วันต่อมาเพิ่งฟ้าสางกลุ่มของเฮ่อฮั่นจู่กับซูเสวี่ยจื้อก็ออกจากโรงแรมที่พักเมื่อคืนไปยังท่าเรือใหญ่เอง เพื่อไม่ให้ใครต่อใครตามไปส่งกันวุ่นวาย
พวกเขาจะลงเรือกลไฟที่นั่น ล่องไปตามแม่น้ำสายเดิมที่คนทั้งสองออกเดินทางมาด้วยกันในปีนั้น กลับไปสู่จุดเริ่มต้นของเขากับเธอ
เพราะยังเช้ามากบริเวณท่าเรือจึงมีผู้คนบางตา ผืนเมฆบางเบาตรงเส้นขอบฟ้าอาบย้อมด้วยแสงอรุณรุ่งเรื่อเรือง พยากรณ์ได้ว่าวันนี้อากาศปลอดโปร่งแจ่มใส
ตอนไปถึงทั้งสองลงรถไม่ทันไรก็เห็นกลุ่มคนสิบกว่าคนสาวเท้าเร็วรี่มาจากอีกทาง แต่ละคนผิวพรรณดำคล้ำร่างกายบึกบึนล่ำสัน คนนำหน้าก็คือหวังหนีชิว
เฮ่อฮั่นจู่อึ้งงัน เขาสบตากับซูเสวี่ยจื้อแล้วเดินไปหาโดยไม่รอช้า
“หัวหน้าสาม! พวกคุณมาที่นี่ได้อย่างไรคะ”
ซูเสวี่ยจื้อเห็นหวังหนีชิวแล้วรู้สึกสนิทสนมเหมือนได้เจอกับคนในครอบครัวเดียวกัน เธอถามอย่างดีใจ
เธอคิดถึงจ้าวมังกรเจิ้ง แม่ของเธอเยี่ยอวิ๋นจิ่น ยังมีคุณลุงเยี่ยหรู่ชวน ตั้งแต่เธอกลับมาคราวก่อนพริบตาเดียวก็ผ่านไปตั้งนานขนาดนี้ พอเห็นหวังหนีชิวปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เธอก็ค้นพบว่าตนเองชักคิดถึงทุกคนแล้วจริงๆ
เขาพาคนเข้ามาแสดงคำนับเฮ่อฮั่นจู่กับซูเสวี่ยจื้ออย่างนอบน้อมเป็นพิธีรีตองก่อนแล้วไต่ถามทุกข์สุขเสียงดัง เห็นทั้งสองคำนับตอบ เขารีบเบี่ยงตัวหลบ โบกมือไปมาบอกว่าไม่กล้ารับไว้ เมื่อทักทายกันเรียบร้อยเขาจึงเอ่ยอธิบาย “ความจริงผมพาพวกพี่น้องมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตั้งใจจะมารับผู้บัญชาการเฮ่อกับคุณหนูซู แต่เห็นว่าคนเยอะแยะเลยไม่ได้เข้าไปร่วมวง เช้านี้ถึงมาที่นี่เพื่อรอต้อนรับพวกคุณครับ”
เฮ่อฮั่นจู่กล่าวขอบคุณเขา “ขอบคุณในน้ำใจของหัวหน้าสามนะครับ แล้วก็ขอบคุณพี่น้องทุกคนด้วย ทำให้ลำบากกันไปหมด”
หวังหนีชิวตอบอย่างถ่อมตัวว่าไม่เป็นไร บอกว่าเป็นหน้าที่ที่เขาควรทำอยู่แล้ว คนข้างหลังก็พากันรับเป็นลูกคู่เสียงดังขรม ซูเสวี่ยจื้อฟังเฮ่อฮั่นจู่กับหวังหนีชิวพูดโต้ตอบกันไปมาตามมารยาทไม่จบไม่สิ้นสักที เธออดพูดแทรกขึ้นไม่ได้ “หัวหน้าสาม ตอนนี้ท่านหัวหน้าใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีไหมคะ”
เธอหวนนึกถึงสิ่งละอันพันละน้อยจากการอยู่ร่วมกับจ้าวมังกรเจิ้งในช่วงที่พักอยู่ในสมาคมชาวน้ำตอนกลับมาครั้งที่แล้วก็รู้สึกอบอุ่นตรงกลางใจระลอกหนึ่ง
หวังหนีชิวรู้มาโดยตลอดว่าจริงๆ แล้วคุณชายสกุลซูเป็นผู้หญิง ดังนั้นเมื่อครู่พอเห็นเธอในชุดนี้ แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง แต่ไม่ได้แสดงออกนอกหน้าเกินไป แค่เปลี่ยนคำเรียกเธอว่าคุณหนูซูไปเสียเลย พอได้ยินเธอถาม เขาโค้งคำนับเธอตามพิธีรีตองอีกครั้งเป็นการแสดงคารวะต่อเธอโดยเฉพาะ ถึงตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง “คุณหนูซูวางใจได้ครับ สุขภาพร่างกายของท่านหัวหน้าใหญ่ไม่มีปัญหาอะไร สบายดีทุกอย่าง พอรู้ว่าคุณหนูจะกลับมาพร้อมกับผู้บัญชาการเฮ่อ ผมเห็นท่านดีใจมากเลยครับ” แค่ว่ายังเก็บความรู้สึกไม่แสดงออกเหมือนเดิมเท่านั้นเอง หวังหนีชิวรำพึงอยู่ในใจ ไม่ได้พูดออกมา
ซูเสวี่ยจื้อพูดยิ้มๆ “เป็นอย่างนั้นก็ดีค่ะ ไว้กลับไปถึงฉันค่อยไปเยี่ยมท่านหัวหน้าใหญ่ ถือโอกาสตรวจร่างกายให้ท่านอีกที”
“ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง ผมขอขอบคุณคุณหนูแทนท่านหัวหน้าใหญ่ก่อนเลยครับ”
หวังหนีชิวพาคนไปเปิดทางข้างหน้าอย่างยิ้มแย้ม จากนั้นตะโกนเสียงดังว่า “สายลมจงหนุนส่งเรือ สายน้ำจงเปิดสู่ฝั่ง! ขอเชิญผู้บัญชาการเฮ่อและคุณหนูซูลงเรือ เดินทางโดยสวัสดิภาพ กลับถึงบ้านในเร็ววัน!”