคนนี้พลางบอกเบาๆ “ฉันก็คิดถึงคุณ เฮ่อฮั่นจู่”
เธอพูดจบแล้วยื่นหน้าไปจูบปากเขา
เฮ่อฮั่นจู่หักห้ามใจตนเองไม่อยู่อีกต่อไป เขารวบตัวเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนแน่นๆ
เสียงในใจเตือนเขาว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือพาเธอหนีไปอย่างปลอดภัยก่อน เขาจำเป็นต้องมีสติตื่นตัวตลอดเวลา สุดท้ายเขาจึงบดเบียดริมฝีปากแดงแรงๆ ถ่ายทอดความคิดถึงแกมรู้สึกผิดที่เขามีต่อเธอทั้งหมดผ่านจุมพิตอันดูดดื่มไร้สุ้มเสียงนี้ จากนั้นผละออกห่างทันที พูดกระซิบข้างใบหูเธอด้วยเสียงแหบพร่า “ขยับมาใกล้ๆ สิ”
ซูเสวี่ยจื้อพิงไหล่แข็งแรงของชายหนุ่มข้างกายอย่างว่าง่ายแล้วหลับตาเบาๆ
รถเทียมล่อเลี้ยวออกจากถนนเล็ก สารถีหวดแส้เร่งเจ้าล่อหนุ่มให้ควบฝีเท้าวิ่งตะบึงไปทางสถานีรถไฟ
เมื่อออกเดินทางได้โดยไร้อุปสรรค อีกไม่นานก็จะถึงสถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟขบวนนั้นตามแผน กว่าคนกลุ่มนั้นในโรงแรมจะไหวตัวทัน พวกเขาน่าจะหนีรอดแล้ว
จิตใจที่ตึงเครียดเต็มทีตลอดคืนของติงชุนซานผ่อนคลายลงเล็กน้อย พอเขาผ่อนคลายก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มคาดเดาว่าขณะนี้เจ้านายกับคุณชายซูที่อยู่ในตัวรถข้างหลังกำลังทำอะไรกันอยู่
ไม่ใช่ว่าเขาคิดเตลิดไปไกล แต่คุณชายซูแต่งตัวแบบนี้แล้ว…
ช่าง…น่าอัศจรรย์มากจริงๆ
มิน่าคนที่เฝ้าประตูโรงแรมถึงได้ตาถั่วปล่อยให้คุณชายซูเดินออกมาต่อหน้าต่อตา หากเป็นเขา ถ้าไม่รู้เรื่องมาก่อน ตีให้ตายก็ไม่เชื่อหรอกว่าคุณชายซูแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วมีความเป็นหญิงยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ๆ บางคนเสียอีก
น่าเสียดาย…
ติงชุนซานโคลงศีรษะ เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ตนเองจะคิดเพ้อเจ้อเหลวไหล จึงสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัวอย่างรวดเร็ว กลับมาจดจ่อกับการเร่งเดินทางอีกครั้ง
ในเวลานี้เองเสียงฝีเท้าเร่งร้อนลอยแว่วมาทางด้านหลังระลอกหนึ่งคลับคล้ายมีคนไล่กวดตามมา
ติงชุนซานจับความผิดปกติได้อย่างฉับไว เขามองเหลียวหลังแวบหนึ่ง พบว่ามีแค่คนเดียวก็สั่งให้สารถีควบรถมุ่งหน้าต่อไป
เขายกมือกุมมีดพกที่ซ่อนอยู่ ตั้งท่าจะกระโดดลงไปดูให้แน่ใจ พลันได้ยินคนผู้นั้นผิวปากด้วยนิ้วเสียงหนึ่ง
เสียงผิวปากนี้เป็นรหัสลับของสมาคมซื่อฟาง เขานิ่งอึ้งไปทันที เพราะสมาคมซื่อฟางไม่ได้เข้าร่วมในแผนการที่วางไว้คืนนี้
เฮ่อฮั่นจู่รับรู้แล้วเช่นกัน เขางอนิ้วเคาะผนังตัวรถ
รถเทียมล่อหยุดจอดริมถนน
ติงชุนซานกระโจนตัวลงจากรถวิ่งทะยานไปหาคนผู้นั้น