ในดวงตาของจ้าวมังกรเจิ้งมีเงาสะท้อนของดอกไม้ไฟสีสันระยิบระยับบนผืนนภาฝั่งตรงข้าม เขาอมยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ฉันควรไปได้แล้ว ไว้พบกันใหม่นะ”
หวังหนีชิวอาลัยอาวรณ์สุดจะกล่าว เขายังคงไม่ถอดใจโดยสิ้นเชิง พูดหว่านล้อมซ้ำอีกครั้ง “ท่านหัวหน้าใหญ่ ผมรับหน้าที่สำคัญอย่างนี้ไม่ไหวจริงๆ…”
จ้าวมังกรเจิ้งโบกมือไปมา “ร่างกายฉันไม่แข็งแรงเท่าแต่ก่อน ฉันคิดจะมอบหมายให้แกมาตั้งนานแล้ว แกไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอก ฉันไว้ใจแกมาก แล้วก็ไม่ต้องเป็นกังวลเกินไป วันหลังมีเรื่องตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ก็ไปปรึกษาเยียนเฉียวก็ได้”
ใบหน้าเขามีรอยยิ้ม หากแต่ในรอยยิ้มนั้นแฝงความน่าเกรงขามไว้
หวังหนีชิวชะงักนิดหนึ่งก่อนผงกหัว “หลังจากนี้ผมและพี่น้องทั้งหลายสาบานว่าจะทุ่มกายถวายชีวิตให้ผู้บัญชาการเฮ่ออย่างแน่นอน ท่านหัวหน้าใหญ่วางใจได้ แต่ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี ขอบังอาจถามสักคำ ท่านหัวหน้าใหญ่จะล้างมือในอ่างทองคำก็ช่างเถอะ แต่เพราะอะไรต้องจากไปด้วยขอรับ”
จ้าวมังกรเจิ้งทำหน้ายิ้มน้อยๆ ดุจเก่า เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “เจ้าสาม ตลอดชีวิตฉันฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ฉันเหนื่อยหน่ายแล้วก็อ่อนล้าเต็มที ฉันตั้งใจมาแต่แรกแล้วว่าถ้าฉันโชคดีมีชีวิตรอดมาได้ วันหน้าก็จะกลับไปที่ด่านจยาเหมินในหลูซาน พ่อของฉัน ยังมีลุงอาและพี่น้องที่ตายไปในตอนนั้นอีกมากมาย ทุกคนล้วนหลับนิรันดร์อยู่ที่นั่น ฉันอยากกลับไปเป็นคนเฝ้าสุสาน”
หวังหนีชิวอึ้งไป จากนั้นมองเหลียวหลังไปทางอำเภอแห่งนั้นแวบหนึ่งโดยไม่รู้ตัวแล้วทำท่าอึกๆ อักๆ
รอยยิ้มบนหน้าจ้าวมังกรเจิ้งค่อยๆ เลือนหายไป เขาเบือนหน้ามองไปยังทิศทางนั้นอึดใจหนึ่ง ค่อยมองดอกไม้ไฟเต็มฟ้าเบื้องหน้าอีกครา ดวงหน้าซึ่งเต็มไปด้วยเส้นสายแข็งกระด้างจากการเคี่ยวกรำของกาลเวลาถึงอ่อนละมุนลง
“เจ้าสาม เป็นอย่างตอนนี้ดีที่สุดแล้ว
สวรรค์เมตตาฉันแล้ว” เขาพูดเบาๆ ราวกับพูดให้หวังหนีชิวฟัง ทั้งคล้ายบอกกับตนเอง ต่อจากนั้นเขาหันกลับมามองหวังหนีชิว เปลี่ยนเรื่องพูดยิ้มๆ “แกต่างหาก ยังหนุ่มยังแน่น หากอีกหน่อยได้เจอกับผู้หญิงดีๆ ก็กลับตัวกลับใจซะ ดูแลเอาใจใส่หล่อนให้ดี เลิกรักสนุกไปเรื่อยๆ ได้แล้ว”
หวังหนีชิวคิดไม่ถึงว่าจ้าวมังกรเจิ้งจะรู้แม้แต่เรื่องนี้ เขาเหงื่อแตกหน้าแดงจรดใบหู ลุกลนขานรับ
จ้าวมังกรเจิ้งอมยิ้มพยักหน้า เขามองไปยังทิศทางที่ลูกสาวของเขาอยู่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วไม่รั้งรออีก หันหลังก้าวลงเรือลำเล็กที่จอดอยู่ริมแม่น้ำ
ตรงหัวเรือในความมืด ชายฉกรรจ์หัวล้านคนหนึ่งลุกขึ้นยืนประสานมือให้พวกหวังหนีชิวบนตลิ่ง จากนั้นนำเรือออกจากฝั่ง
หวังหนีชิวนำหน้าพาลูกน้องไปคุกเข่าคำนับอำลาที่ริมแม่น้ำ จ้าวมังกรเจิ้งยืนอยู่ตรงหัวเรือส่งยิ้มพลางโบกมือบอกให้กลับไป
แสงจันทร์สาดส่องสายน้ำ เรือลำน้อยล่องลอยตามคลื่นห่างออกไปทุกทีพร้อมกับเสียงจุดดอกไม้ไฟฉลองทั่วเมืองแว่วมาจากที่ไกล
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน พฤษภาคม 2567)