ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง
ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 187-188
ด้านหวังเซี่ยวคุนได้รับการคุ้มกันไปถึงรถประจำตัวแล้ว
มีคนจำหน้าเฮ่อฮั่นจู่ได้วิ่งกวดเข้ามารายงาน
ชั่วอึดใจก่อนหน้านี้หวังเซี่ยวคุนก็แว่วได้ยินเสียงร้องห้ามทางด้านหลังนั่นเช่นกัน
เสียงนั้นคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินมาก่อน
คนขับรถเปิดประตูออก กลุ่มผู้คุ้มกันยืนล้อมส่งเขาขึ้นรถ
เขาหยุดอยู่ข้างรถอย่างละล้าละลัง เบือนหน้าไปช้าๆ เห็นจางอี้จิ่วกับคนร่างสูงเพรียววิ่งสุดฝีเท้ามาหา แววตาของเขาไหวระริก สีหน้าฉายความตกใจปนลังเลไม่แน่ใจ
คนสนิทคนหนึ่งที่อารักขาเขาอยู่ร้อนรนสุดจะกล่าว ทางหนึ่งตะโกนบอกลูกน้องให้สกัดเฮ่อฮั่นจู่ ทางหนึ่งสั่งให้คนขับรถติดเครื่องยนต์ก่อนเตรียมพร้อมออกรถได้ทุกเมื่อ
ขณะคนขับรถขึ้นรถแล้วเตรียมเสียบกุญแจนั้นเฮ่อฮั่นจู่ก็มาถึงพอดี เขาตะคอกเสียงกร้าว “หยุดนะ!”
คนขับรถตะลึงงัน จางอี้จิ่วปรี่เข้าไปปัดมือเขาออกแล้วแย่งกุญแจมา
เวลานี้ถงกั๋วเฟิงที่ได้รับรายงานรุดมาถึงแล้วเช่นกัน พอเห็นเฮ่อฮั่นจู่เขาก็ตกใจยกใหญ่แล้ววิ่งถลันเข้ามาจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็งอย่างระแวงระวัง กระซิบพูดกับหวังเซี่ยวคุน “พี่เขย นี่อาจจะเป็นลูกไม้ของเขาก็ได้ เขาต้องการทำร้ายพี่เขยนะ จางอี้จิ่วกับเขาเป็นพวกเดียวกัน พี่เขยรีบไปเถอะ อย่าหลงเชื่อเขา”
“พลเอกหวัง บนรถอาจมีอันตราย คุณถอยออกมาอยู่ห่างๆ จะดีกว่า”
เฮ่อฮั่นจู่กวาดตามองปากกระบอกปืนสีดำมะเมื่อมเรียงเป็นแถวตรงหน้าที่จ่อใส่เขาอยู่ปราดหนึ่ง ก่อนมองไปทางหวังเซี่ยวคุนพลางพูด
หวังเซี่ยวคุนสบตากับชายหนุ่มอึดใจหนึ่งโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาหรี่ตาลง ยกมือขึ้นห้ามถงกั๋วเฟิงที่ยังพูดเตือนไม่หยุดอยู่ด้านข้าง จากนั้นย่างเท้าเดินออกห่าง
เฮ่อฮั่นจู่ดันปืนที่ขวางหน้าออกแล้วเดินไปข้างรถบอกให้คนหยิบกล่องเครื่องมือมาแล้วสั่งให้ทุกคนถอยออกไป เขาใช้ไฟฉายส่องดูรูกุญแจของประตูรถก่อน แล้วเปลี่ยนมาคาบกระบอกไฟฉายเพื่อส่องสว่างพลางใช้พวกไขควงแกะแผงหน้าปัดรถช้าๆ สุดท้ายเปิดออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นมองปราดหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นบุ้ยใบ้บอกให้คนขับรถเข้ามา
“ระเบิด! มีระเบิด!” คนขับรถมองแวบเดียวก็หน้าถอดสีทันควัน พูดโวยวายเสียงหลง
ตอนนี้เองแขกหลายคนในงานคืนนี้ที่ได้ข่าวก็มาถึงเช่นกัน หนึ่งในนั้นมีพวกฟางฉงเอินรวมอยู่ด้วย พอได้ยินว่ามีระเบิดก็แตกฮือถอยกรูดไปตามๆ กัน
เฮ่อฮั่นจู่ถามคนขับรถว่าเมื่อครู่นี้ไปไหนมา คนขับรถรู้ว่าปิดบังไม่อยู่ก็เหงื่อแตกไม่หยุด ยอมรับว่าเห็นคนแถวนี้เล่นพนันกันอยู่แล้วคันไม้คันมือ เลยเข้าไปร่วมวงเล่นสองสามตาอย่างอดใจไม่อยู่
เฮ่อฮั่นจู่พูดต่อ “มีคนฉวยจังหวะงัดรถเข้ามาติดตั้งระเบิดไว้ตรงตำแหน่งนี้ เชื่อมวงจรไฟฟ้าของระเบิดเข้ากับของรถยนต์ พอรถติดเครื่องยนต์ก็จะระเบิดขึ้นทันที”
ถงกั๋วเฟิงใจหายวาบ เขากัดฟันกรอด เดินเข้าไปตบหน้าคนขับรถสุดแรงแล้วสั่งให้คุมตัวไป ก่อนหันไปมองเฮ่อฮั่นจู่ เขาสองจิตสองใจนิดหนึ่งถึงเผยรอยยิ้มบนหน้าในที่สุด “เยียนเฉียว คุณกลับเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไร ทำไมมาเงียบๆ ไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำ วันนี้เป็นวันงานมงคลของถิงจือ ทีแรกก็อยากเชิญคุณมาดื่มฉลองกัน…”
เฮ่อฮั่นจู่มองหวังถิงจือที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ด้านข้างแล้วส่งยิ้มให้ เขาไม่ตอบคำถาม เพียงบอกให้ถงกั๋วเฟิงปิดล้อมบริเวณนี้ไว้ และตามทหารช่างมาเก็บกู้ระเบิด
ฟางฉงเอินเดินหัวเราะร่าเข้ามา
“เยียนเฉียว คุณเป็นดาวนำโชคขนานแท้! คืนนี้คุณมอบของขวัญล้ำค่าให้กับพลเอกหวังเชียวนะ จะบอกว่ามีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองก็ไม่เกินจริงเลย พลเอกหวัง คุณว่าจริงไหม” เขาหันไปถามหวังเซี่ยวคุน
ท่ามกลางสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องอยู่รอบข้าง หวังเซี่ยวคุนเดินฉับๆ เข้าไปหาเฮ่อฮั่นจู่ ยกสองมือขึ้นกุมมือเขาแน่นๆ
“เยียนเฉียว ลุงดีใจมากที่เธอกลับมาได้! คืนนี้เธอไม่ต้องไปที่ไหนนะ พักอยู่บ้านลุงนี่ล่ะ พวกเราจะได้คุยกันโต้รุ่ง ลุงมีเรื่องอยากพูดกับเธอ”
เฮ่อฮั่นจู่เอ่ยขึ้น “ผมมาก็เพราะมีเรื่องอยากพูดกับพลเอกหวังเหมือนกันครับ”
เขาตวัดตามองไปทางโรงแรม “คุยกันที่นี่ดีกว่า พลเอกหวังเห็นว่าอย่างไรครับ”
หวังเซี่ยวคุนอึ้งไป จากนั้นกลับไปมีรอยยิ้มเต็มหน้าตามเดิม “ได้ๆ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น! ลุงตามใจเธอ”
เขาตบแขนเฮ่อฮั่นจู่เบาๆ จากนั้นหันหลังเดินไปทางโรงแรม
เมื่อเกิดเหตุพลิกผันไม่คาดฝันขึ้น งานแต่งงานในคืนนี้จึงยุติกลางคัน โชคดีที่ส่วนของงานพิธีเสร็จสิ้นไปแล้ว แขกทั่วไปไม่มีแก่ใจอยู่ต่อ ขณะที่คนของสกุลหวังง่วนอยู่กับการแก้ไขสถานการณ์ให้เรียบร้อย ช่วยกันส่งแขกกลับพร้อมคำขอโทษขอโพย อีกด้านหนึ่งหวังเซี่ยวคุนมาถึงห้องพักผ่อนห้องหนึ่งในโรงแรมกับเฮ่อฮั่นจู่ภายใต้การอารักขาคุ้มกันอย่างแน่นหนา เขาสั่งให้ทุกคนออกไป เมื่อในห้องเหลือแค่สองคน เขาจับมือเฮ่อฮั่นจู่ซ้ำอีกครั้งแล้วกระชับมือกุมไว้แน่นๆ
“เยียนเฉียว! เคราะห์ดีที่คืนนี้มีเธออยู่ด้วย! ลุงไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกซาบซึ้งในใจออกมาเป็นคำพูดอย่างไรดี ลุงติดหนี้น้ำใจเธอครั้งใหญ่เลยทีเดียว ลุงแค่ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเธอถึงจากไปโดยไม่ลา เธอก็รู้ว่าลูกน้องทุกคนของลุงไม่ได้เหมือนลุงที่เชื่อใจเธอโดยไม่มีเงื่อนไข ลุงอยู่ในตำแหน่งนี้มีหลายต่อหลายเรื่องที่จำเป็นต้องคำนึงถึงความคิดเห็นของคนอื่นด้วย เธอทำอย่างนั้นก่อให้เกิดความเข้าใจผิดมากมายโดยใช่เหตุ มีคนไม่น้อยที่ไม่พอใจเธอมาก มันทำให้ลุงลำบากใจอย่างยิ่ง บางทีเธออาจจะเข้าใจอะไรผิดไป…”
“พลเอกหวัง ตอนนี้ที่นี่ไม่มีคนนอก ยังจะปิดบังเสแสร้งไปเพื่ออะไรอีก” เฮ่อฮั่นจู่ตัดบทเขาฉับ
“ผมรู้เรื่องหมดแล้ว และคุณก็รู้ว่าผมรู้แล้ว ความจริงคืนนี้ผมไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเองเลย แต่ผมยังคงมาอยู่ดี คิดว่าที่ผมมาก็เพื่อฟังคุณพูดเรื่องพวกนี้หรือ” เขาจ้องหน้าหวังเซี่ยวคุนพลางพูดอย่างเยือกเย็น