ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง
ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 185-186
บทที่ 186
ติงชุนซานกระโจนลงรถวิ่งไปพบกับคนที่มาหา หลังพูดคุยกันไม่กี่คำเขาก็พาอีกฝ่ายมาที่รถเทียมล่อ
เฉินอิงส่งคนมาแจ้งข่าวสำคัญ
ก่อนเฮ่อฮั่นจู่จะจากไปคราวก่อนเคยให้ชื่อคนติดต่อฉุกเฉินทางนี้ของเขากับเฉินอิงไว้ บอกว่าถ้าวันหลังมีเรื่องด่วนสำคัญอะไรให้ไปหาอีกฝ่ายได้
คนผู้นั้นก็คือโหวฉางชิงที่กรมตำรวจเมืองเทียน
เฉินอิงได้ข่าวมาจากฟู่หมิงเฉิงเมื่อเกือบหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว
พักนี้ฟู่หมิงเฉิงค่อยๆ เข้าไปใกล้ชิดกับแวดวงชาวญี่ปุ่นที่มีโยโคกาวาเป็นศูนย์กลางทีละน้อย พร้อมกันนั้นยังคอยเฝ้าดูอีกฝ่ายไปด้วย เขาค้นพบอย่างรวดเร็วว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเลย ตรงกันข้ามพอเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ส่วนตัวหรือของหน่วยงานจะเกิดการฟาดฟันช่วงชิงกันไม่หยุดหย่อนเหมือนกัน เขาจับสังเกตได้ว่านายทหารระดับสูงคนหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการที่ชื่อมัตสึซากะนั้นไม่ค่อยลงรอยกับผู้อำนวยการคิมูระเรื่อยมา ตอนนี้พอโยโคกาวามาที่นี่ สถานะของผู้อำนวยการคิมูระก็เลื่อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หน่วยงานที่ผู้อำนวยการคิมูระสังกัดอยู่ได้รับงบประมาณมากกว่าหน่วยปฏิบัติการ แต่เพราะเกรงใจโยโคกาวา มัตสึซากะจึงไม่กล้าแสดงออกซึ่งๆ หน้า แต่ในใจไม่พอใจเรื่องนี้เป็นอันมาก ฟู่หมิงเฉิงเลยลองยื่นไมตรีให้อีกฝ่าย มัตสึซากะย่อมรู้ประวัติความเป็นมาของฟู่หมิงเฉิงดี กอปรกับเวลานี้ฟู่หมิงเฉิงยังเป็นคนโปรดของโยโคกาวา อีกฝ่ายจะทำเมินเฉยไม่สนใจได้อย่างไร ทั้งคู่จึงไปมาหาสู่กันเป็นการส่วนตัว ฟู่หมิงเฉิงพยายามประจบเอาใจมัตสึซากะด้วยการมอบของขวัญล้ำค่าให้ นานวันเข้าคนทั้งคู่ก็สานมิตรภาพกันมากขึ้นทีละน้อยทีละนิด
บ่ายวันนี้เองฟู่หมิงเฉิงไปเยี่ยมคารวะโยโคกาวาเช่นเคย ตอนกลับได้พบกับมัตสึซากะ เขาได้ทีชวนอีกฝ่ายไปดื่มสังสรรค์กัน มัตสึซากะตอบตกลงด้วยความยินดี ทั้งคู่ไปนั่งที่ร้านเหล้าซึ่งเป็นกิจการของชาวญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง หลังจากดื่มไปหลายขวดในห้องส่วนตัวของร้านมัตสึซากะเริ่มเมาจึงพูดต่อว่าผู้อำนวยการคิมูระที่อาศัยความสัมพันธ์พิเศษกับโยโคกาวาจนได้อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าตนเอง และเห็นว่ามันไม่ยุติธรรม ฟู่หมิงเฉิงเลยพูดเออออไปด้วยว่าผู้อำนวยการคิมูระก็ปิดบังตัวตนกับเขาตั้งนานหลายปีจนตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ความจริง แต่กระนั้นผู้อำนวยการคิมูระก็ยังคงไม่ได้นับเขาเป็นเพื่อนจริงๆ ทำให้เขารู้สึกผิดหวังอย่างช่วยไม่ได้
มัตสึซากะปลอบใจฟู่หมิงเฉิงสองสามคำแล้วประกาศว่าอีกไม่นานโอกาสที่เขาจะได้แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์อย่างแท้จริงก็จะมาถึง สถานะและความสำคัญของเขาในฐานะทหารจะสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งยังพูดเป็นนัยว่าวันหลังฟู่หมิงเฉิงจะมาสวามิภักดิ์เขาก็ได้ เขาไม่มองข้ามฟู่หมิงเฉิงแน่นอน
จุดประสงค์ที่ฟู่หมิงเฉิงเข้าหามัตสึซากะเพราะอยากล้วงข้อมูลจากนายทหารระดับสูงคนนี้ เขาจับความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของอีกฝ่ายได้ทันควัน จึงแกล้งพูดเป็นเชิงยั่วยุว่าตนเองถูกผู้อำนวยการคิมูระควบคุมทุกฝีก้าว ขนาดจะพบปะกับมัตสึซากะตามปกติยังกลัวผู้อำนวยการคิมูระรู้แล้วจะขัดขวางห้ามปราม มัตสึซากะซึ่งเมาได้ที่แล้วทนแรงยุไม่ไหวถึงแย้มพรายเกี่ยวกับปฏิบัติการที่เดิมทีถูกจัดเป็นความลับสุดยอดให้เขาฟังคล้ายจะโอ้อวดอย่างไรอย่างนั้น
เขาบอกฟู่หมิงเฉิงว่าผู้อำนวยการคิมูระมีแผนจะฉวยโอกาสตอนลูกชายของหวังเซี่ยวคุนแต่งงานคืนนี้ลอบสังหารหวังเซี่ยวคุนในงานแต่งงาน ยังพูดต่ออีกว่าปฏิบัติการลับนี้ได้รับการอนุมัติจากโยโคกาวาแล้ว
หลังจากโยโคกาวาสังเกตการณ์ด้วยตนเองมานานหลายปีก็เห็นว่านับแต่ราชวงศ์ชิงเป็นต้นมา เลือดรักชาติในตัวชาวจีนสูญหายไปหมดสิ้น มีบ้านแต่ไร้แผ่นดิน แตกแยกเหมือนเม็ดทรายที่กระจัดกระจาย เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวน้อยนิด พวกชาวจีนก็แย่งชิงกันชนิดที่ฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งได้ หากหวังเซี่ยวคุนจบชีวิตลงตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับชาวญี่ปุ่น
หลังจากฟู่หมิงเฉิงสงบสติอารมณ์ได้ก็หลอกถามต่อ เขาตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นไปได้ของแผนนี้ บอกว่าเขาก็ได้รับบัตรเชิญงานแต่งงานของคุณชายหวังวันนี้ แต่เพราะไม่สนใจเลยหาข้ออ้างไม่ไป เท่าที่เขารู้ คืนนี้มีแขกคนสำคัญมาร่วมงานมากหน้าหลายตา การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมาก ออกบัตรเชิญส่งให้เป็นรายคน คนภายนอกที่ไม่มีบัตรเชิญติดตัวไม่มีทางปะปนเข้างานได้
มัตสึซากะบอกกับฟู่หมิงเฉิงอย่างลำพองใจว่าหลังจากรู้ว่าสกุลหวังตัดสินใจจัดงานแต่งงานที่โรงแรมแกรนด์แคปิตอล เมื่อครึ่งเดือนก่อนพวกเขาก็ส่งมือลอบสังหารคนหนึ่งแฝงตัวเข้าไปเป็นพนักงานในโรงแรมล่วงหน้า สั่งให้หาจังหวะลงมือในคืนนี้ อีกทั้งปฏิบัติการลอบสังหารแบ่งเป็นสองส่วน เป้าหมายเพื่อไม่ให้แผนการล้มเหลวเด็ดขาด
ครั้นฟู่หมิงเฉิงจะตะล่อมถามรายละเอียดที่เหลือต่อ แม้มัตสึซากะจะเมาเหล้าอยู่บ้าง แต่อย่างไรเขาก็เป็นทหาร พลันรู้ตัวว่าแพร่งพรายความลับออกไปแล้วจึงรีบหยุดพูดทันที
มัตสึซากะคงนึกเสียใจทีหลังอยู่สักหน่อย ต่อจากนั้นเลยประกบติดฟู่หมิงเฉิงไม่ห่าง กระทั่งเขาไปห้องน้ำยังตามไปรออยู่ข้างนอกเอง พอเขาจะขอตัวกลับก็อ้างว่ายังไม่จุใจ ลากเขาไปดื่มเหล้าต่อที่ร้านอื่น
ฟู่หมิงเฉิงรู้ว่ามัตสึซากะอยากเฝ้าดูเขาไว้จนผ่านพ้นคืนนี้ เป็นการตัดโอกาสที่ข่าวจะเล็ดลอดออกไป แต่เขาทำเป็นไม่รู้ บอกว่าอากาศหนาวแล้วชวนไปแช่น้ำร้อนที่โรงอาบน้ำญี่ปุ่นทางทิศใต้ของเมืองแทน เจ้าของร้านก็เป็นหญิงชาวญี่ปุ่น มัตสึซากะจึงไม่ระแวงสงสัย ตอบตกลงอย่างเต็มอกเต็มใจแล้วไปที่นั่นด้วยกัน โดยหารู้ไม่ว่าปกติฟู่หมิงเฉิงจะมาพบปะสังสรรค์หย่อนใจที่นี่กับผู้คนในทุกแวดวงอาชีพเป็นประจำ เขาซื้อตัวเพื่อนร่วมชาติที่เป็นคนงานของที่นี่ไว้คนหนึ่งเผื่อสำหรับทำงานให้เขาในยามจำเป็น